กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--โตโยต้า มอเตอร์
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนมีนาคม 2552 ปริมาณการขาย 41,328 คัน ลดลง 37.8% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 16,194 คัน ลดลง 23.4% รถเพื่อการพาณิชย์ 25,134 คัน ลดลง 44.5% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 21,610 คัน ลดลง 44.8%
สถิติการขายสะสมในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2552 มีปริมาณทั้งสิ้น 107,774 คัน ลดลง 33.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งออกเป็น รถยนต์นั่ง 43,968 คัน ลดลง 17.4% รถเพื่อการพาณิชย์ 63,806 คัน ลดลง 41.2% รวมทั้ง รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซ็กเมนท์นี้จำนวน 55,095 คัน ลดลง 40.9%
ประเด็นสำคัญ
1. ตลาดรถยนต์เดือนมีนาคม มีปริมาณการขาย 41,328 คัน ลดลง 37.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 เนื่องจากการหดตัวของตลาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ซึ่งเป็นตลาดที่สะท้อนให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งมียอดขายลดลงถึง 44.5% ลดลงสูงสุดในรอบ 11 เดือน นับตั้งแต่ภาวะตื่นตระหนกของราคาน้ำมันดีเซล ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ประกอบกับความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 7 ปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจ ส่งผลให้ผู้บริโภคเพิ่มความระมัดระวังในการใช้จ่าย
2. ตลาดรถยนต์ในไตรมาสแรกมีปริมาณการขาย 107,774 คัน ลดลง 33.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 17.4% ส่วนหนึ่งเนื่องจากยอดขายในไตรมาสแรกของปีทีผ่านมามียอดขายที่สูงเนื่องจากการตอบรับรถยนต์ที่ใช้พลังงาน อี20 ในขณะที่ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 41.2% เป็นผลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลก ประกอบกับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และความเข้มงวดของสถาบันการเงิน ในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ต่างเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์
3. สำหรับตลาดรถยนต์เดือนเมษายน คาดว่าจะมีปริมาณการขายหดตัว แม้ว่ายอดจองรถยนต์ในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา จะมียอดจองสูงถึง 16,936 คัน ก็ตาม อย่างไรก็ดีสถานการณ์ทางการเมือง ภาวะเศรษฐกิจ อาจมีผลต่อความมั่นใจผู้บริโภคซึ่งมีผลต่อระบบเศรษฐกิจรวมถึงตลาดรถยนต์เช่นกัน
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เดือนมีนาคม 2552
1.) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 41,328 คัน ลดลง 37.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 16,762 คัน ลดลง 41.2% ส่วนแบ่งตลาด 40.6%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 8,761 คัน ลดลง 40.2% ส่วนแบ่งตลาด 21.2%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 7,244 คัน ลดลง 16.4% ส่วนแบ่งตลาด 17.5%
2.) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 16,194 คัน ลดลง 23.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 6,951 คัน ลดลง 33.4% ส่วนแบ่งตลาด 42.9%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 6,760 คัน ลดลง 7.0% ส่วนแบ่งตลาด 41.7 %
อันดับที่ 3 เชฟโรเลต 537 คัน ลดลง 45.2% ส่วนแบ่งตลาด 3.3 %
3.) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 21,610 คัน ลดลง 44.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 8,880 คัน ลดลง 45.4% ส่วนแบ่งตลาด 41.1 %
อันดับที่ 2 อีซูซุ 8,211 คัน ลดลง 40.7% ส่วนแบ่งตลาด 38.0 %
อันดับที่ 3 นิสสัน 1,645 คัน ลดลง 46.1% ส่วนแบ่งตลาด 7.6 %
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 2,205 คัน
โตโยต้า 1,249 คัน — มิตซูบิชิ 463 คัน - อีซูซุ 450 คัน — ฟอร์ด 43 คัน
4.) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 19,405 คัน ลดลง 47.0%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 7,761 คัน ลดลง 39.4% ส่วนแบ่งตลาด 40.0 %
อันดับที่ 2 โตโยต้า 7,631 คัน ลดลง 48.6% ส่วนแบ่งตลาด 39.3 %
อันดับที่ 3 นิสสัน 1,645 คัน ลดลง 46.1% ส่วนแบ่งตลาด 8.5 %
5.) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 25,134 คัน ลดลง 44.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 9,811 คัน ลดลง 45.8% ส่วนแบ่งตลาด 39.0 %
อันดับที่ 2 อีซูซุ 8,761 คัน ลดลง 40.2% ส่วนแบ่งตลาด 34.9 %
อันดับที่ 3 นิสสัน 1,658 คัน ลดลง 47.0% ส่วนแบ่งตลาด 6.6 %
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม — มีนาคม 2552
1) ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 107,774 คัน ลดลง 33.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 44,444 คัน ลดลง 33.7% ส่วนแบ่งตลาด 41.2%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 23,558 คัน ลดลง 34.5% ส่วนแบ่งตลาด 21.9%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 18,360 คัน ลดลง 18.2% ส่วนแบ่งตลาด 17.0%
2) ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 43,968 คัน ลดลง 17.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 20,578 คัน ลดลง 19.4% ส่วนแบ่งตลาด 46.8%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 17,250 คัน ลดลง 10.0% ส่วนแบ่งตลาด 39.2%
อันดับที่ 3 นิสสัน 1,075 คัน ลดลง 44.7% ส่วนแบ่งตลาด 2.4%
3) ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการ ขาย 55,095 คัน ลดลง 40.9%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 22,096 คัน ลดลง 34.5% ส่วนแบ่งตลาด 40.1%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 21,493 คัน ลดลง 42.8% ส่วนแบ่งตลาด 39.0%
อันดับที่ 3 นิสสัน 4,109 คัน ลดลง 40.9% ส่วนแบ่งตลาด 7.5%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 5,489 คัน
โตโยต้า 3,151 คัน — มิตซูบิชิ 1,155 คัน - อีซูซุ 1,090 คัน — ฟอร์ด 93 คัน
4) ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 49,606 คัน ลดลง 43.0%
อันดับที่ 1 อีซูซุ 21,006 คัน ลดลง 33.4% ส่วนแบ่งตลาด 42.3%
อันดับที่ 2 โตโยต้า 18,342 คัน ลดลง 45.7% ส่วนแบ่งตลาด 37.0%
อันดับที่ 3 นิสสัน 4,109 คัน ลดลง 40.9% ส่วนแบ่งตลาด 8.3%
5) ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 63,806 คัน ลดลง 41.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 23,866 คัน ลดลง 42.5% ส่วนแบ่งตลาด 37.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 23,558 คัน ลดลง 34.5% ส่วนแบ่งตลาด 36.9%
อันดับที่ 3 นิสสัน 4,199 คัน ลดลง 41.8% ส่วนแบ่งตลาด 6.6%