เคทีซีเผยทิศทางธุรกิจปี 2550 มุ่งสร้างความคุ้มค่าให้สมาชิกทุกกลุ่ม ใช้เมื่อไหร่ คุ้มเมื่อนั้น หวังครองความเป็น Membership Company เต็มรูปแบบ

ข่าวทั่วไป Tuesday December 12, 2006 10:51 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ธ.ค.--บัตรกรุงไทย
เคทีซี เผยกลยุทธ์ปีหน้า มุ่งทำธุรกิจควบคู่สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง ชู 2 คอนเซ็ปท์หลัก เดินหน้า Membership Company ผนึกพันธมิตรสร้างความคุ้มค่าเจาะลึกทุกความต้องการของสมาชิกทุกกลุ่มในทุกภูมิภาค ทั้งบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ด้วยแคมเปญใหญ่แบบ “Bundle Offering” กระตุ้นยอดใช้จ่ายที่จำเป็นต่อชีวิตตลอดปี “Everyday Spending” พร้อมรุกขยายสินเชื่อบุคคล รักษาศักยภาพฐานลูกค้าเก่าและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการหลากหลายมัดใจผู้บริโภค
นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แม้ว่าภาพรวมของเศรษฐกิจในปี 2549 อาจจะอยู่ในภาวะชะลอตัวจากผลกระทบของราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคต้องระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายค่อนข้างมาก แต่เป็นเรื่องน่ายินดีที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในประเทศขณะนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศเริ่มมีความมั่นคงมากขึ้น แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเริ่มทรงตัว ตลอดจนราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง ซึ่งที่ผ่านมาเคทีซีได้ ยืนหยัดเจตนารมย์ที่จะทำธุรกิจ โดยเน้นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่จำเป็นให้กับผู้บริโภคให้มากที่สุด โดยเน้นการขยายฐานสมาชิกให้มากขึ้นและการจัดแคมเปญการตลาดสุดคุ้ม เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสิทธิประโยชน์จากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่มากกว่าการใช้จ่ายด้วยเงินสด เสมือนเป็นส่วนหนึ่งในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของสมาชิก ขณะที่ในด้านสินเชื่อบุคคลจะส่งเสริมการใช้เงินอย่างมีวัตถุประสงค์ และสร้างวินัยในการใช้คืนอย่างรับผิดชอบ รวมทั้งเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้สะดวก ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สมเหตุผล และยังให้บริการรีไฟแนนซ์กับลูกค้าที่ผ่อนชำระดีจากสถาบันการเงินอื่นๆ”
“ผลจากการทำธุรกิจและจัดแคมเปญการตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่ายของลูกค้าในเชิงลึกเพื่อเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภค ตลอดจนการเร่งขยายฐานสู่ภูมิภาคและสร้างการจดจำในแบรนด์เคทีซีผ่านรายการโทรทัศน์และสื่อที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง ทำให้เคทีซีมีรายได้รวม 9 เดือนปี 2549 เท่ากับ 5,766 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าเกือบเท่ากับรายได้รวมของปี 2548 ทั้งปี และฐานลูกค้าใหม่บัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคขยายตัวกว่า 4.5 แสนบัญชี เติบโตจากสิ้นปี 2548 ถึงกว่า 124% รวมเป็น 1,642,803 บัญชี แบ่งเป็นบัตรเครดิต 1,368,623 บัตร และสินเชื่อบุคคล 270,523 บัญชี นอกจากนี้ยังพบว่าลูกค้ารู้จักและจดจำ แบรนด์เคทีซีในวงกว้างได้มากขึ้น ตัดสินใจเลือกใช้บริการเคทีซีมากกว่าสถาบันการเงินอื่นๆ และมียอดการ ใช้จ่ายผ่านบัตรบ่อยครั้งขึ้น”
“ในส่วนของการขยายฐานบัตรเครดิตในปี 2549 ได้เปิดตัวบัตรเครดิตเจาะกลุ่มไฮเอนด์ บัตรเครดิตเคทีซี ไทเทเนียม มาสเตอร์การ์ด” และบัตรเครดิตเคทีซี วีซ่า แพลทินัม” เพื่อขยายฐานบัตรเจาะกลุ่มเป้าหมายใหม่ซึ่งเป็นนักธุรกิจมีอำนาจการใช้จ่ายสูง และผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบการเดินทางและใช้ชีวิตในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย รวมทั้งกลุ่มผู้ห่วงใยสุขภาพ และกลุ่มสมาชิกออโต้ ซึ่งล้วนได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี มีผู้สนใจสมัครบัตรในระดับที่น่าพอใจ ที่สำคัญเคทีซีได้ขยายขอบเขตการส่งเสริมการขายไปสู่ภูมิภาคโดยเน้นจังหวัดที่สำคัญ ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา เป็นต้น เพื่อขยายฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้ถือบัตรในต่างจังหวัดได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายผ่านบัตรเท่าเทียมกับคนกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มเป็นลูกค้าที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่พร้อมจะมีบัตรเครดิตหรือใช้บริการสินเชื่อบุคคล โดยได้ออก “บัตรเคทีซี 24” ซึ่งเป็นบัตรสิทธิพิเศษตอบสนองความต้องการของกลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยและมีความวางใจในแบรนด์ของเคทีซี ซึ่งหากในอนาคตลูกค้าบัตรเคทีซี 24 มีความพร้อมที่จะสมัครบัตรหรือบริการสินเชื่ออื่นๆ ก็สามารถใช้บริการของเคทีซีได้ทันที”
“ภาพรวมของธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลในปี 2550 คาดว่าจะยังคงมีการแข่งขันสูง ซึ่งส่งผลดีต่อลูกค้า ทำให้มีทางเลือกมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันการถือบัตรเครดิตไม่ได้เป็นการแสดงสถานภาพทางการเงินที่มั่นคงเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเครื่องมือทางการเงินที่อำนวยความสะดวกในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่ปลอดภัยและให้คุณค่าเพิ่มแก่ผู้บริโภคอีกด้วย ในลักษณะของการมอบส่วนลดและสิทธิพิเศษต่างๆ ดังนั้นรายการส่งเสริมการขายของธุรกิจบัตรเครดิต จึงมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลักที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน เช่น น้ำมัน ดิสเคานท์สโตร์ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร การท่องเที่ยวและโรงพยาบาล เป็นต้น”
“สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจของเคทีซีในปี 2550 จะเน้นการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และรักษาความเป็นผู้นำในการกำหนดกลยุทธ์การตลาดที่แตกต่างจากคู่แข่งขันรายอื่น และยึดแนวทางการทำงานแบบ Membership Company โดยจะเน้นการขยายฐานสมาชิกสินเชื่อบุคคลเคทีซีเป็นหลัก ควบคู่ไปกับการเร่งขยายฐานสมาชิกบัตรเครดิตโดยมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าในเซ็กเม้นท์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น (Segmentation Marketing) เช่น การออกบัตรที่เล็งเห็นความสำคัญของกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มคนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กลุ่มคนเมืองที่มี Metro Lifestyle ด้วยการเป็นผู้นำเทรนด์การจับจ่ายแบบ “ทัชแอนด์โก” (Touch and Go) ด้วยการออกบัตรมาสเตอร์การ์ด เพย์พาส (MasterCard Paypass) และวีซ่า เวฟ (Visa Wave) สำหรับความร่วมมือในการออกและรับบัตรเจซีบี ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายระบบชำระเงินชั้นนำของโลก จะเริ่มเปิดตัวบัตรในปีหน้าโดยเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่เดินทางไปทุกเมืองหลักในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งเกาหลี จีน ไต้หวัน และฮาวาย นอกจากนี้จะรุกขยายฐานสู่ตลาดภูมิภาคให้มากขึ้น เพราะเล็งเห็นถึงโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ โดยมีแผนจะเปิดสำนักงานในจังหวัดที่สำคัญในภูมิภาคต่างๆ ได้แก่ โคราช ขอนแก่น และเชียงใหม่อีกด้วย ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญต่อความเข้มงวดในการอนุมัติสมาชิกใหม่อย่างรอบคอบและรัดกุม โดยพิจารณาจากความสามารถในการชำระคืนของสมาชิกเป็นสำคัญ เพื่อประโยชน์ในการสร้างฐานรายได้ที่มั่นคงแก่บริษัทฯ และระบบการเงินของประเทศในระยะยาว โดยคาดว่าจะสามารถขยายฐานสมาชิกเคทีซีเป็น 2 ล้านบัญชีในปีหน้า”
“นอกจากนี้เคทีซีจะยังคงเดินหน้าจัดแคมเปญการตลาดที่แตกต่างต่อเนื่องทั้งปี โดยใช้วิธีการเชื่อมโยงสิทธิประโยชน์ที่จำเป็นต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน (Everyday Spending) จากทุกธุรกิจที่เป็นเครือพันธมิตรเข้าไว้ด้วยกัน โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ครอบคลุมหมวดการใช้จ่ายทั้งรถยนต์ ช้อปปิ้ง ทานอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้าและเฟอร์นิเจอร์ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ซึ่งในปีหน้าเราจะมุ่งเน้นให้สมาชิกใช้บัตรเครดิตในการเดินทางท่องเที่ยวและพักผ่อน ทั้งในส่วนของการเป็นพันธมิตรกับเครือโรงแรมชั้นนำ รวมทั้ง สายการบินทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้ลูกค้าทุกคนของเคทีซีได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากทุกผลิตภัณฑ์และบริการที่เคทีซีนำเสนอ รวมทั้งได้รับความสะดวกสบายในการใช้จ่าย และเกิดความประทับใจในแบรนด์และบริการของเคทีซีให้มากที่สุด”
“สำหรับธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคนั้น เคทีซียังคงเน้นการทำตลาดผลิตภัณฑ์สินเชื่อพร้อมใช้เป็นหลัก เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ด้วยคุณสมบัติเด่นในการผ่อนชำระขั้นต่ำได้ และยังสามารถช่วยแบ่งเบาภาระลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้จะมีการทำตลาดแบบเฉพาะกลุ่ม (Segmentation) เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากลูกค้ามีพฤติกรรมในการเบิกใช้เงินสดที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังจะได้เชื่อมโยงสิทธิประโยชน์จากพันธมิตรต่างๆ มอบให้กับลูกค้าผ่านบัตร KTC CASH Revolve และบัตร KTC CASH Privilege Card ควบคู่กับการสร้างวินัยให้ลูกค้าชำระเงิน ด้วยการมอบสิทธิประโยชน์ หรือส่วนลดดอกเบี้ย เป็นต้น เพื่อเป็นการผูกใจลูกค้าและสร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์อีกทางหนึ่ง”
“ในส่วนของธุรกิจสินเชื่อสำหรับบุคคลที่เป็นเจ้าของกิจการ KTC Million ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจหลักที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เคทีซี เพราะเป็นทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้แก่เจ้าของกิจการที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติมได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วและสะดวก เนื่องจากขั้นตอนการอนุมัติใช้ระยะเวลาไม่นาน โดยกลยุทธ์การตลาดในปีหน้า จะยังคงมุ่งเน้นการรักษาคุณภาพพอร์ตของลูกค้าเป็นหลัก เน้นการขยายตัวของพอร์ตให้เติบโตอย่างมีคุณภาพมากกว่าการเน้นปริมาณ และให้ความสำคัญกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ ซึ่งที่ผ่านมาได้ส่งผลให้เคทีซีมีอัตราการค้างชำระอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับทั้งอุตสาหกรรม นอกจากนี้ เคทีซียังมุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า KTC Million ผ่าน KTC Million Club โดยการสรรหากิจกรรมที่เป็นประโยชน์กับเจ้าของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการจัดงานสัมมนาวิชาการกึ่งสันทนาการ การเชิญสมาชิกไปดูงานในต่างประเทศ การสร้างเครือข่ายทางธุรกิจผ่าน KTC Million Club เพื่อให้สมาชิกได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนนักธุรกิจหลากหลายวงการ รวมทั้งสิทธิประโยชน์ในรูปแบบของส่วนลดต่างๆ ที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจแก่สมาชิกที่มีประวัติบัญชีที่ดีมาตลอด โดยคาดว่าจะสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกใช้บริการของเคทีซีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีให้พอร์ตสินเชื่อเติบโตขึ้นอีกในปีหน้า”
“นอกจากนี้ เคทีซีจะปรับโฉมศูนย์บริการภายใต้ชื่อใหม่คือ “KTC Touch” ด้วยลุคใหม่ที่ทันสมัยและสะดวกสบายกว่าเดิม โดยเตรียมรุกขยายสาขาไปยังภูมิภาค ในพื้นที่แหล่งชุมชนและใจกลางย่านธุรกิจ ครอบคลุมจังหวัดสำคัญ ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรเพื่อการให้บริการลูกค้าที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนส่งเสริมการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีเลิศแปลกใหม่โดนใจผู้บริโภค เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคของไทย” นายนิวัตต์กล่าวปิดท้าย
ออกข่าวในนาม:
ฝ่ายสื่อสารองค์กรและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
รายละเอียดเพิ่มเติม :
กัณฑรัตน์ เจิมจิตรผ่อง โทรศัพท์ 0-2665-5057
สุชาดา วีระสกุลรักษ์ โทรศัพท์ 0-2665-5732
โทรสาร 0-2665-5046
อีเมล์: ktc_pr@ktc.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ