กรุงเทพฯ--20 เม.ย.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการฝึกซ้อมร่วมด้านการเผชิญสถานการณ์วิกฤต ประจำปี ๒๕๕๒ (ERTEX๑-๐๙) จำนวน ๓ ครั้ง โดยครั้งที่ ๑ กำหนดจัดในวันที่๑๙ — ๒๑ เมษายน ๒๕๕๒ ณ ศูนย์ฝึกอบรมอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ตำบลเขาท่าพระ อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท
เพื่อเตรียมความพร้อมให้สามารถปฏิบัติงานร่วมกับศูนย์บริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ และสนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานอื่นที่มีภารกิจด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัยพิบัติฉุกเฉินขนาดใหญ่
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมีอัตรากำลังชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต(ERT)ที่ปฏิบัติหน้าที่ทั้งในส่วนกลาง และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ๑ — ๑๒ และเขต ๑๖ ชัยนาท เพื่อปฏิบัติการสนธิกำลังในการช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัยพิบัติในภาวะฉุกเฉิน ดังนั้น
เพื่อให้ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤตประจำกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้เตรียมความพร้อมในการเผชิญเหตุภัยพิบัติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่มีภารกิจป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ดำเนินโครงการฝึกซ้อมร่วมด้านการเผชิญสถานการณ์วิกฤต ประจำปี ๒๕๕๒ (ERTEX๑ — ๐๙) โดยดำเนินการฝึกซ้อมแผนร่วมฯ จำนวน ๓ ครั้ง ดังนี้ ครั้งที่ ๑ ณ
จังหวัดชัยนาท ครั้งที่ ๒ ณ จังหวัดเชียงราย และครั้งที่ ๓ ณ จังหวัดสงขลา โดยจำลองสถานการณ์ภัยที่มีความสอดคล้องกับสภาพพื้นที่ สำหรับการฝึกซ้อมครั้งแรก ได้กำหนดจัดในวันที่ ๑๙ — ๒๑ เมษายน ๒๕๕๒ ณ ศูนย์ฝึกอบรมอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ตำบลเขาท่าพระ อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท
โดยฝึกซ้อมการเผชิญสถานการณ์วิกฤตจากแผ่นดินไหวและอาคารถล่ม ทั้งรูปแบบการบรรยายให้ความรู้ภาคทฤษฎี และฝึกภาคปฏิบัติโดยจำลองสถานการณ์ภัย และฝึกซ้อมเผชิญเหตุสถานการณ์วิกฤต ผู้เข้าร่วมการฝึกซ้อม ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ในสังกัดส่วนกลาง และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ๑-๑๒ และเขต ๑๖ ชัยนาท รวมถึงเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวกับการป้องกันและบรรเทาสาธาณภัย
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบความรู้ ความสามารถ และทักษะการปฏิบัติหน้าที่ของชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต(ERT) ในสถานการณ์ภัยพิบัติฉุกเฉินขนาดใหญ่ รวมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมให้ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤตสามารถปฏิบัติงานร่วมกับศูนย์บริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ
และสนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานอื่นที่มีภารกิจด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัยพิบัติฉุกเฉิน ตลอดจนเสริมสร้างประสบการณ์การเผชิญเหตุสาธารณภัยต่างๆ ให้เกิดความชำนาญ และความพร้อมที่จะสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจากภัยพิบัติได้ในระดับหนึ่ง