กรุงเทพฯ--24 มี.ค.--สหมงคลฟิล์ม
Be with Me
ดูเผินๆ เธเรซา เฉิน เหมือนจะเป็นสตรีที่โชคร้ายไม่น้อย — เธอหูหนวกตั้งแต่อายุ 14 หลังจากนั้นไม่นาน ดวงตาทั้งสองข้างก็ค่อยๆ มืดบอด จนในที่สุดโลกทั้งใบของเธอก็ตกอยู่ในความมืดและความเงียบ ไม่สามารถได้ยินเสียง ไม่อาจเห็นภาพใดๆ ได้อีกต่อไป
เธเรซายอมรับว่า ใหม่ๆ มันเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับว่า เคราะห์กรรมได้รุมกระหน่ำซ้ำเติมตนเองเช่นนั้น แต่ต่อๆ มาเธอก็เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับมัน เธอตั้งหลักใหม่ หยุดเศร้าโศกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว และใช้ชีวิตอย่างมีความหวัง พร้อมจะเปิดรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เดินทางเข้ามาสู่ชีวิต
นั่นเองทำให้เธเรซาผ่านประสบการณ์ชีวิตมาอย่างโชกโชน ได้ทำหลายสิ่งหลายอย่างเกินหน้าเกินตาคนที่มีร่างกายสมบูรณ์พร้อมไม่น้อย เธอได้เรียนต่อที่อเมริกา ใช้ชีวิตที่นั่นนานกว่า 10 ปี เธอหัดเต้นรำ ขี่ม้า เล่นสเกตน้ำแข็ง เคยรับบท จูเลียต ในละครวิทยาลัย เมื่อกลับสิงคโปร์ก็เข้าทำงานเป็นครูในโรงเรียนสอนเด็กพิการ เท่านั้นยังไม่พอ — ในวัย 61 คุณยายเธเรซายังได้เป็นดารา รับบทเด่นในหนังชื่อ Be With Me เรื่องนี้ด้วย
เอริก คู พบเธเรซา เฉินครั้งแรกในปี 2003 ที่งานเลี้ยงแต่งงานรายการหนึ่ง เขาฟังคุณยายเล่าถึงประสบการณ์ชีวิตของตนเองด้วยความทึ่ง และในที่สุดก็ใช้มันเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนบทหนังเรื่อง Be With Me พร้อมกันนั้นก็เชื้อเชิญคุณยายให้มารับบทเป็นตัวเองในหนัง
Be With Me ประกอบด้วยเรื่องราวของคน 3 คู่ คู่แรกคือคุณยายเฉินกับพ่อม่ายชรา เจ้าของร้านขายของชำเล็กๆ ร้านหนึ่ง คู่ที่สองเล่าเรื่องของเด็กสาววัยรุ่น 2 คนที่รู้จักกันทางอินเตอร์เนต หลังจากนั้นก็สานต่อความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาวกันอย่างลึกซึ้ง ส่วนในคู่สุดท้าย ฝ่ายชายเป็นยามอ้วนสกปรก ผู้ซึ่งชีวิตดูจะบกพร่องไปเสียทุกอย่าง แต่ดันไปหลงรักหญิงสาวระดับผู้บริหารที่ทำงานอยู่ในตึกนั้น
จุดเด่นของ Be With Me อยู่ที่วิธีการเล่าเรื่อง ซึ่งแม้จะเรียบและนิ่ง ไม่บีบคั้นและไม่ฟูมฟาย ทว่าสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ตั้งแต่ต้นจนจบ จังหวะจะโคนและลีลาการนำเสนอของหนัง รวมถึงดนตรีประกอบซึ่งเป็นผลงานของ เควิน แมธิวส์ กับ คริสตีน แชม ดูจะออกแบบมาเพื่อทำให้คนดูเกิดอาการ ‘สะอึก’ เป็นระยะๆ ก่อนที่เอริก คูจะใช้ฉากเล็กๆ ธรรมดาๆ เพียงฉากเดียว เป็นทีเด็ดไม้ตายหมัดน็อคในช่วงท้าย — ผู้ชมกลุ่มที่บ่อน้ำตาไม่ลึกอยู่แล้ว สามารถอุทิศน้ำตาให้กับหนังได้อย่างไม่ต้องอายใคร และไม่ต้องรู้สึกสงสัยว่าตัวเองอ่อนไหวเกินไปหรือไม่
Be With Me เปิดตัวที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ 2005 โดยได้รับเลือกให้ฉายในสาย Directors’ Fortnight — เล่ากันว่า หลังจากที่หนังจบลง ผู้คนในโรงถึงกับลุกขึ้นยืนปรบมือให้หนังนานถึง 5 นาทีเต็ม
ไม่เฉพาะแต่ความเป็น ‘หนังดี’ เท่านั้น ที่ผู้ชมอุทิศเสียงปรบมือให้ แต่เพราะนี่คือหนังที่ทำให้ทุกคนตระหนักว่า เพราะเหตุใด ‘ความรัก’ จึงมีความสำคัญต่อชีวิตนัก
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net