กรุงเทพฯ--16 เม.ย.--คอมมิวนิเคชัน แอนด์ มอร์
นักโภชนาการชี้ พฤติกรรมการบริโภคของคนไทยในปัจจุบันเปลี่ยนไปตามภาวะสังคมที่เร่งรีบ และรับวัฒนธรรมการบริโภคอาหารตามแบบของชาวตะวันตกเข้ามาอีก โดยเฉพาะในสังคมเมืองที่นิยมรับประทานอาหารนอกบ้านทั้งสะดวก รวดเร็ว ซึ่งมีส่วนประกอบทั้งแป้ง น้ำตาล และมีไขมันเป็นส่วนประกอบหลัก ส่งผลให้เกิดภาวะไขมันในเลือดสูงและเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจได้
ม.ร.ว.พรรณนิภา จันทรทัต ประธานชมรมโภชนวิทยามหิดล ชี้ว่า ปัจจุบันผู้บริโภคมีพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไปตามภาวะสังคม สิ่งแวดล้อม การรับประทานอาหารที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบจึงทำให้ร่างกายมีภาวะไขมันในเลือดสูง ปัจจุบันมีทางเลือกใหม่เพื่อสุขภาพของผู้บริโภค ที่เกิดจากการผสมผสานสมดุลของน้ำมันเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับกรดไขมันที่ดีในสัดส่วนสมดุลและเป็นประโยชน์คือ “น้ำมันคาโนล่าผสมน้ำมันดอกทานตะวัน” ซึ่งน้ำมันผสมนี้มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่เรียกว่า โอเมก้า 3, 6 และ9 ในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกาย นับเป็นทางเลือกใหม่ของการบริโภคน้ำมันอย่างสมดุลและสร้างผลดีต่อร่างกาย
จากการสำรวจพบว่า ประชากรโลกเสียชีวิตด้วยโรคที่เกิดจากโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน โรคอ้วน มะเร็ง สูงถึง 59% มีหลายงานวิจัยบ่งชี้ว่าปริมาณและชนิดของไขมันที่บริโภคเข้าไปมีส่วนโดยตรงต่อสาเหตุการเกิดโรคบางชนิด เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด ภาวะโคเลสเตอรอลในเลือดสูง มะเร็ง ความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน และนี่จึงอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนไทยที่รักสุขภาพต่างพยายามหลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมันต่างๆ
ผู้บริโภคหลายคนเริ่มหันมานิยมใช้น้ำมันที่มีสัดส่วนกรดไขมันชนิดต่างๆ ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อช่วยส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคเช่น น้ำมันคาโนล่า น้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันเมล็ดองุ่น น้ำมันรำข้าว เป็นต้น
ปัจจุบันนักวิจัยพบว่าน้ำมันพืชบางชนิด จะมีส่วนประกอบของโอเมก้า 6 มากกว่า โอเมก้า 3 ซึ่งโอเมก้า 6 แม้จะมีความจำเป็นต่อร่างกาย แต่ถ้าได้รับมากเกินไป ก็เป็นต้นเหตุให้ความดันเลือดสูง ทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือดซึ่งทำให้เกิดหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันได้ง่าย
จึงควรได้รับในปริมาณที่เหมาะสม เลือกใช้ในสัดส่วนที่ไม่เป็นอันตราย ทั้งนี้ทางสถาบันการแพทย์ University of Maryland แนะนำให้บริโภคโอเมก้า 6: โอเมก้า 3 ในสัดส่วน 4 :1 เพื่อความสมดุลของคุณประโยชน์ที่จะได้รับ แต่ในธรรมชาติไม่มีน้ำมันชนิดใดชนิดหนึ่งที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 และ6 ในสัดส่วนที่เหมาะสม
สำหรับ “น้ำมันคาโนล่าผสมน้ำมันทานตะวัน” ยังไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก แต่ด้วยคุณประโยชน์จากคุณค่าทั้ง 2 ชนิด ทำให้น้ำมัน 2 ชนิดนี้เป็นที่ยอมรับในกลุ่มผู้รักสุขภาพว่าเป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพ เมื่อนำมาผสมในสัดส่วนน้ำมันคาโนล่า 4 ส่วนต่อน้ำมันทานตะวัน 1 ส่วน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ผ่านการค้นคว้าแล้วว่าเหมาะสมจึงก่อให้เกิดสมดุลของกรดไขมันโอเมก้า3 และ 6 ในสัดส่วนที่เหมาะสมกับการบริโภคที่จำเป็นกับความต้องการของร่างกายและมีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งโอเมก้า 3 มีส่วนช่วยให้สมองและดวงตาทำงานได้ดี โอเมก้า 6 ช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดและควบคุมความดันให้อยู่ในระดับปกติ และยังมีโอเมก้า 9 ที่มีผลช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดและหัวใจ นอกจากนี้ยังมีวิตามินอีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง มีจุดเดือดสูงถึง 230 องศา จึงสามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายทั้ง ผัด ทอด ย่าง หมัก ทำน้ำสลัด เป็นต้น มีกรดไขมันอิ่มตัวและกรดไขมันทรานซ์ต่ำ จึงไม่ส่งผลร้ายต่อการเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ดังนั้นจึงนับว่าเป็นน้ำมันทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพอีกหนึ่งชนิด
ม.ร.ว.พรรณนิภา กล่าวในตอนท้ายว่า “น้ำมันคาโนล่าผสมน้ำมันทานตะวัน” เป็นน้ำมันพืชชนิดใหม่ในตลาดเมืองไทย และเป็นน้ำมันสำหรับการบริโภคที่น่าสนใจอีกชนิดหนึ่ง ที่มีสัดส่วนสมดุลและเหมาะสม จึงน่าจะเหมาะกับความต้องการของร่างกายในการช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีได้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร 0-2718-3800 ต่อ 132, 136