กรุงเทพฯ--27 เม.ย.--พม.
เมื่อวันศุกร์ที่ (๒๔ เม.ย.๒๕๕๒) ที่เมืองเนปิดอ สหภาพพม่า นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และพลตรีหม่องอู (H.E.Major General Maung Oo) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แห่งสหภาพพม่า ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสหภาพพม่า ว่าด้วยความร่วมมือเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์โดยเฉพาะสตรีและเด็ก เพื่อใช้เป็นกรอบการดำเนินงานป้องกัน คุ้มครอง ช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ของทั้งสองประเทศ
นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า สภาวะเศรษฐกิจที่กำลังวิกฤต ผันผวน และกำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงไปทั่วโลก จะส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานทั้งในและนอกระบบเพิ่มมากขึ้น เป็นสภาวการณ์ล่อแหลมที่เปิดโอกาสให้ขบวนการค้ามนุษย์เข้ามาฉวยผลประโยชน์จากผู้ที่เคลื่อนย้ายถิ่นเหล่านี้ได้ ประเทศไทยในฐานะเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และมีพรมแดนติดกับประเทศกัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม ได้ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์มาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากการเข้าร่วมกับสหประชาชาติในโครงการความร่วมมือสหประชาชาติเพื่อต่อต้านการค้าหญิงและเด็กในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ปี ๒๕๔๓ การจัดทำ MOU ระดับทวิภาคีเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์กับประเทศต่าง ๆ ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เช่น กัมพูชา ลาว เวียดนาม รวมทั้งมีการตั้งคณะทำงานร่วมกัน หน่วยงานประสานงานกลาง และจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมกัน นอกจากนี้ยังได้ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ เมื่อ ปี ๒๕๔๗ เพื่อดำเนินการต่อต้านการค้ามนุษย์ในรูปแบบต่าง ๆ อย่างจริงจัง รวมทั้งการประสานความร่วมมือกับนานาประเทศ ในการคุ้มครอง ช่วยเหลือ ป้องกัน และส่งผู้ที่ตกเป็นเหยื่อกลับประเทศอย่างปลอดภัย โดยมีกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นหน่วยงานหลักของรัฐบาลในการดำเนินการ
นายอิสสระ กล่าวต่อว่า บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการต่อต้านการค้ามนุษย์ที่รัฐบาลไทย และรัฐบาลสหภาพพม่า จัดทำร่วมกันนี้ จะครอบคลุมถึงความร่วมมือในการป้องกัน การคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ การปราบปราม การส่งกลับและคืนสู่สังคม ตลอดจนกลไกประสานงาน การบริหารจัดการต่าง ๆ และยังเชื่อมโยงกับบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการจัดจ้างแรงงาน ที่รัฐบาลไทยได้ลงนามร่วมกับรัฐบาลสหภาพพม่า เมื่อปี ๒๕๔๖ ด้วย เพราะเป็นการป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ในรูปแบบของแรงงาน คือ การส่งเสริมการย้ายถิ่นและการบริหารจัดการแรงงาน ซึ่งจะเป็นฐานการดำเนินงานต่อต้านการค้ามนุษย์ที่เข้มแข็งต่อไป
“รัฐบาลไทยมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับทุกประเทศ ทุกฝ่าย เพื่อขจัดภัยจากการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้นไป และจะนำกรอบความร่วมมือในบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสวัสดิภาพของประชาชนทั้งสองประเทศต่อไป” นายอิสสระ กล่าว