กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--สสวท.
และแล้วในที่สุด เวทีนี้...ที่รอคอย ก็มาถึงแบบชวนให้ลุ้น เพราะวันที่ 24 เมษายน - 2 พฤษภาคม 2552 ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คือสนามประชันสุดยอดหัวกะทิจากประเทศต่างๆของภูมิภาคนี้ ในการแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกระดับทวีปเอเชีย ครั้งที่ 10 ซึ่ง มูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษาในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (มูลนิธิสอวน.) ร่วมกับ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) กระทรวงศึกษาธิการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสมาคมฟิสิกส์ไทย เป็นเจ้าภาพร่วมกัน โดยมีคณะผู้แทนไทยฯ เข้าร่วมแข่งขันในฐานะทีมชาติ 8 คน และทีมรับเชิญ (Guest team) 8 คน รวมนักเรียนที่เข้าร่วมแข่งขัน 161 คน จาก 22 ประเทศ
น้องๆ ทีมชาติทั้ง 8 คน เปิดใจให้ฟังถึงการได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทยฟิสิกส์โอลิมปิกระดับทวีปเอเซียในครั้งนี้ว่า พร้อมทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ข้อสำคัญโอกาสในชีวิตครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการก้าวเดินไปบนเส้นทางความฝันสู่การเป็นนักฟิสิกส์รุ่นใหม่
นายสรณภพ เทวปฏิคม หรือ เกรท ชั้นม.6 โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเคยเป็นผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกระดับทวีปเอเชียเมื่อปีที่แล้วที่ประเทศมองโกเลีย บอกว่าการได้รับโอกาสอีกครั้งในปีนี้เนื่องจากสะสมประสบการณ์ ความรู้ที่ได้จากครั้งที่ผ่านมา ผนวกกับหัวใจที่พร้อมกว่าเดิม ตั้งใจว่าปีนี้จะทำตามความใฝ่ฝันให้สำเร็จ
“กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ต้องฝ่าฟันหลายสิ่งหลายอย่าง ฝึกทำโจทย์เยอะครับ และพยายามอุดรอยรั่วต่างๆของผมเอง ฝึกจิตใจด้วยการทำสมาธิ ทำจิตให้นิ่ง ไม่รนเวลาทำข้อสอบ ผมชอบเรียนฟิสิกส์ในภาคปฏิบัติครับ เพราะทำให้ผมรู้สึกว่า ฟิสิกส์ไม่ได้มีอยู่แค่ในหนังสือเท่านั้น” น้องเกรทเผยเบื้องหลังความสำเร็จที่ต้องแลกมาด้วยความพยายาม
นายธิปก รักอำนวยกิจ หรือ น้องเบนชั้นม.4 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ปีที่แล้วเพิ่งกวาดเหรียญทองประเภทบุคคล การแข่งขัน Asia Invitational Mathematics Olympiad 2007 จาก ฮ่องกงรวมทั้งเหรียญรางวัลจากการแข่งขันระดับนานาชาติหลายต่อหลายนัด ครั้งนี้น้องเบนเผยว่า การแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกฯ เป็นอีกแรงกระตุ้นที่ทำให้เด็กได้ฝึกฝนและพัฒนาศักยภาพของตนเอง และช่วยเพิ่มความสนใจในการเรียน เพราะประเด็นหลักจริงๆก็คือ ทำอย่างไรจะทำให้เด็กไทยขยันและมีความสนใจในเรื่องต่างๆมากขึ้น ฟิสิกส์คือหนึ่งในนั้น โครงการโอลิมปิกวิชาการที่ผ่านมาช่วยเปิดโลกทัศน์ให้เห็นว่าในฟิสิกส์มีเรื่องที่น่าสนใจ น่าศึกษาค้นคว้าอีกมากมายครับ
นายจิรวัฒน์ ตั้งปณิธานนท์ หรือ ทิว ชั้นม.6 โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จ.นครปฐม ได้เป็นผู้แทนประเทศไทยฟิสิกส์โอลิมปิกระดับทวีปเอเซียปีนี้เป็นปีแรก เผยหัวใจนักสู้ว่าที่ผ่านมาในการคัดเลือกผู้แทนโอลิมปิกวิชาการนั้น ผมเคยเป็นคนหนึ่งที่สอบตกตั้งแต่รอบแรก แต่ไม่ท้อครับและพยายามดิ้นรนฟันฝ่ามาเรื่อยๆ ซึ่งในที่สุดคราวนี้ก็ทำได้สำเร็จสมความตั้งใจ
“ผมชอบเรียนวิทยาศาสตร์ตั้งแต่ม.ต้น และเมื่อเรียนวิชาไหนได้ดีก็ชอบวิชานั้น โครงการโอลิมปิกวิชาการช่วยส่งเสริมตรงจุดนี้ ทำให้ได้พัฒนาศักยภาพและเห็นความงามของวิชาเหล่านี้ครับ”
นายอิสระพงศ์ เอกสินชล หรือ ปริ๊นซ์ ชั้นม.5 โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จ.นครปฐม เผยว่า การแข่งขันฯ ทำให้เด็กหลายคนมีแรงบันดาลใจ มีเป้าหมายที่จะพยายามเรียนรู้ สำหรับตนเองได้ฝึกทำข้อสอบของปีก่อนๆ เพื่อสร้างความมั่นใจ รอบคอบ ว่องไว รวมทั้งฝึกสมาธิ สวดมนต์ ทำจิตใจให้สงบ เพื่อจะไม่เครียด ไม่กดดัน
“ ผมเข้าโครงการโอลิมปิกวิชาการ เพราะอยากเรียนรู้ทฤษฏีของฟิสิกส์อย่างลึกซึ้ง และละเอียด รวมถึงได้ฝึกฝนปฏิบัติการ รู้สึกภูมิใจครับที่ได้รับการไว้วางใจให้เป็นผู้แทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ครับ”
นายวีรภัทร พิทยครรชิต หรือ วี ชั้นม.4 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กทม. บอกว่า รู้สึกกดดันพอสมควรว่าจะได้เหรียญหรือไม่ แต่เมื่อคิดอีกที ทางที่ดีควรเรียนอย่างมีความสุขดีกว่า ดังนั้นจึงไม่กังวลกับรางวัลอีก แต่ได้เตรียมความพร้อมโดยนั่งสมาธิ ฝึกสงบจิตใจ ทำสมองให้ปลอดโปร่งแจ่มใจ สำหรับอนาคต ตั้งเข็มทิศอยากเรียนด้านฟิสิกส์ซึ่งเป็นวิชาที่ตัวเองรักชอบ
“รางวัลเกียรติยศสูงสุดของนักฟิสิกส์คือรางวัลโนเบล แต่รางวัลที่ตั้งมั่นไว้สำหรับตัวเองก็คือให้มีจิตใจที่กระตือรือร้นขึ้น ส่วนจะได้หรือไม่ได้นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะถ้าคาดหวังมากเกินไป ชีวิตก็จะไม่มีความสุขครับ”
นายวีรชาติ ศรีสโมสร หรือ เอ ชั้นม.6 โรงเรียนโยธินบูรณะ มุ่งมั่นสู่อาชีพแสนรักในอนาคตว่าอยากทำงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อช่วยพัฒนาประเทศชาติ เพราะอยากเห็นประเทศไทยก้าวไกลทัดเทียมประเทศอื่น สนใจเรียนฟิสิกส์ โดยเฉพาะชอบทำแล็ปที่ได้ทำการทดลอง เพราะได้ลงมือทำจริงๆ ด้วยตัวเองครับ
“มาได้ไกลขนาดนี้ก็รู้สึกภูมิใจครับ ทั้งๆที่ก็ไม่ได้ตั้งความหวังว่าจะได้เป็นผู้แทนประเทศไทยฯมาก่อนเลย จึงทำให้รู้สึกกดดันบ้าง อย่างไรก็ตามการเข้าร่วมโครงการโอลิมปิกวิชาการทำให้ได้รู้จักเพื่อนๆ ที่มีความสนใจด้านเดียวกัน ได้ความรู้และประสบการณ์ที่หาไม่ได้ในห้องเรียนปกติ และได้เจอกับข้อสอบที่ท้าทายครับ”
นายธนภัทร วรศรัณย์ หรือ ตั้ว ชั้นม.6 โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จ.นครปฐม เล่าว่าไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรเพื่อการแข่งขัน จึงไม่รู้สึกกดดันแต่ถือว่าทำในสิ่งที่รักและชอบ ประสบการณ์ประทับใจที่ได้จากการเข้าร่วมโครงการโอลิมปิกวิชาการก็คือเพื่อน เพราะได้พบกับเพื่อนๆที่มีความสนใจด้านเดียวกัน ได้ทั้งความรู้และมิตรภาพ อนาคตตั้งใจอยากศึกษาต่อด้านฟิสิกส์ในต่างประเทศ
สำหรับวันนี้น้องตั้วแอบฝันไว้ในใจรอไปสานต่อในอนาคตว่า “อยากเป็นนักฟิสิกส์ และคว้ารางวัลโนเบล สร้างชื่อสร้างคุณค่าด้วย”
คนเก่งปิดท้าย นายนครินทร์ โลหิตศิริ หรือ น้องเก่ง ชั้นม.4 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กทม. ชอบเรียนฟิสิกส์โดยเฉพาะทฤษฏี เพราะทำให้ฝึกคิดได้มากและหลากหลาย น้องเก่งไม่ใช่เด็กเรียนอย่างเดียว แต่ในเวลาว่างก็เหมือนเด็กทั่วๆไปที่สนใจหนังสือหลายประเภท รวมทั้งวิทยาศาสตร์เรื่องเกี่ยวกับ กำเนิดควอนตัมซึ่งสนุกแถมมีภาพประกอบดึงดูดใจ ฟังเพลง และชอบเล่นปิงปอง บาสเก็ตบอล ฟุตบอล กับเพื่อนๆ
ชอบอะไรหลายๆ อย่างแบบนี้แถมยังเรียนดีระดับประเทศ มีเคล็ดไม่ลับก็คือต้องไม่หักโหมในการเรียนมากจนเกินพิกัด ฟังเพลง เล่นกีฬาบ้าง แต่ข้อสำคัญที่สุดก็คือต้องรู้จักแบ่งเวลาให้ถูกต้อง
8 คน 8 คมคิดจากผู้แทนประเทศไทยสู่การชิงชัยในการแข่งขันฟิสิกส์โอลิมปิกระดับทวีปเอเซียครั้งนี้ รอคอยทุกคนเป็นกำลังใจให้เด็กไทยสร้างฝัน และสานฝัน บนเวทีวิชาการได้เป็นผลสำเร็จ นอกจากนี้ยังเป็นการพัฒนาศักยภาพเยาวชนไทยในระดับที่สูงขึ้น ส่งเสริมให้ เกิดบรรยากาศทางวิชาการที่น่าเรียน น่ารู้ และน่าลุ้น เพราะอบอุ่นด้วยมิตรภาพ