กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แถลงว่า วันที่ 28 เมษายน 2552ที่ผ่านมาว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการสินเชื่อเพื่อชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในการชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปีภาษี 2551 โดยมีหลักเกณฑ์ที่สำคัญ ดังนี้
1. ประเภทสินเชื่อ : สินเชื่อเพื่อชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี 2551 โดยเงินสินเชื่อที่ได้รับจากธนาคารจะส่งตรงให้กับทางการเพื่อชำระภาษีของ SMEs นั้น ๆ
2. คุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อ
(1) เป็นผู้ประกอบการ SMEs ที่มีภาระภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี 2551 และ
(2) ณ ปัจจุบัน ไม่เคยค้างชำระภาษีกับกรมสรรพากรในรอบบัญชีก่อนหน้า โดยสามารถตรวจสอบได้กับกรมสรรพากร
(3) เป็นลูกค้าของธนาคารนั้น ๆ และไม่เคยมีประวัติการผิดนัดชำระหนี้กับธนาคารเกินกว่า 90 วัน ย้อนหลัง 3 ปี และข้อมูล Credit Bureau ณ ปัจจุบันต้องไม่มีหนี้ค้างชำระ
(4) ดำเนินธุรกิจดังกล่าวมาไม่น้อยกว่า 3 ปี
3. เงื่อนไขการกู้เงิน : ระยะเวลาการให้สินเชื่อ 1 ปี ระยะเวลาปลอดหนี้ 3 เดือน อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี จ่ายชำระเป็นรายเดือน
4. การค้ำประกัน : ให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมเป็นผู้ค้ำประกันเต็มจำนวนสินเชื่อของผู้กู้แต่ละราย วงเงินค้ำประกันรวมกันประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยคิดค่าธรรมเนียมปกติ
5. ธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ : ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
การดำเนินมาตรการดังกล่าวนอกจากจะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับ SMEs แล้วยังจะช่วยให้รัฐสามารถจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลได้เพิ่มขึ้น และช่วยให้เกิดการหมุนเวียนของสภาพคล่องในระบบสถาบันการเงินอีกด้วย
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้หมายความตามกฎกระทรวงกำหนดจำนวนการจ้างงานและมูลค่าสินทรัพย์ถาวรของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2545 ออกตามความใน พ.ร.บ. ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2543
สำนักนโยบายระบบการเงินและสถาบันการเงิน
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร 0-2273-9020 ต่อ 3245 โทรสาร 0-2273-9088