TRC ตั้งเป้าหมายรายได้ 2,000 ล้านบาท มุ่งเน้นงานในประเทศ และพร้อมขยายออกสู่งานต่างประเทศ

ข่าวอสังหา Wednesday April 1, 2009 12:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 เม.ย.--ออนไลน์ แอสเซ็ท "สมัย ลี้สกุล" เผยปีนี้ TRCวางเป้าหมายรายได้ 2,000 ล้านบาท ยังไม่รวมงานต่างประเทศที่ได้เริ่มเข้าประมูล กลุ่มลูกค้ารายใหญ่ยังขยายงานตามแผน หนุนให้มีงานเข้าประมูลต่อเนื่อง ณ สิ้นธันวาคม 2551 backlog ในมือสูงถึง 1,500 ลบ. รับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ 90% พร้อมเดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานเพิ่ม มั่นใจสิ้นปีสามารถสร้างรายได้ 2,000 ลบ.ตามเป้าหมายได้สำเร็จ แม้ภาพรวมของเศรษฐกิจยังอยู่ในภาวะชะลอตัว นายสมัย ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC เปิดเผยถึงทิศทางการขยายธุรกิจในปีนี้ว่ายังให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะงานในกลุ่มก่อสร้างและวิศวกรในงานวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ในธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีซึ่งเป็นงานที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ และธุรกิจยังเติบโตต่อเนื่อง ตามการขยายงานของผู้ประกอบการในประเทศ นอกจากนั้นยังมีงานด้านวางแผนวิศวกรรม และพัฒนาโครงการ ทั้งทางด้านอสังหาริมทรัพย์ โรงไฟฟ้า และโรงงานปิโตรเคมี ในลักษณะ Turn Key ซึ่งเป็นงานที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับงานก่อสร้างทั่วไป ในขณะที่บริษัทฯ มีความพร้อมที่จะขยายงานในรูปแบบดังกล่าวเป็นอย่างดี “ในปี 2552 งานในประเทศยังเป็นตลาดหลักของเรา โดยเฉพาะงานวางท่อก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นงานที่เราถนัดและฝากฝีมือในวงการนี้มายาวนาน ในปีนี้ก็ยังมีต่อเนื่องและมีงานใหม่เข้ามาเพิ่มด้วย โดยนอกจากงานท่อขนาดเล็กเพื่อส่งไปยังผู้ใช้ปลายทาง หรือ Distribution Pipeline จาก บมจ. ปตท. ที่เป็นงานหลักแล้ว คาดว่าในไตรมาสที่ 2 หรือ 3 บริษัทฯ จะร่วมกับพันธมิตร CPP (บริษัท ไซน่า ปิโตรเลียม ไพพ์ไลน์ บูโร หรือ CPP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ไซน่า ปิโตรเลียม คอร์เปอเรชั่น หรือ CNPC เป็นกลุ่มบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน) เข้าร่วมประมูลโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 4 เป็นท่อก๊าซขนาด 36 และ 42 นิ้ว เพื่อรองรับก๊าซจากโครงการสถานีรับจ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ LNG Terminal และรองรับโรงไฟฟ้าผู้ผลิตเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี) ซึ่งมีกำหนดไฟฟ้าเข้าสู่ระบบในปี 2555 อีกทั้งยังมีงานก่อสร้างสถานี NGV ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น รองรับรถที่ใช้ NGV ต่อเนื่องจากงานที่บริษัทฯ ได้รับมาในปี 2551 จำนวน 14 สถานีด้วย” นายสมัยกล่าวต่อว่า ถึงแม้ว่าในปีนี้บริษัทฯจะมุ่งรับงานในประเทศเป็นหลัก แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่หยุดที่จะแสวงหาโอกาสในการขยายงานในต่างประเทศควบคู่กันไปด้วย โดยที่ผ่านมาได้เข้าร่วมกับพันธมิตรเสนองานในประเทศโอมาน และยังเสนองานในประเทศเพื่อนบ้าน คือ สาธารณรัฐพม่า โดยได้รับงาน Long Term Contract for Piping and Steel Structural Works และ Steel Structure Support Flame For Wind Turbine บนแท่นจุดเจาะน้ำมัน YADANA COMPLEX จาก Total E&P Myanmar ด้วย ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และหลังจากนี้คาดว่าจะได้รับงานอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นในอนาคต นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังคงมุ่งที่จะศึกษาและเข้าลงทุนในโครงการที่จะนำมาซึ่งรายได้ที่ต่อเนื่องในระยะยาวให้กับบริษัทฯ ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ร่วมลงทุนกับบริษัท เจตาแบค จำกัด ผู้ผลิตและประกอบโลหะขึ้นรูป อาทิเช่น boiler, pressure vessel, and heat exchanger จัดตั้ง บริษัท ไทยเพรสเซอร์เวสเซิลแอนด์สตีลเวิร์ค จำกัด ขึ้นเพื่อผลิตและประกอบผลิตภัณฑ์โลหะขึ้นรูป โดยบริษัทดังกล่าวจะมีทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท TRC ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 40 ส่วนบริษัท เจตาแบค จำกัด จะถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 60 ซึ่งคาดว่าจะเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่ช่วยเพิ่มรายได้อย่างยั่งยืนให้กับ TRC ในอนาคต ส่วนในปีนี้ เชื่อว่าจะผลักดันให้รายได้เติบโตขึ้นสู่ระดับ 2,000 ล้านบาทได้ จากปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 1,814 ล้านบาท เนื่องจากหากพิจารณาจากงานที่มีอยู่ในมือ (Backlog) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 บริษัทฯ และบริษัทย่อย (บริษัท สหการวิศวกร จำกัด) มีงานในมือรวมกันทั้งสิ้น 23 โครงการ รวมมูลค่า 1,501.50 ล้านบาท โดยคาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ถึง 90% นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังเข้าร่วมประมูลอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มปริมาณงานในมือให้สูงขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะสนับสนุนให้รายได้ในปี 2552 ของบริษัทฯ ให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ ถึงแม้ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและเศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะชะลอตัว ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : จุฬารัตน์ เจริญภักดี (ฟ้า) 089-4888337 / 02-5549395

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ