กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--คต.
นางอัญชนา วิทยาธรรมธัช รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยว่า สหภาพยุโรปได้กำหนดชุดมาตรฐานสำหรับการออกแบบอาคาร/โครงสร้าง งานด้านวิศวกรรมโยธา และมาตรฐานสินค้าเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างหรือมาตรฐาน Eurocodes ซึ่งมีทั้งหมด 10 มาตรฐาน เช่น Eurocode 1 ว่าด้วยโครงสร้างอาคาร Eurocode 2 ว่าด้วยการออกแบบโครงสร้างคอนกรีต Eurocode 3 เกี่ยวกับการออกแบบโครงสร้างเหล็ก Eurocode 5 การออกแบบโครงสร้างไม้ เป็นต้น โดยจะมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการตั้งแต่ ปี 2553 เป็นต้นไป
มาตรฐาน Eurocodes ครอบคลุมสินค้าวัสดุก่อสร้างหลัก เช่น คอนกรีต เหล็ก ไม้ อิฐ หิน ปูน อลูมิเนียม และเกี่ยวข้องกับวิศวกรรมทางโครงสร้างทุกสาขา เช่น การออกแบบโครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง (loading) ความปลอดภัยในกรณีเกิดเพลิงไหม้ ป้องกันการเกิดแผ่นดินไหว รูปแบบการก่อสร้างโครงสร้างอาคาร สะพาน ตึกสูง เสา ไซโล ฯลฯ การกำหนดระดับความปลอดภัยของอาคารและงานด้านวิศวโยธาอื่นๆ รวมทั้งที่เป็นชิ้นส่วนประกอบต้องคำนึงถึงกลไกความต้านทานและความคงทน การประหยัดพลังงาน เป็นต้น
เนื่องจากการกำหนดมาตรฐาน Eurocodes ของสหภาพยุโรปมีผลครอบคลุมสินค้าในวงกว้างและเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม รวมทั้งผู้ผลิต/ผู้ส่งออกวัสดุก่อสร้างทุกภาคส่วน กรมการค้าต่างประเทศจึงได้ร่วมกับสำนักงานคณะผู้แทนคณะกรรมาธิการยุโรปประจำประเทศไทย สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และสมาคมคอนกรีตแห่งประเทศไทย จัดการสัมมนาเรื่อง “ Doing Business with the EU — Towards the Eurocodes Era: Backgrounds and Its Applications ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกำหนดและการปฏิบัติตามมาตรฐาน Eurocodes และเพื่อเตรียมความพร้อมในการบังคับใช้มาตรฐาน Eurocodes ของสหภาพยุโรป รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างกัน โดยจะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 28 — 29 เมษายน 2552 เวลา 9.00-17.30 น. ณ ห้อง Grand Ballroom โรงแรมแลนด์มาร์ค กรุงเทพฯ โดยเฉพาะในวันที่ 29 เมษายน 2552 จะมีการอภิปรายเกี่ยวกับความร่วมมือในด้านมาตรฐานการก่อสร้างระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป โดยวิทยากรชาวไทยที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และวิทยากรจากสหภาพยุโรปที่เกี่ยวข้องกับ Euorocodes โดยตรง ทั้งนี้ ผู้สนใจที่ประสงค์จะเข้าร่วมสัมมนาสามารถ Download รายละเอียดกำหนดการสัมมนาพร้อมแบบตอบรับเข้าร่วมสัมมนาได้ที่ http://wwww.dft.moc.go.th หรือ http://www.doingbusinesswitheu.com และจัดส่งมาทางโทรสารหมายเลข 02 748 7880 โดย ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักมาตรการทางการค้า โทรศัพท์ 0 2547 4734 หรือ 0 2547 4771-86 ต่อ 4706, 4756