กรุงเทพฯ--12 ธ.ค.--PRdd
บิวท์ ทู บิวด์ บริษัทรับสร้างบ้านระดับบนชี้แนวโน้มธุรกิจปีหน้ามีทั้งปัจจัยลบจากการชะลอตัวจากเศรษฐกิจอเมริกาที่กระทบส่งออกและปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวช่ วยดึงราคาน้ำมัน เงินเฟ้อ ดอกเบี้ยต่ำลง รวมทั้งความชัดเจนของโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานช่วยสร้างความเชื่อมั่น ยังมองแง่ดีธุรกิจยังไปได้ท่ามกลางการแข่งขันสูงขึ้น ฟันธงผู้บริโภคได้ประโยชน์ถือเป็นปีที่เหมาะลงทุนด้านที่อยู่อาศัย
นายสุธี เกตุศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิวท์ ทู บิวด์ จำกัด ในฐานะผู้นำธุรกิจรับสร้างบ้านคุณภาพสูงระดับราคา 3 ล้านบาท เปิดเผยถึงแนวโน้มของธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2550 ว่า น่าจะอยู่ในระดับที่ทรงตัวจากปี 49 ที่ไม่เติบโตมากนักเนื่องจากปัจจัยลบต่างๆทั้งราคาน้ำมัน เงินเฟ้อ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศ ซึ่งส่งผลอย่างชัดเจนในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา จนทำให้กำลังซื้อที่อยู่อาศัยชะลอตัวลง
นายสุธีกล่าวว่า ถึงแม้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีบ้างจากราคาน้ำมันที่ปรับลดช่วยให้เงินเฟ้อลดลงโดยส่งผลต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดล งเช่นกัน แต่ยังมีปัจจัยลบที่ต้องจับตามองจากสถานการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่จะชะลอตัวลงในปีหน้า ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับลดและมีผลกระทบต่อผู้ส่งออกจากพิษเงินบาทแข็ง นอกจากนี้ประเทศไทยยังเป็นประเทศพึ่งพาการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาถึง 70% ย่อมได้รับผลกระทบในด้านการใช้สอยเพื่อการผลิตลดลง
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกในแง่ผลกระทบทางเศรษฐกิจของประเทศจีนที่คาดว่าจะชะลอตัวลงจากการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาด้วยเช่นเดียวกัน ทำให้หลายฝ่ายมองว่าการบริโภคพลังงานน้ำมันของจีนจะลดลงทำให้ส่งผลต่อการปรับลดราคาน้ำมันในตลาดโลกปีหน้า ซึ่งจะช่วยให้เงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยลดลงตามไปด้วย และเมื่อพิจารณาจากการประกาศโครงการเมกกะโปรเจคของรัฐบาลแล้วก็เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปีหน้าเช่นกัน
"แม้หลายสำนักจะออกมาเตือนให้เตรียมรับมือกับปัญหาภาวะเศรษฐกิจของอเมริกาในปีหน้าเรามองว่าน่าจะกระทบต่อธุรกิจส่งออกของไทย แต่ไม่น่าจะส่งผลต่อวิถีชีวิตคนทำงานทั่วไปนัก และเชื่อว่าธุรกิจรับสร้างบ้านจะยังขยายตัวได้แต่ไม่หวือหวามากนักเพราะความต้องการที่อยู่อาศัยซึ่งถือเป็นปัจจัย 4 ของคนยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่การตัดสินใจของผู้บริโภคจะพิจารณาเรื่องงบประมาณเป็นสำคัญ ซึ่งแนวโน้มของบ้านราคาระดับกลางจะได้รับการตอบรับมากขึ้น" นายสุธีกล่าวพร้อมให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการแข่งขันว่า
ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านในปีหน้าจะแข่งขันรุนแรงมากขึ้นเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาด โดยเฉพาะการแข่งขันด้านคุณภาพและบริการเพื่อรักษาความเชื่อมั่นต่อกลุ่มผู้บริโภค เมื่อรวมกับปัจจัยบวกด้านพลังงาน เงินเฟ้อ ดอกเบี้ยที่จะต่ำลง อีกทั้งราคาบ้านที่ยังไม่ปรับเพิ่มขึ้นจากต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ไม่สูงขึ้นแล้วทำให้เชื่อว่าปีหน้าจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้บริโภคที่คิดจะมีบ้านซ ึ่งจะได้ประโยชน์สูงสุด
นายสุธีกล่าวถึงการดำเนินงานของบริษัทฯในช่วงที่ผ่านมาว่า ถึงแม้จะมีปัจจัยลบเข้ามามาก แต่บริษัทฯก็ยังมีรายได้ใกล้เคียงกับปี 48 หรือประมาณ 250 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้าจะเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมากนัก อีกทั้งยังไม่มีปัญหาด้านการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน เนื่องจากมีที่ดินของตนเองอยู่แล้ว
สำหรับแผนงานในปีหน้า บริษัทฯ เตรียมออกแบบบ้านในระดับราคา 3-4 ล้านบาท เพื่อขยายฐานลูกค้าระดับกลางมากขึ้น ซึ่งโดยปกติบริษัทฯ จะรับสร้างบ้านเฉลี่ยที่หลังละประมาณ 4-5 ล้านบาท โดยในช่วงปีใหม่นี้ บริษัทฯขอมอบของขวัญพิเศษสำหรับลูกค้าที่รักในแบรนด์ บิวท์ ทู บิวด์ ได้เป็นเจ้าของบ้านคุณภาพของบริษัทฯ จึงได้นำแบบบ้าน 8 แบบ ซึ่งได้รับความนิยมจากลูกค้าของบิวท์ ทู บิวด์ นำมาจัดเป็นโปรโมชั่นสร้างบ้านราคาเดียวในราคาตารางเมตรละ 11,000 บาทเรื่อยไปจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2550 โดยจำนวนจำกัดเพียง 20 หลังเท่านั้น ซึ่งโดยปกติบริษัทจะสร้างบ้านเฉลี่ยที่ตารางเมตรละ 13,000 บาท นอกจากนี้บริษัทฯยังมีการทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และการร่วมแสดงนิทรรศการรับสร้างบ้านตลอดปี โดยบริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปีหน้าประมาณ 300 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโตประมาณ 15%
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ
PRdd ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
โทร. 02-953-8633, 02-953-8723 หรือ ลัคคณา 089-488-1777 และ สุจิรา 081-629-1821