Citrix XenServer รุ่นใหม่นำเสนอเวอร์ช่วลไลเซชั่นระดับองค์กรที่รองรับระบบคลาวด์ ใช้งานได้ฟรีสำหรับทุกคน

ข่าวเทคโนโลยี Wednesday April 22, 2009 16:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง เอสเอพีใช้ Citrix XenServer และ XenApp เป็นเทคโนโลยีมาตรฐาน เทสโก้ลดค่าใช้จ่ายดาต้าเซ็นเตอร์ด้วย Citrix XenServer และเซิร์ฟเวอร์ HP BladeSystem ซิทริกซ์ ซิสเต็มส์ อิงค์ (Nasdaq: CTXS) ผู้นำระดับโลกด้านโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการนำเสนอแอพพลิเคชั่น เปิดตัวเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของ Citrix XenServer ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเวอร์ช่วลไลเซชั่นระดับองค์กรที่รองรับเทคโนโลยีคลาวด์ (Cloud) ผู้ใช้สามารถใช้งานแพลตฟอร์มดังกล่าวได้ฟรีโดยไม่มีข้อจำกัด ในขณะที่ไฮเปอร์ไวเซอร์ (Hypervisor) พื้นฐานอื่นๆ เปิดให้ใช้งานได้ฟรีมานานหลายปี แต่ส่วนใหญ่มักจะจำกัดการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่แท้จริง ส่วน XenServer รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ยกระดับมาตรฐานสำหรับระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่น ด้วยการเพิ่มเติมฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพ เช่น การจัดการมัลติโหนดแบบรวมศูนย์ การใช้ทรัพยากรร่วมกันบนเซิร์ฟเวอร์หลายเครื่อง และการถ่ายโอนระบบงานอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การลดระดับราคาเริ่มต้นของเวอร์ช่วลไลเซชั่นลงอย่างมากจะช่วยให้ลูกค้าสามารถฟันฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจในปัจจุบันได้อีกทางหนึ่ง โดยองค์กรธุรกิจทุกขนาดจะสามารถใช้งานเทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่นระดับองค์กรได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะมีงบประมาณเท่าใดก็ตาม XenServer ได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลายในดาต้าเซ็นเตอร์ขององค์กรมากกว่า 5,000 แห่งทั่วโลก โดย XenServer เป็นองค์ประกอบหลักของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Citrix Delivery Center ซึ่งเป็นระบบที่ครอบคลุมตั้งแต่ดาต้าเซ็นเตอร์ไปจนถึงเดสก์ทอป โดยช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนดาต้าเซ็นเตอร์แบบคงที่ให้กลายเป็น “ดีลิเวอรี่เซ็นเตอร์” (Delivery Center) แบบไดนามิก XenServer ขับเคลื่อนด้วยเอนจิ้นเวอร์ช่วลไลเซชั่น Xen ซึ่งใช้ในการรันระบบคลาวด์ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน รวมถึงระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่นที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในขณะที่กว่า 75 เปอร์เซ็นต์ของเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลกยังไม่ได้ถูกเวอร์ช่วลไลซ์1 การเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ในวันนี้จะช่วยกระตุ้นการปรับใช้เทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่น เพราะนับเป็นครั้งแรกที่มีการนำเสนอคุณสมบัติความเรียบง่าย ความยืดหยุ่นในการปรับขนาด และการประหยัดค่าใช้จ่ายของระบบคลาวด์ให้แก่ดาต้าเซ็นเตอร์ในองค์กร “ไฮเปอร์ไวเซอร์ที่เปิดให้ใช้งานฟรีด้วยฟังก์ชั่นการทำงานแบบจำกัดมีมานานแล้ว แต่เราคิดว่าความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ของซิทริกซ์นับว่าสร้างความแตกต่างอย่างมาก เพราะเป็นการนำเสนอแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานแบบเวอร์ช่วลที่มีประสิทธิภาพและรองรับการใช้งานในองค์กรขนาดใหญ่ พร้อมความสามารถในการจัดการแบบรวมศูนย์ การถ่ายโอนระบบงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังสนับสนุนเวอร์ช่วลแมชชีนและเซิร์ฟเวอร์โดยไม่จำกัดจำนวน และปราศจากเงื่อนไขใดๆ” มาร์ค โบว์เกอร์ นักวิเคราะห์ของ Enterprise Strategy Group กล่าว “นับเป็นการดำเนินการที่ดีมาก เพราะจะช่วยกระตุ้นการปรับใช้เทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่นอย่างกว้างขวางในกลุ่มลูกค้าองค์กรทุกขนาด และช่วยเพิ่มความสะดวกแก่ผู้ให้บริการคลาวด์สำหรับการสนับสนุน Windows อย่างสมบูรณ์ นอกเหนือจากการรองรับ Linux ที่มีอยู่ ใครก็ตามที่เคยมองข้าม XenServer ในฐานะทางเลือกที่ดีสำหรับเวอร์ช่วลไลเซชั่นระดับองค์กร จะต้องเปลี่ยนความคิดของตัวเองเสียใหม่ และหันมาพิจารณาเวอร์ชั่นใหม่นี้” ตัวอย่างเช่น เอสเอพี เอจี (SAP AG) มีแผนที่จะทำเวอร์ช่วลไลซ์สำหรับเซิร์ฟเวอร์ราว 500 เครื่อง โดยใช้ Citrix XenServer ภายในช่วงกลางปี 2552 นอกจากนี้ เอสเอพียังได้ติดตั้งเทคโนโลยีแอพพลิเคชั่นเวอร์ช่วลไลเซชั่น Citrix XenApp เพื่อนำเสนอแอพพลิเคชั่นให้แก่พนักงานของเอสเอพี รวมถึงคู่ค้าภายนอกองค์กร ทั้งนี้ เอสเอพีคาดว่าจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากโซลูชั่น XenServer และ XenApp เช่น การสตรีมอิมเมจของเวิร์กโหลดมาตรฐาน และฟังก์ชั่นการจัดการที่เหนือกว่า โดยบริษัทฯ คาดการณ์ว่าจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของเทอร์มินัลเซิร์ฟเวอร์ได้ถึง 35 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนั้น เอสเอพียังได้ติดตั้งเทคโนโลยีแอพพลิเคชั่นเวอร์ช่วลไลเซชั่น Citrix XenApp เพื่อนำเสนอโปรแกรมแอพพลิเคชั่นมากกว่า 40 โปรแกรม เช่น ซอฟต์แวร์ Microsoft Office และ SAP Business Suite ให้แก่ผู้ใช้ทั้งหมด โดยรวมแล้วมีผู้ใช้มากกว่า 50,000 คนที่เข้าใช้โครงสร้างพื้นฐาน XenApp เพื่อทำงานต่างๆ เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการให้บริการสนับสนุน “เรารู้สึกประทับใจในประสิทธิภาพของโซลูชั่นเซิร์ฟเวอร์เวอร์ช่วลไลเซชั่นและแอพพลิเคชั่นเวอร์ช่วลไลเซชั่นของซิทริกซ์” ไดเอทมาร์ บรูเดอร์ รองประธานฝ่ายบริการโครงสร้างพื้นฐานไอทีของเอสเอพี กล่าว “เป้าหมายของเราในการปรับใช้ Citrix XenServer ก็คือ เพื่อลดค่าใช้จ่ายของโครงสร้างพื้นฐานเซิร์ฟเวอร์ พร้อมทั้งลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงอย่างมาก โดยเราเชื่อว่าเทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่นของซิทริกซ์จะช่วยให้เอสเอพีสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ถึง 600 ตันต่อปี นอกเหนือจากการประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้ออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์” เทสโก้ (Tesco) (LSE: TSCO) เครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำของอังกฤษ ได้ทำการปรับปรุงระบบการขายแบบเรียลไทม์ (Real Time Sales - RTS) โดยทำเวอร์ช่วลไลซ์สำหรับแอพพลิเคชั่นทางธุรกิจที่สำคัญๆ ด้วย Citrix XenServer ซึ่งรันบนเบลดเซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant BL680c G5 ทั้งนี้ เทสโก้ได้เพิ่มขีดความสามารถให้กับระบบ RTS มากถึง 75 เปอร์เซ็นต์ โดยประมวลผลข้อความที่เกี่ยวกับการขายได้ถึง 1,500 ข้อความต่อวินาที ซึ่งนับเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับระบบ RTS นอกจากนี้ยังรองรับการขยายระบบในอนาคตได้อีกด้วย เทสโก้เริ่มสำรวจตรวจสอบเทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่นในฐานะทางเลือกใหม่แทนการติดตั้งฟิสิคัลเซิร์ฟเวอร์เพิ่มเติมเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น และเพื่อสานต่อความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอน ในขณะที่การติดตั้งเซิร์ฟเวอร์เพิ่มเติมนำไปสู่การใช้ไฟฟ้าและระบบระบายความร้อนเพิ่มมากขึ้น แต่เวอร์ช่วลไลเซชั่นกลับช่วยให้เทสโก้บรรลุเป้าหมายในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากดาต้าเซ็นเตอร์ในอังกฤษได้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ “หลังจากที่ประเมินผู้จัดหาเทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่นรายสำคัญๆ เราตัดสินใจติดต่อซิทริกซ์ เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความแข็งแกร่งของเทคโนโลยี Xen, ความสามารถของ XenServer ในการจัดหาประสิทธิภาพในระดับสูงสำหรับแอพพลิเคชั่น 64 บิต, รูปแบบไลเซนส์ และทีมวิศวกรของซิทริกซ์ในอังกฤษ” นิค โฟล์ค ผู้อำนวยการฝ่ายไอทีของเทสโก้ กล่าว “ระบบ RTS แบบเวอร์ช่วลไลซ์ใช้พลังงานน้อยกว่าครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับระบบเซิร์ฟเวอร์แบบฟิสิคัล จึงช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทั้งยังช่วยประหยัดค่าไฟ เพิ่มประสิทธิภาพและลดความยุ่งยากซับซ้อนในการบริหารจัดการระบบอย่างต่อเนื่อง ที่จริงแล้ว เป้าหมายหลักของเราในการทำงานร่วมกับซิทริกซ์และเอชพีก็คือ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่ยืดหยุ่นมากขึ้น และเราก็ได้รับประโยชน์อย่างมากจากการดำเนินการในครั้งนี้” เวอร์ช่วลไลเซชั่นระดับองค์กรที่รองรับเทคโนโลยีคลาวด์ Citrix XenServer รุ่นล่าสุดนับเป็นแพลตฟอร์มเวอร์ช่วลไลเซชั่นที่แข็งแกร่ง ปรับขนาดได้อย่างยืดหยุ่น เปี่ยมด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลาย มีประสิทธิภาพสูง แต่เรียนรู้และใช้งานได้อย่างง่ายดาย คุณสมบัติหลักๆ ของ XenServer ได้แก่: การจัดการแบบรวมศูนย์อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการจัดการแบบมัลติโหนดอย่างสมบูรณ์ โดยไม่จำกัดจำนวนเซิร์ฟเวอร์และเวอร์ช่วลแมชชีน นอกจากนี้ยังประกอบด้วยเครื่องมือสำหรับการแปลงจากฟิสิคัลเป็นเวอร์ช่วล และจากเวอร์ช่วลเป็นเวอร์ช่วล การจัดการคอนฟิเกอเรชั่นแบบรวมศูนย์ และสถาปัตยกรรมการจัดการแบบกระจัดกระจาย การถ่ายโอนระบบงานอย่างต่อเนื่อง และการใช้ทรัพยากรร่วมกันบนเซิร์ฟเวอร์หลายเครื่อง ด้วยเทคโนโลยี XenMotion? ที่ทรงพลัง จึงทำให้สามารถโอนย้ายเวอร์ช่วลแมชชีนจากเซิร์ฟเวอร์เครื่องหนึ่งไปยังเซิร์ฟเวอร์อีกเครื่องหนึ่งโดยไม่ทำให้บริการหยุดชะงัก นอกจากนี้ยังมีการจัดวางตำแหน่งเวอร์ช่วลแมชชีนที่เหมาะสมที่สุด พร้อมด้วยโหมดบำรุงรักษาแบบอัจฉริยะ เอนจิ้นไฮเปอร์ไวเซอร์ที่เชื่อถือได้ ด้วยไฮเปอร์ไวเซอร์ Xen แบบโอเพ่นซอร์ส บนมาตรฐานอุตสาหกรรม 64 บิต ซึ่งได้รับการพัฒนาร่วมกันโดยผู้ผลิตเทคโนโลยีชั้นนำกว่า 50 ราย ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการปรับปรุงล่าสุด ทั้งในเรื่องประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความยืดหยุ่นในการปรับขนาด สำหรับเซิร์ฟเวอร์ ระบบปฏิบัติการ และไมโครโปรเซสเซอร์รุ่นอนาคต ประสิทธิภาพการทำงานแบบแบร์เมทัล (Bare Metal) ที่รวดเร็ว รองรับเซิร์ฟเวอร์และเวอร์ช่วลแมชชีนไม่จำกัดจำนวน ด้วยอัตราส่วนการผนวกรวมที่เหนือกว่า และประสิทธิภาพที่เกือบเป็นแบบเนทีฟบนเวิร์กโหลดของแอพพลิเคชั่นที่ท้าทายมากที่สุด โดยแทบจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในสภาพแวดล้อม Microsoft Windows? และ Linux ติดตั้งและบริหารจัดการได้อย่างง่ายดาย ด้วยอินเทอร์เฟซที่คุ้นเคย พร้อมด้วยการกำหนดค่าที่ง่ายดายโดยใช้วิซาร์ด การค้นหาที่สะดวกรวดเร็วในรูปแบบเว็บ 2.0 และวิธีใช้แบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยให้ผู้ดูแลระบบเรียนรู้วิธีการใช้งานได้อย่างฉับไว การจัดการสตอเรจแบบในตัว ซึ่งรองรับระบบสตอเรจใดๆ ที่มีอยู่ พร้อมด้วยฟีเจอร์ต่างๆ สำหรับการจัดการสตอเรจแบบในตัว เช่น การจัดการโลจิคัลโวลุ่มบนโฮสต์ และการกำหนดหลายพาธแบบไดนามิก “การเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ในครั้งนี้จะช่วยเร่งการปรับใช้เทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่น โดยขจัดอุปสรรคในเรื่องค่าใช้จ่ายและความซับซ้อน ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่เราต้องประสบพบเจอมานานหลายปี” ยาจ มาลิก รองประธานประจำภูมิภาคอาเซียนของซิทริกซ์ ซิสเต็มส์ กล่าว “ยิ่งเราช่วยให้ลูกค้าทำการเวอร์ช่วลไลซ์เซิร์ฟเวอร์หลายล้านเครื่องที่เหลืออยู่ได้เร็วเท่าไร ลูกค้าก็จะยิ่งได้รับประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมเร็วขึ้นเท่านั้น ด้วยการปรับเปลี่ยนดาต้าเซ็นเตอร์แบบคงที่ให้กลายเป็นดีลิเวอรี่เซ็นเตอร์แบบไดนามิก ซึ่งมีการนำเสนอเวิร์กโหลดทั้งหมดของแอพพลิเคชั่น เดสก์ทอป และเซิร์ฟเวอร์ในรูปแบบของบริการออนดีมานด์ (on-demand)” เหมาะสำหรับองค์กรทุกประเภท ด้วย XenServer รุ่นใหม่ล่าสุด ลูกค้าองค์กรจะมีทุกสิ่งที่จำเป็นสำหรับการปรับใช้และจัดการระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่นระดับองค์กรในแบบรวมศูนย์ โดยไม่จำกัดจำนวนเซิร์ฟเวอร์ และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในการติดตั้ง ซึ่งนับว่าสำคัญอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่สภาพเศรษฐกิจถดถอยในปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ ลูกค้าที่ยังไม่เคยใช้เทคโนโลยีเวอร์ช่วลไลเซชั่นมาก่อนจะได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีดังกล่าวรวดเร็วขึ้น ทั้งในเรื่องของการปรับปรุงประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่าย และสามารถอัพเกรดสู่ฟีเจอร์การจัดการระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่นที่ก้าวล้ำมากขึ้นเมื่อถึงคราวจำเป็น ส่วนลูกค้าที่ได้ลงทุนในแพลตฟอร์มเวอร์ช่วลไลเซชั่นราคาแพงไปก่อนหน้านี้ จะสามารถพิจารณาทางเลือกระดับองค์กรนี้เมื่อถึงเวลาที่ต้องการอัพเกรดหรือขยายระบบที่มีอยู่ การเปิดตัว XenServer รุ่นใหม่นี้ยังนับเป็นข่าวดีสำหรับผู้ให้บริการคลาวด์ ซึ่งโดยมากแล้วมักจะใช้ไฮเปอร์ไวเซอร์ Xen แบบโอเพ่นซอร์สเป็นองค์ประกอบหลักของแพลตฟอร์มในปัจจุบัน ด้วยการอัพเกรดสู่ผลิตภัณฑ์ XenServer แบบสมบูรณ์ ผู้ให้บริการคลาวด์เหล่านี้จะสามารถพัฒนาแพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานแบบเวอร์ช่วลที่มีฟีเจอร์พร้อมสรรพโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งยังสามารถรองรับผู้ใช้ Windows ได้เพิ่มเติม นอกเหนือจากบริการสำหรับ Linux ที่นำเสนออยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ผลิตระบบปฏิบัติการ Linux ที่รวม Xen ไว้ในผลิตภัณฑ์ของตนเอง สำหรับการพัฒนาไปสู่ XenServer แบบสมบูรณ์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณประโยชน์ให้แก่ลูกค้า และช่วยให้ผู้ผลิตเหล่านี้สามารถทุ่มเทความพยายามไปกับการพัฒนาบริการที่แตกต่างบนแพลตฟอร์มเวอร์ช่วลไลเซชั่น “เอนจิ้นเวอร์ช่วลไลเซชั่น Xen นับเป็นองค์ประกอบหลักของกลยุทธ์การประมวลผลแบบคลาวด์ของซอฟต์เลเยอร์ (SoftLayer) เพราะสามารถปรับระดับประสิทธิภาพได้อย่างยืดหยุ่น และทำงานได้อย่างโดดเด่น ช่วยให้เราบรรลุวิสัยทัศน์ในการใช้เวอร์ช่วลไลเซชั่นเพื่อปรับเปลี่ยนดาต้าเซ็นเตอร์” เนธาน เดย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของซอฟต์เลเยอร์ กล่าว “การที่ซิทริกซ์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในวันนี้จะช่วยให้เราสามารถใช้ประโยชน์จาก XenServer ได้อย่างเต็มที่สำหรับแพลตฟอร์มคลาวด์คอมพิวติ้งรุ่นอนาคตของเรา ด้วยประสิทธิภาพที่เพิ่มสูงขึ้นและฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน XenServer ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม Citrix Cloud Center (C3) จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับระบบคลาวด์ได้อย่างมาก โดยลูกค้าและคู่ค้าจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีคลาวด์ซึ่งมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว” ผลจากการดำเนินการในครั้งนี้ทำให้ XenServer ถูกรวมไว้เป็นฟีเจอร์หลักของ Citrix XenApp ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ชั้นนำด้านแอพพลิเคชั่นเวอร์ช่วลไลเซชั่น การเพิ่มเติม XenServer ในฐานะแพลตฟอร์มพื้นฐานภายใต้ XenApp จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น และช่วยให้ลูกค้าสามารถผนวกรวมฟิสิคัลเซิร์ฟเวอร์เข้าด้วยกัน โดยแทบจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ปัจจุบันมีเซิร์ฟเวอร์ในดาต้าเซ็นเตอร์ขององค์กรที่รัน XenApp มากกว่าหนึ่งล้านเครื่อง พัฒนาต่อยอดสู่การจัดการเวอร์ช่วลไลเซชั่นขั้นสูงเมื่อคุณพร้อม ลูกค้าที่ต้องการเพิ่มเติมความสามารถขั้นสูงในการจัดการระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่นในอนาคตจะสามารถจัดซื้อ Citrix Essentials? for XenServer ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ประกอบด้วยชุดความสามารถที่หลากหลาย ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับสภาพแวดล้อม XenServer ฟีเจอร์เสริมเหล่านี้ เช่น ระบบแล็บอัตโนมัติ การจัดสรรทรัพยากรแบบไดนามิก การปรับเปลี่ยนเวิร์กโฟลว์ให้สอดคล้องกัน ความพร้อมใช้งานสูง และการผนวกรวมอย่างกลมกลืนกับระบบสตอเรจชั้นนำ จะแสดงให้เห็นโดยตรงจากคอนโซล XenCenter? ในรูปแบบที่เป็นสีเทา เพื่อให้ผู้ดูแลระบบ XenServer เข้าใจได้ง่ายขึ้นเกี่ยวกับฟีเจอร์ขั้นสูงที่จะสามารถซื้อเพิ่มเติมได้ในภายหลังเมื่อความต้องการใช้งานเปลี่ยนแปลงไป และในขณะที่ซิทริกซ์เพิ่มเติมส่วนปรับปรุงใหม่ๆ ให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Citrix Essentials ผู้ใช้ XenServer ทุกรายก็จะได้รับแจ้งโดยอัตโนมัติเกี่ยวกับความสามารถใหม่ๆ เหล่านี้ผ่านทางคอนโซลการจัดการ XenCenter ข้อมูลเกี่ยวกับซิทริกซ์: ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นด้านโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการเข้าถึง (Application Delivery Infrastructure) และมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในด้านระบบAccessที่ปลอดภัยสำหรับองค์กรและผู้ใช้ทั่วไป โดยองค์กรต่างๆ กว่า 200,000 แห่งทั่วโลกใช้โซลูชั่นของซิทริกซ์ในแต่ละวัน ซอฟต์แวร์ บริการ และอุปกรณ์ด้านการเข้าถึงของเรา ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลธุรกิจในรูปแบบ On Demand ได้อย่างปลอดภัยและอยู่ภายใต้การบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าข้อมูลนั้นจะจัดเก็บไว้ที่ใดก็ตาม บริษัทชั้นนำในทำเนียบฟอร์จูน 100 เป็นลูกค้าของซิทริกซ์ทั้งหมด และ ร้อยละ 99 ของบริษัทในทำเนียบฟอร์จูน โกลบอล 500 ก็เป็นลูกค้าของซิทริกซ์เช่นกัน รวมถึงบริษัทขนาดเล็กต่างๆ ซิทริกซ์มีคู่ค้าและพันธมิตรราว 6,200 รายในกว่า 100 ประเทศ และมีรายได้ 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2006 หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม http://www.citrix.com ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ: ปราณี เฉลิมธนศักดิ์ บริษัทพีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง จำกัด โทรศัพท์: 0 2971 3711 อีเมล์: pranee@pc-a.co.th, pranee.pca@gmail.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ