16 ปี ระบบประกันสังคม ยกระดับและเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ประกันตน

ข่าวทั่วไป Friday September 1, 2006 16:03 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--สปส.
นับจากวันที่ 3 ก.ย.2533 จุดเริ่มต้นที่ได้มีระบบประกันสังคมในประเทศไทย จนถึงวันนี้ ผ่านมา16 ปีแล้ว
หน้าที่หลักให้ความคุ้มครองและหลักประกันแก่ลูกจ้างที่ประสบอันตราย เจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย ทั้งที่เนื่องจากการทำงานและไม่เนื่องจากการทำงาน รวมถึงคลอดบุตร สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และว่างงาน
สำนักงานประกันสังคม ในยุคของ ดร.ไพโรจน์ สุขสัมฤทธิ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ดูแลรับผิดชอบผู้ประกันตน จำนวน 8,743,373 ราย สถานประกอบการ 371,165 แห่ง จากวันนี้ไป สปส.จะเดินหน้าพัฒนาการทำงานรองรับการให้บริการให้เกิดความพึงพอใจทั้งผู้ให้-ผู้รับบริการ และความเชื่อมั่นในระบบประกันสังคม โดยยึดหลักโปร่งใส สอบถามและตรวจสอบข้อมูลได้ตลอดเวลา รวมทั้งเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคม
ในรอบปีที่ผ่านมา สปส.ได้เพิ่มสิทธิประโยชน์และสวัสดิการให้สมาชิกประกันสังคม เริ่มที่กรณี ทันตกรรม-คลอดบุตร-สงเคราะห์บุตร
โครงการบ้าน สปส.1506 เพื่อให้ผู้ประกันตนได้มีที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพเป็นของตนเอง โดยผ่อนกับธนาคารพาณิชย์ 4 ธนาคารในโครงการระยะที่ 1 ได้แก่ ธนาคารนครหลวงไทย กสิกรไทย กรุงศรีอยุธยา และไทยธนาคาร ดอกเบี้ย 2.5% เป็นระยะเวลา 5 ปี โดย สปส.นำเงินไปฝากไว้กับธนาคารทั้ง 4 แห่ง ตามจำนวนเงินที่ธนาคารได้ปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ประกันตนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
โครงการเพิ่มมูลค่าบัตรประกันสังคม ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายผู้ประกันตนในการซื้อสินค้าและบริการ โดยผู้ประกันตนจะได้รับส่วนลดตั้งแต่ 3-60% กับสินค้ามากกว่า 12 ประเภท จากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ 7,240 แห่งทั่วประเทศ เพียงแสดงบัตรประกันสังคม/บัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล ที่มีป้าย ‘ยินดีมอบส่วนลดกับผู้แสดงบัตรประกันสังคม หรือบัตรรับรองสิทธิรักษาพยาบาล’
ประกันสังคมสุขใจ เมื่อประกันภัยกับทิพย บมจ.ทิพยประกันภัย ร่วมกับ สปส.มอบส่วนลดพิเศษด้านการประกันวินาศภัยทุกประเภทให้นายจ้าง ลูกจ้าง ข้าราชการและลูกจ้างกระทรวงแรงงาน ขณะที่ประเทศกำลังเกิดวิกฤติค่าครองชีพ ผู้ใช้แรงงานต้องเผชิญกับรายจ่ายมาก รายได้น้อย ไม่มีเงินออม สปส.ใช้ศักยภาพขององค์กรเจรจาและดึงภาคเอกชนเข้าช่วยเหลือสังคมในภาวะน้ำมันและสินค้ามีราคาแพง จัดทำ โครงการสวัสดิการผู้ประกันตน 4 โครงการ ขึ้นโดยไม่ได้ใช้เงินกองทุนเลย ได้แก่
โครงการลดค่าครองชีพผู้ประกันตนด้านอุปโภคบริโภค ร่วมกับห้างแม็คโคร ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และคาร์ฟูร์ มอบส่วนลดในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ประหยัด 3-5%จากราคาปกติ
โครงการติดตั้งอุปกรณ์ NGV เพื่อผู้ประกันตน ร่วมกับบริษัทพี-เอ็นเนอร์ยี ให้บริการติดตั้งสำหรับรถที่ใช้น้ำมันเบนซินและดีเซล และ บมจ.ล็อกซ์เลย์ ให้บริการติดตั้งเฉพาะรถตู้คอนเทนเนอร์ และรถจักรหัวลากเท่านั้น ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งผ่อนได้ในอัตราดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 60 เดือน
โครงการรถจักรยานยนต์ราคาพิเศษ ร่วมมือกับผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์ 7 แห่ง ได้แก่ ฮอนด้า ยามาฮา ซูซูกิ วารีตะ ไทเกอร์ แพล็ททินัม และการูด้า โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยาสนับสนุนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ ผ่อนตั้งแต่ 970-1,790 บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่น ซึ่งรถทุกคันมีสีน้ำเงินแถบทองมีตราสัญลักษณ์ สปส.1506 เป็นรถดี มีคุณภาพ ผลิตออกมาใหม่ เป็นรุ่นยอดนิยมและมียอดขายสูงสุดของแต่ละบริษัท ไม่นำรถค้างสต๊อกมาจำหน่าย
โครงการเครื่องใช้ไฟฟ้าราคาประหยัดเพื่อผู้ประกันตน ร่วมมือกับบริษัท แอลจี อีเล็คทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้ในครัวเรือน ในราคาต่ำกว่าท้องตลาด
นโยบายการสร้างสวัสดิการให้แก่สมาชิก เป็นความปรารถนาดีของสปส.ที่มีต่อผู้ประกันตน ต้องการดูแล ตลอดจนให้ผู้ประกันตนมีความมั่นคงทางสังคมและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย เอื้อประโยชน์ให้ผู้มีรายได้น้อยซึ่งเป็นผู้ประกันตนส่วนใหญ่
ท่ามกลางเสียงสะท้อนทั้งสองด้าน ทั้งเสียงชื่นชมและเสียงแสดงความไม่พึงพอใจเท่าที่ควรเป็นเรื่องธรรมดา ทุกโครงการได้ผ่านการกลั่นกรองเป็นขั้นเป็นตอน อยู่ที่ว่าใครจะมองมุมใด!
ทว่า สปส.ไม่ปฏิเสธว่ามีข้อเสนอ /ร้องเรียนจากผู้ประกันตน ตลอดจนร่องรอยของปัญหาที่เกิดขึ้น สปส.รับฟังและพร้อมทบทวนเพื่อแก้ไขให้ดีขึ้น ไม่เห็นข้อร้องเรียนหรือข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย
หลายคนมองว่า สปส.บริหารงานไม่โปร่งใส ไม่ชัดเจน การเพิ่มสวัสดิการให้กับสมาชิกมีบางคนบางกลุ่มได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของนักวิชาการ ผู้นำแรงงานบางคนที่ออกมาแสดงความกังขาในหลายแง่หลายประเด็น
ผลตามมาคือ สำนักงานประกันสังคมขาดความน่าเชื่อถือ เพราะข้อมูลที่นำเสนอถูกบิดเบือนทั้งที่ สปส.เปิดเผยและให้สอบถามข้อมูลตลอดเวลา
โดยเฉพาะเรื่อง เงินกองทุนประกันสังคม ที่มักถูกนำไปเชื่อมโยงกับการเพิ่มสิทธิต่าง ๆ เสมอเงินหน้าตักจำนวนนี้ ได้จากการส่งเงินสมทบร่วมกันของรัฐบาล นายจ้าง และลูกจ้าง ยิ่งนับวันยิ่งเพิ่มพูน แต่มีข้อผูกมัดว่า ต้องนำไปจ่ายประโยชน์ทดแทนให้ผู้ประกันตน หากจะนำไปลงทุนอยู่ภายใต้กรอบการลงทุนที่กำหนดโดยคณะกรรมการประกันสังคม ได้แก่ ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง และผู้แทนฝ่ายรัฐบาล ถูกกำกับดูแลโดยคณะกรรมการประกันสังคมอย่างใกล้ชิด การลงทุนของกองทุนมีจุดหมายเพื่อแสวงหาผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับที่เหมาะสม และเสริมสร้างความมั่นคงในระยะยาว ตลอดจนได้รายงานสถานภาพการลงทุนผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างเปิดเผยและต่อเนื่อง
ผลการบริหารเงินกองทุนประกันสังคม ณ เดือนมิถุนายน 2549 กองทุนประกันสังคม มีเงินลงทุนรวม 370,577 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินกองทุน 4 กรณี เจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพและตาย จำนวน 56,642 ล้านบาท เป็นเงินกองทุนกรณีสงเคราะห์บุตรและชราภาพ จำนวน 297,940 ล้านบาท และกรณีว่างงาน จำนวน 15,994 ล้านบาท เงินลงทุนทั้งหมดแบ่งลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง ร้อยละ 85 และลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยง ร้อยละ 15
ในช่วง 6 เดือนแรกของปี (1ม.ค.-30 มิ.ย.2549) สำนักงานประกันสังคมบริหารเงินกองทุนได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนจำนวน 8,272.16 ล้านบาท ทั้งนี้ กองทุนได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนย้อนหลัง 12 เดือน (ตั้งแต่1 ก.ค.2548-30 มิ.ย.2549) ร้อยละ 4.46
นายไพโรจน์ ฯ กล่าวว่า ‘การบริหารงานของ สปส.ในยุคนี้ยึด ‘คน’ เป็นตัวตั้ง หยิบยกปัญหา/ ความต้องการนั้นมาพิจารณาก่อนจะที่ปรับเพิ่มสวัสดิการใด ๆ และหาแนวทางช่วย ในขณะเดียวกันต้องดูเสถียรภาพของกองทุนด้วย หากกองทุนมีความมั่นคงก็สามารถเพิ่มสิทธิประโยชน์ได้ ไม่มีมือที่สามเข้าแทรกแซงให้ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และไม่มีโครงการใดที่ล้มเหลว’
ไม่ว่าจะขวบปีที่เท่าไร ... สปส. ยังคงเดินหน้าพัฒนาเพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับบริการที่มีประสิทธิภาพ ถือเป็นหัวใจสำคัญ และในปีที่ 17 เน้นเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการทางการแพทย์ โดยจัดตั้ง ‘ศูนย์พึ่งได้’ รับเรื่องและให้คำปรึกษาบริการทางการแพทย์ จัดทีมแพทย์เข้าไปตรวจสอบการบริการตามโรงพยาบาล ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ สปส.กำหนด โครงการโรงพยาบาลในดวงใจ ให้รางวัลแก่โรงพยาบาลเพื่อกระตุ้นให้โรงพยาบาลส่งเสริมประสิทธิภาพการบริการที่ดีขึ้น ให้ทุนการศึกษาแก่ทันตแพทย์และพยาบาลเพื่อส่งเสริมการบริการแก่ผู้ประกันตน และสนับสนุนสถานพยาบาลให้จัดบริการ One Stop Service เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกันตน
ไม่ใช่เพื่อลบภาพว่า เป็นการรักษาแบบแบ่งชั้นวรรณะตามที่สังคมกล่าวขาน หากแต่เป็นเจตนารมณ์ของ สปส.ที่มุ่งมั่นและพร้อมให้บริการที่ดีที่สุดแก่ผู้ประกันตนอยู่แล้ว
นอกจากนี้ จะขยายความคุ้มครองไปสู่แรงงานนอกระบบ และขยายความคุ้มครองถึงคนในครอบครัวผู้ประกันตนด้วย รวมถึงออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่ขาดส่งเงินสมทบเกิน 3 เดือนและให้ผู้ประกันตนที่ขาดส่งเงินสมทบ กลับเข้าสู่ระบบประกันสังคมใหม่ ตามมาตรา 33 (กรณีที่เป็นลูกจ้างและมีนายจ้าง) โดยไม่คิดเงินเพิ่มตามกฎหมายประกันสังคม
ผู้ประกันตนที่มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ ไม่ต้องจ่ายเงินสมทบกรณีว่างงาน เนื่องจากกฎหมายประกันสังคมกำหนดว่า ผู้มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน ต้องไม่ใช่ผู้มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ สำหรับผู้ประกันตนที่อายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ เมื่อออกจากงานความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลงและรับเงินชราภาพ จึงไม่สามารถรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานและไม่ควรจ่ายเงินสมทบกรณีว่างงาน
ไม่ใช่นโยบายขายฝัน หรือเป็นกระบอกเสียงให้ใคร ตามที่ตั้งข้อสังเกตกันว่าทำไมนโยบายต่าง ๆ ถึงออกมาในช่วงก่อนการเลือกตั้ง แต่นี่คือ ... ภารกิจของสำนักงานประกันสังคม !
นับวันภารกิจของสปส.เพิ่มมากขึ้น ยืนยันที่จะทุ่มเทพัฒนาเพื่อให้นายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน ได้รับบริการดีที่สุด ได้รับประโยชน์สูงสุดจากระบบประกันสังคม ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยรวมของประเทศ หากผู้ประกันตนมีข้อสงสัย สอบถามข้อมูลโดยตรงที่สำนักงานประกันสังคม หรือสายด่วน 1506 หรือ www.sso.go.th
ศูนย์สารนิเทศ สายด่วน 1506 www.sso.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ