กรุงเทพฯ--7 เม.ย.--พม.
วันนี้ (๗ เม.ย.๒๕๕๒) ที่โรงแรมปรินซ์ พาเลซ กรุงเทพฯ นางนวลพรรณ ล่ำซำ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวในพิธีเปิดการประชุมสมัชชาผู้สูงอายุระดับชาติ ปี ๒๕๕๒ เรื่อง การดูแลผู้สูงอายุ ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๗ — ๘ เมษายน ๒๕๕๒ เนื่องในโอกาสวันผู้สูงอายุแห่งชาติ (๑๓ เมษายน) ว่า ข้อมูลจากกรมการปกครอง พ.ศ. ๒๕๕๒ ระบุว่า ประเทศไทย มีประชากร ๖๓.๔ ล้านคน เป็นประชากรสูงอายุประมาณ ๗.๒ ล้านคน หรือร้อยละ ๑๑.๓ ของประชากรทั้งประเทศ แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Ageing Society) กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้กำหนด ๓ แนวทางสำคัญเพื่อรองรับปัญหา คือ
๑. สร้างความตระหนักเรื่องสุขภาพกายใจ เศรษฐกิจ และการดูแลตนเอง ซึ่งจะต้องมีการเตรียมตัวว่าจะอยู่อย่างไร อยู่กับใคร
๒. เตรียมสังคมให้พร้อมที่จะดูแลผู้สูงอายุ โดยใช้ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนร่วมเป็นกลไกเตรียมพร้อมตั้งแต่ระดับชุมชนถึงระดับประเทศ
๓. ส่งเสริมผู้สูงอายุให้มีส่วนร่วม ด้วยการใช้ศักยภาพของกลุ่ม/ชมรมผู้สูงอายุ เพื่อพัฒนาตนเองและพัฒนาสังคม เช่น โครงการคลังปัญญาผู้สูงอายุ โครงการอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน
“การเตรียมความพร้อมเรื่องการดูแลผู้สูงอายุ เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ เพราะคนเรามีอายุยืนยาวขึ้น ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่ามีผู้สูงอายุที่ต้องอยู่คนเดียวเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปี ๒๕๔๕ ร้อยละ ๖.๓ ปี ๒๕๔๘ ร้อยละ ๗.๑ และปี ๒๕๕๐ มีจำนวนสูงถึงร้อยละ ๗.๗ ผู้สูงอายุเหล่านี้ประสบปัญหาขาดคนดูแล ไม่เฉพาะแต่ผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวเท่านั้น กลุ่มที่อยู่กับครอบครัวก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะลูกหลานต้องไปทำงาน และความนิยมแยกครอบครัวออกไปอยู่ตามลำพัง หน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาการขาดคนดูแลผู้สูงอายุ และได้เร่งศึกษาระบบการดูแลผู้สูงอายุ จึงเป็นประเด็นสำคัญในการประชุมสมัชชาผู้สูงอายุแห่งชาติในปีนี้ เพื่อนำไปเป็นข้อเสนอเชิงนโยบาย และนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป และในการประชุมครั้งนี้ เราจะได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของระบบการดูแลผู้สูงอายุ ทั้งในรูปแบบชุมชน และสถาบันด้วย” นางนวลพรรณ กล่าว