กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--ก.ล.ต.
ตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. มีข้อกำหนดให้กรรมการ ผู้บริหาร และผู้สอบบัญชีของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์เสนอขายต่อประชาชน
มีหน้าที่รายงานการถือครองหลักทรัพย์ของบริษัทที่ตนได้รับแต่งตั้ง และให้รายงานทุกครั้งเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ดังกล่าว
ซึ่งสำนักงาน ก.ล.ต. จะเผยแพร่ข้อมูลจากแบบรายงานดังกล่าวเพื่อให้ผู้ลงทุนใช้เป็นข้อมูลในการติดตามกรณีที่มีการใช้ข้อมูลภายใน
เพื่อประโยชน์ในการซื้อขายหลักทรัพย์อันเป็นการเอาเปรียบผู้ลงทุนทั่วไป นั้น
สำนักงาน ก.ล.ต. มีแนวคิดที่จะปรับปรุงหลักเกณฑ์การรายงานการถือครองหลักทรัพย์ของกรรมการ ผู้บริหารและผู้สอบบัญชี
ให้ยืดหยุ่นไม่ก่อให้เกิดภาระมากเกินไป โดยหากการซื้อหรือขายหลักทรัพย์มีลักษณะที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์
จากการรู้ข้อมูลภายในของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ ก็ควรได้รับยกเว้นไม่ต้องรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ (แบบ 59-2) ซึ่งได้แก่กรณีต่อไปนี้
1. การได้หลักทรัพย์จากโครงการที่บริษัทเสนอขายหลักทรัพย์ให้กรรมการหรือพนักงาน (ESOP) 2. การได้หลักทรัพย์แปลงสภาพจากการจัดสรรตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) 3. การให้ยืมและรับคืนหลักทรัพย์ผ่านทางบริษัทหลักทรัพย์ที่ประกอบกิจการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ (Securities borrowing and lending: SBL) 4. การได้หุ้นตามโครงการสะสมหุ้นสำหรับกรรมการหรือพนักงาน (Employee Joint Investment Program: EJIP)
ซึ่งเป็นโครงการให้กรรมการหรือพนักงานทยอยซื้อหุ้นของบริษัทที่ตนทำงานอยู่เป็นรายงวดและบริษัทสมทบเงินให้ส่วนหนึ่ง โดยกรรมการหรือผู้บริหารต้องไม่มีส่วนตัดสินใจซื้อหรือขายหุ้นดังกล่าว และต้องมีเงื่อนไขตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด พร้อมกันนี้ เพื่อให้การรายงานและการเปิดเผยข้อมูลมีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ตามเจตนารมณ์ ของกฎหมาย สำนักงาน ก.ล.ต. เห็นควรให้กรรมการ ผู้บริหาร และผู้สอบบัญชีมีหน้าที่รายงานในกรณีต่อไปนี้เพิ่มเติม
1. การได้หุ้นจากการใช้สิทธิแปลงสภาพตามหลักทรัพย์แปลงสภาพในทุกกรณี
2. การถือหลักทรัพย์ที่ถือโดยบุคคลอื่นที่ถือหลักทรัพย์แทนตนเอง (nominee) และการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ดังกล่าว
3. การถือหลักทรัพย์ในนามคณะบุคคลและการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ดังกล่าว
4. กรณีการโอนหลักทรัพย์ให้บุคคลอื่น การขายหลักทรัพย์ให้บุคคลอื่นที่ราคาต่ำกว่าราคา
ซื้อขายต่ำสุดของราคาตลาดในวันที่ขาย หรือการขายหลักทรัพย์บนกระดานรายใหญ่ (big lot) ให้กรรมการ ผู้บริหารและผู้สอบบัญชี เปิดเผยข้อมูลความสัมพันธ์ของตนกับผู้รับโอนหรือผู้ซื้อเพิ่มเติมด้วย
ในการนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. ได้จัดทำเอกสารการปรับปรุงหลักเกณฑ์ข้างต้น และเผยแพร่ไว้ที่ www.sec.or.th
เพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่สนใจ โดยสามารถแสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะผ่านทางเว็บไซต์ดังกล่าวหรือทางโทรสารหมายเลข 0-2263-6099 หรือทาง e-mail ที่ corgov@sec.or.th ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 22 เมษายน 2552