กรุงเทพฯ--27 ธ.ค.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันของ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) คงเดิมที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงความสามารถของคณะผู้บริหาร ระบบบริหารความเสี่ยงที่ดี คุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจเช่าซื้อ และการกระจายตัวไปสู่ธุรกิจที่สร้างรายได้จากค่าธรรมเนียม อันดับเครดิตดังกล่าวยังสะท้อนถึงประโยชน์จากการเป็นธนาคารพาณิชย์ที่จะทำให้ธนาคารมีสภาพคล่องและความยืดหยุ่นทางการเงินที่ดีขึ้น และมีโอกาสในระยะยาวสำหรับธุรกิจธนาคารพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตของธนาคารถูกจำกัดบางส่วนจากความไม่แน่นอนของปัจจัยทางเศรษฐกิจและสภาวะของธุรกิจหลักทรัพย์ การแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจสินเชื่อสำหรับธุรกิจทั่วไปและสินเชื่อรายย่อย ตลอดจนเครือข่ายของธนาคารที่มีจำกัดเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่
แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารจะมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งในระยะปานกลางเนื่องจากการเป็นธนาคารพาณิชย์จะส่งผลดีในแง่ของการดำเนินธุรกิจที่มีขอบเขตกว้างขึ้น ตลอดจนการมีสภาพคล่องและความยืดหยุ่นทางการเงินที่ดีขึ้น โดยที่ระบบการบริหารความเสี่ยงที่ดี ผลการดำเนินงานในอดีตที่เป็นที่ยอมรับ และการมีระดับของเงินกองทุนที่แข็งแกร่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคตจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ
ทริสเรทติ้งรายงานว่า ธนาคารทิสโก้มีขนาดของสินทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 12 ในบรรดาธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบทั้ง 14 แห่ง จากประสบการณ์ในธุรกิจการเงินกว่า 30 ปี ธนาคารสามารถสร้างคณะผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพซึ่งทำให้ธนาคารสามารถดำรงอยู่ได้ในธุรกิจที่มีระดับการแข่งขันที่รุนแรง การมีระบบการบริหารความเสี่ยงที่ดี คณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์ยาวนาน ตลอดจนระดับเงินกองทุนและสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่แข็งแกร่งเป็นปัจจัยที่จะช่วยลดความเสี่ยงของธนาคารในอนาคตได้ ผู้บริหารของธนาคารมีนโยบายที่ชัดเจนในการมุ่งเน้นธุรกิจสินเชื่อเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลและการกระจายตัวไปสู่ธุรกิจที่สร้างรายได้จากค่าธรรมเนียม
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า การรวมศูนย์กลางการดำเนินธุรกิจและระบบการบริหารของกลุ่มก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านการควบคุมธุรกิจและประสิทธิภาพด้านต้นทุนของกลุ่มโดยรวม การพัฒนาเพื่อยกระดับสู่การเป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบในช่วงครึ่งหลังของปี 2548 จนตลอดปี 2549 มีผลกระทบต่อผลตอบแทนทางการเงินของธนาคารทิสโก้ในช่วงระหว่างการปรับเปลี่ยนองค์กร แต่จะสร้างโอกาสในระยะยาวแก่ธนาคารในการดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวยลดลงและการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจหลักของธนาคารคือธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ได้จำกัดความสามารถในการทำกำไรของธนาคารในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2549 แต่ธนาคารก็ได้ประโยชน์จากนโยบายการลดความเสี่ยงทางการตลาดจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของระดับอัตราดอกเบี้ยในขณะนั้น