กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--สบน.
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) แถลงว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติวงเงินกู้เพื่อรองรับกรณีรายจ่ายสูงกว่ารายได้วงเงิน 94,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2552 สบน. จึงได้ปรับแผน การกู้เงินในประเทศของรัฐบาลประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 จาก 525,860 ล้านบาท เป็น 619,859 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ปรับปรุงแผนการกู้เงินในไตรมาส 3 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 โดยปรับตารางการประมูลพันธบัตรรัฐบาลในไตรมาส 3 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 โดยเพิ่มการออกพันธบัตรรัฐบาล ประเภทอัตราดอกเบี้ยลอยตัว วงเงิน 6,000 ล้านบาท ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2552
1.2 เพิ่มวงเงินการออกพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุ 15 ปี (LB233A) อีกครั้งละ 1,000 ล้านบาท ในวันที่ 29 เม.ย. 52 และ 24 มิ.ย. 52 ทำให้การประมูลในแต่ละครั้งมีวงเงินเท่ากับ 6,000 และ 7,000 ล้านบาท ตามลำดับ
1.3 ลดวงเงินการออกพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุ 10 ปี (LB196A) ในวันที่ 30 มิ.ย. 52 ลง 1,000 ล้านบาท เป็น 9,000 ล้านบาท
จาก 1.1 — 1.3 ทำให้วงเงินรวมในการออกพันธบัตรรัฐบาลในไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้นจาก 94,500 ล้านบาท ซึ่งประกาศไปเมื่อวันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2552 เป็น 101,500 ล้านบาท
1.4 เพิ่มวงเงินคงค้างของตั๋วเงินคลังในไตรมาสที่ 3 อีกประมาณ 40,000 ล้านบาท ซึ่งบางส่วนจะแปลงเป็นพันธบัตรในไตรมาสที่ 4 วงเงินประมาณ 8,000 ล้านบาท
1.5 เพิ่มการออกตั๋วสัญญาใช้เงินในไตรมาสที่ 3 อีกประมาณ 20,000 ล้านบาท
2. ปรับปรุงแผนการออกพันธบัตรในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552
3. ดังนั้น เมื่อสรุปแผนการกู้เงินทั้งปี
4. ดังนั้น สามารถสรุปได้ว่า เพื่อรองรับการกู้เงินเพิ่มเติมอีก 94,000 ล้านบาท ตามที่ คณะรัฐมนตรีได้มีมติกระทรวงการคลังจะดำเนินการ ดังนี้
4.1 ออกพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมเป็นเงินจำนวน 39,030 ล้านบาท
4.2 ออกพันธบัตรออมทรัพย์เพิ่มเติมเป็นเงินจำนวน 5,000 ล้านบาท
4.3 ออกตั๋วเงินคลังเพิ่มเติมเป็นเงินจำนวน 32,000 ล้านบาท
4.4 ออกตั๋วสัญญาใช้เงินเพิ่มเติมเป็นเงินจำนวน 17,970 ล้านบาท
รวม 94,000 ล้านบาท