กรุงเทพฯ--1 มี.ค.--แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์
LPN เผยผลการดำเนินงานปี 2548 ตัวเลขโดยรวมไปได้สวย สร้างรายได้รวมกว่า 3,500 ล้านบาท สูงกว่าปี 47 เกือบ 50% เป็นผลจากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดใน 3 โครงการ ลุมพินี เซ็นเตอร์ สุขุมวิท 77 ลุมพินี เพลส พระราม 3-ริเวอร์วิว และลุมพินี วิลล์ พหล-สุทธิสาร รวมกว่า 2,000 ยูนิต ด้านผลกำไรสุทธิและกำไรขั้นต้นจากการขายเพิ่มขึ้นกว่า 30% และจากการแปลงใบสำคัญแสดงสิทธิ ทำให้บริษัทฯ มีสภาพคล่องทางการเงิน พร้อมเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ย่านฝั่งธนบุรีปลายเดือนมีนาคมนี้
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ รักษาการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงผลประกอบการปี 2548 ของบริษัท บริษัทย่อย และบริษัทร่วมว่า มีรายได้รวม 3,582.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ที่มีรายได้รวม 2,478.40 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 44.55% ซึ่งเป็นผลมาจากการก่อสร้าง และส่งมอบที่ตรงตามกำหนดเวลา โดยในปี 2548 บริษัทฯ สามารถส่งมอบห้องชุดจาก 1) โครงการลุมพินี เซ็นเตอร์ สุขุมวิท 77 2) ลุมพินี เพลส พระราม 3-ริเวอร์วิว 3) ลุมพินี วิลล์ พหล-สุทธิสาร และบางส่วนจากโครงการอื่นๆ ได้มากถึง 2,243 ยูนิต รวมเป็นมูลค่ากว่า 3,346.46 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ายอดโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2547 ถึง 59.42% และมีผลกำไรสุทธิ 588.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีผลกำไร 448.39 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 31.22% ถึงแม้ในปี 2548 บริษัทฯ จะมีภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ต้องชำระเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งบริษัทฯ ได้ใช้ Tax Shield หมดแล้วในปี 2547 ทำให้ต้องชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราปกติ แต่หากพิจารณาถึงกำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษีเงินได้ (EBIT) ในปี 2548 เท่ากับ 876.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 70.01% คิดเป็นจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้น 360.81 ล้านบาท
นอกจากนี้ จากการที่บริษัทฯ สามารถบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้กลยุทธ์ Cost Leadership รวมถึงการควบคุมต้นทุนและประสิทธิภาพในการส่งมอบห้องชุดให้ลูกค้า ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสูงขึ้นถึง 35.46% และมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง2.20% ด้านงบกระแสเงินสดสิ้นปี 2548 คงเหลือ 288.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 130.10% เนื่องจากในปี 2548 บริษัทฯ มีการใช้สิทธิแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิครั้งสุดท้ายเป็นหุ้นสามัญ รวม 270.10 ล้านหุ้น ทำให้บริษัทฯ ได้รับเงินเพิ่มขึ้น 340.17 ล้านบาท อีกทั้งการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดก็เป็นไปตามเป้าหมาย จึงส่งผลให้บริษัทฯ มีสภาพคล่องในการดำเนินงานที่ดี สำหรับอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นในปี 2547 และ 2548 ลดลงจาก 0.90 : 1 เป็น 0.51 : 1 แต่หากพิจารณาเฉพาะหนี้ที่มีดอกเบี้ย มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเพียง 0.19 : 1 เทียบกับปี 2547 ที่มีสัดส่วน 0.69 : 1 สำหรับกำไรสุทธิต่อหุ้นและมูลค่าหุ้นทางบัญชีเพิ่มขึ้นจากปีก่อนไม่มาก เนื่องจากในปี 2548 บริษัทฯ มีการแปลงหุ้นตามรายการข้างต้น
ในปี 2549 บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวโครงการจำนวน 5 โครงการ ประมาณ 6,900 ยูนิต มูลค่าประมาณ 8,600
ล้านบาท โดยเดือนมกราคมที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการลุมพินี เพลส พหล-สะพายควาย อาคารชุดพักอาศัยสูง 29 ชั้น 2 อาคาร มูลค่าประมาณ 2,200 ล้านบาท ซึ่งปิดการขายไปได้แล้ว 70% และในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้คาดว่าจะเปิดตัวอีก 1 โครงการย่านฝั่งธนบุรี ซึ่งในปี 2549 บริษัทฯ มีแผนการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ใน 4 โครงการ ได้แก่ 1) ลุมพินี เซ็นเตอร์ แฮปปี้แลนด์ นวมินทร์ 2) ลุมพินี เพลส ปิ่นเกล้า 3) ลุมพินี วิลล์ สุขุมวิท 77 4) ลุมพินี วิลล์ ศูนย์วัฒนธรรม รวม 3,333 ยูนิต มูลค่ารวมประมาณ 5,000 ล้านบาท
ตารางสรุปตัวเลขที่สำคัญ
รายการ งบการเงินรวม
2548 2547 %เปลี่ยนแปลง
1. รายได้รวม (ล้านบาท) 3,582.63 2,478.40 44.55%
2. กำไรขั้นต้นจากการขาย (%) 35.46% 35.09% 0.37%
3. กำไรขั้นต้นจากการเช่าและบริการ (%) 29.31% 22.88% 6.43%
4. กำไรขั้นต้นจากการบริหารจัดการ (%) 41.81% 29.94% 11.87%
5. กำไรขั้นต้นจากการขาย เช่า และบริการ 1,249.20 848.89 47.16%
และค่าบริหารจัดการ (ล้านบาท)
6. กำไรขั้นต้นจากการขาย เช่า และบริการ 35.66% 34.74% 0.92%
และค่าบริหารจัดการ (%)
7. ค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหาร (%) 12.51% 14.71% -2.20%
8. กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษีเงินได้ (ล้านบาท) 876.17 515.36 70.01%
9. กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษีเงินได้ (%) 24.46% 20.79% 3.66%
10. กำไรสุทธิ (ล้านบาท) 588.38 448.39 31.22%
11. กำไรสุทธิ (%) 16.42% 18.09% -1.67%
12. กำไรสุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.43 0.41 4.88%
13. มูลค่าหุ้นทางบัญชี 2.2 2.12 3.77%
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
เสาวนีย์ จีระเดชาธรรม, สุปรียา ปิ่นเกตุ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร. 02-285-5011-6 ต่อ 553, 504--จบ--