บีเอเอสเอฟ แนะแนวโน้มใหม่สีรถยนต์สำหรับอีก 3 - 6 ปี ข้างหน้า

ข่าวทั่วไป Wednesday March 15, 2006 14:37 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 มี.ค.--บีเอเอสเอฟ
บีเอเอสเอฟ ชี้เทรนด์ใหม่สีรถยนต์ในอีก 2-3 ปี สีสด สะดุดตา และสีผสมจะมาแรง พร้อมเปลี่ยนโฉมหน้าของสีรถแบบเดิมๆ อย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่นิยมสีเขียว หรือฟ้า มาเป็นแนวใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน เช่น “สีเทาน้ำมัน” (petrol-gray) และ สี “เกรจ” (greige) ซึ่งเป็นการผสมระหว่างสีเทา (grey) กับ เบจ (beige) หรือฟ้าแกมเขียว (greenish blue) เป็นต้น
ความโดดเด่นของนวัตกรรมสี “ลูกผสม” เหล่านี้ แตกต่างกันออกไปในแต่ละสภาพแวดล้อม ตัวอย่างเช่น การเพิ่มสีเขียวเทอร์ควอยซ์เข้าไป จะมีผลทำให้สีฟ้าดูมีประกายที่ลึกลับมากขึ้น ในขณะที่ความมันวาวละเอียดแบบของสีมุก จะเพิ่มการกระจายแสงและประกายของสีเทาอ่อนเจือเขียว เทคนิคการผสมผสานสีแบบใหม่เหล่านี้ จะทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกทึ่ง และพิศวงในความมหัศจรรย์ของสีเป็นอย่างยิ่ง
เทคนิคการสร้างสรรค์สีแบบใหม่ เป็นผลงานการพัฒนาโดยนักออกแบบของ บีเอเอสเอฟ โค้ตติ้งส์ ได้แก่ Michaela Finkenzeller และ Eiji Fujimori แห่งเอเชียแปซิฟิก รวมทั้ง Sandra Mathia แห่งอเมริกาเหนือ จากการนำเสนอผลการศึกษาแนวโน้มของสีรถยนต์ประจำปี ของบีเอเอสเอฟ โค้ตติ้งส์ ทั้งนี้ นอกจากสีและเทคนิคการผสมสีแล้ว คุณสมบัติด้านผิวสัมผัสของรถยนต์ จะมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ซื้อรถอีกด้วย โดยในอนาคตอันใกล้นี้ พื้นผิวของรถยนต์ที่ผลิตออกมาจำหน่าย จะมีความแตกต่างหลากหลายกว่าปัจจุบัน เช่น พื้นผิวของรถยนต์จะมีความมันวาวเป็นพิเศษ หรืออาจจะเป็นผิวด้าน หรือทั้งสองอย่าง
การศึกษาแนวโน้มของสีรถยนต์โดยบีเอเอสเอฟ โค้ตติ้งส์ เป็นโครงการความร่วมมือกับนักออกแบบในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลก โดยสีรถยนต์ที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาในขณะนี้ จะเข้าสู่กระบวนการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในอีก 3-6 ปี เริ่มจากปี พ.ศ. 2552 หรือ พ.ศ. 2553
ผู้เชี่ยวชาญด้านสีของ บีเอเอสเอฟ ได้ศึกษาแนวโน้มของสี ในภูมิภาคสำคัญ 3 แห่งของโลก ได้แก่ ยุโรป เอเชียแปซิฟิก และอเมริกาเหนือ แม้ว่าภูมิภาคทั้งสามแห่งนี้ จะมีความคล้ายคลึงในทางประวัติศาสตร์เรื่องสีอยู่บางประการ แต่ผลการศึกษาได้พบว่า ผู้บริโภคมีความแตกต่างกันอย่างมาก ในด้านรสนิยม
แนวโน้มสีรถยนต์ในยุโรป
ในยุโรป สีเงิน ยังคงเป็นสีที่ได้รับความนิยมสูงต่อไป แต่จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเพิ่มโทนสีที่มีความละเอียดมากขึ้น เทรนด์ใหม่ของสีเงิน จะมีความหลากหลายของโทนสีมากขึ้น สีเงินในโทนอบอุ่นประกายมุก จะทำให้ความแตกต่างระหว่างสีเงินและสีเบจมีน้อยลง การค้นคว้าพัฒนาสีจากสีมาตรฐานเดิมๆ จะเป็นโอกาสไปสู่การเกิดสีใหม่ๆ ที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง สีเงิน และสีฟ้า หรือเป็นสีประเภท “กลาง” หรือ “ลูกผสม” ในวงการสีรถยนต์
นอกจากนี้ สีเงิน จะยิ่งสวยงามมากขึ้นกว่าเดิมด้วยการผสมสีโลหะเข้าไป เช่น สีทองแดง สีบรอนซ์ สีทอง และสีแพลตตินัม ทำให้รถยนต์ มีความเจิดจ้า สว่างสดใสในสไตล์เมทัลลิกมากขึ้น ส่วนเฉดสีที่เพิ่มขอบเขตให้กว้างขวางหลากหลาย จะช่วยสะท้อนความคลาสสิค มีระดับ หรูหรา สง่างาม ให้กับรถยนต์ได้เป็นอย่างดี เพื่อตอบสนองความต้องการและรสนิยมที่แตกต่างกันออกไปของลูกค้า
ในทุกวันนี้ รถยนต์มีความสำคัญมากขึ้น และเป็นเสมือน “โลกส่วนตัว” หรือ “ที่พักพิง” ของคนเมืองรุ่นใหม่ที่ชีวิตต้องมีการเดินทางอยู่เสมอ ดังนั้น โทนสีอบอุ่น และทำให้ผ่อนคลาย จึงเป็นที่ชื่นชอบของผู้ใช้รถที่ต้องการความสะดวกสบาย ซึ่งสีในกลุ่มนี้ ได้แก่ สีเบจไล่สีไปจนถึงสีน้ำตาล
ในอนาคต เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการผลิตสี จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ของสีน้ำตาล สีเบจ และสีโลหะมีค่า สร้างประสบการณ์สีสันใหม่ๆ ที่ดึงดูดทุกสายตาให้ต้อง หันมามองอีกครั้ง สีแดง จะเป็นหนึ่งในสีโปรดของหลายๆ คน โดยเฉพาะคนที่ต้องการ ความบริสุทธ์ ความลึกซึ้ง และความโฉบเฉี่ยวปราดเปรียวแบบสปอร์ตของสีแดง พอๆ กับชื่นชอบสีโทนแสดปะการังที่ทันสมัย
สีโปรดตลอดกาล
สีขาว สัญลักษณ์แห่งความบริสุทธ์ และความจริงใจ จะเป็นที่นิยมมากขึ้น สีขาวให้ความรู้สึกภาคภูมิ สง่างาม จริงใจ ไม่เสแสร้ง และสีขาวยังเป็นสีที่สะท้อนบุคคลิกภาพที่แท้จริงของรูปลักษณ์ภายนอกของรถยนต์อีกด้วย
สีขาวทีมีประกายมุก หรือสีขาวที่เพิ่มเทคนิคใหม่ ๆ เข้าไป จะยังคงเป็นสีหลักในการออกแบบรถยนต์ในอนาคต แต่จะมีการพัฒนาสีขาวในโทนใหม่ๆ เพิ่มเติม ผู้บริโภคที่ชอบสีขาวมีทางเลือกมากขึ้น ดึงดูดใจให้สัมผัส
ในช่วง 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา การออกแบบลักษณะพื้นผิวของรถยนต์ถูกกำหนด โดยสีและเทคนิคการผลิต แต่ด้วยเทคโนโลยีในอนาคต นักออกแบบจะสามารถพัฒนาสีสันใหม่ๆ ที่ให้ประสบการณ์เชิงสัมผัสทางอารมณ์ นอกเหนือไปจากการมองด้วยสายตาแต่เพียงอย่างเดียว
เทคนิคการผลิต “สีด้าน”หรือ “สีนุ่มนวล” จะนิยามความหมายใหม่ของยนตรกรรมในฐานะที่เป็นผลผลิตของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี สีสันจะเชิญชวนให้ผู้คนปรารถนาที่จะยื่นมือมาสัมผัส และลูบไล้พื้นผิวของรถยนต์มากขึ้น
ในทุกๆ เทรนด์ จะต้องมีสิ่งที่ตรงข้ามเทรนด์เสมอ และในกรณีของ “สีด้าน” ก็จะมีกระแสความนิยมของ “สีมันวาว สะท้อน” ควบคู่กันไป สองทิศทางแฟชั่นสีที่ต่างกันสุดขั้วนี้ มิได้แยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง แต่ความแตกต่างนี้ คือโอกาสใหม่ๆ ให้กับนักออกแบบในการผสมผสานวัสดุ สี และพื้นผิวนานาชนิดเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ไม่ว่าในการออกแบบภายในหรือภายนอกรถยนต์ โทนสีเงินสดใสในเฉดกลางๆ จะเป็นที่นิยมมากที่สุดในการออกแบบที่ว่านี้ และการออกแบบด้วยสีสองสี ที่จับคู่เข้าด้วยกันอย่างเหมาะเจาะ จะช่วยเสริมความแตกต่างนี้ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
แนวโน้มสีรถยนต์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ในภูมิภาคนี้ พบว่ามี แนวโน้ม 4 ประการ คือ
แนวโน้มที่ 1 คือสีที่มีความสัมพันธ์กับวิถีชีวิตที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ ความยั่งยืนและมั่นคง สีในกลุ่มนี้ ได้แก่ สีเขียว น้ำตาล และฟ้า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของธรรมชาติ เช่น ป่าเขาลำเนาไพร ท้องฟ้า น้ำ การรักษาสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ
แนวโน้มที่ 2 คือ สีที่ดูมีคลาส มีรสนิยม และสวยโฉบเฉี่ยว เป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคง ภูมิฐาน ได้แก่ สีกลุ่มที่เป็นกลางๆ ไล่ระดับสีในโทนอ่อนๆ เช่นสีทองแชมเปญ หรือสีดำเข้ม นอกจากนี้ ไฮไลท์สีทองอ่อนๆ ช่วยให้ความรู้สึกหรูหรา มีระดับมากขึ้นด้วย
แนวโน้มที่ 3 คือ สีแห่งอนาคต เช่น ขาว และเงิน และสีกลางๆ ได้แก่ ดำ แนวโน้มที่ 4 เน้นสีที่เน้นคุณสมบัติของพื้นผิว เช่น เมทัลลิคมันวาวพลิ้วไหว หรือ สีด้าน ซึ่งจะเป็นสีประเภทใหม่ ที่มีความสำคัญมากขึ้นในอนาคต สีแดง
สีแดง คือสีแห่งพลัง สีแดงโทนส้มหรือแสดที่สว่างเจิดจ้าสดใส ทำให้นึกถึงสีของน้ำชา นอกจากนี้ ในอนาคต สีแดงเจือฟ้า จะมาแทนสีแดงสดเข้ม
สีส้ม สีทองแดง หรือสีน้ำตาล
สีทองแดง และน้ำตาล จะมีความโดดเด่นมากขึ้นสำหรับสีรถยนต์ ความนิยมในสีส้ม กำลังถึงจุดสูงสุดในปัจจุบัน ดังนั้น เพื่อให้เข้ากับกระแสความนิยมในปัจจุบัน และอนาคต นักออกแบบ จึงเพิ่มเฉดสีของสีส้มให้มากขึ้นไปอีก โดยรวมเฉดอื่นๆ เข้ามาในกลุ่มนี้ด้วย อาทิ สีทองแดง ซึ่งเป็นสีที่อยู่ตรงกลางระหว่างสีแดง และส้ม รวมทั้งโทนสีเบจ และโทนน้ำตาล
เหลือง
โทนสีเหลืองสไตล์สปอร์ต กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น แต่นักออกแบบจะต้องระมัดระวังในการใช้สีเหลือง เพราะ ถ้าใช้เหลืองจัดมากไป จะทำให้การออกแบบยากมากขึ้นเขียว/เขียวแกมฟ้า
สีเขียว และเขียวแกมฟ้า เป็นกลุ่มสีที่มีความสำคัญมากที่สุด เพราะเป็นกลุ่มที่สะท้อนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และให้ความรู้สึกสงบสมดังจินตนาการ นักออกแบบ จะใช้โทนสีต่างๆ ชองสีเขียว เช่น เขียวแบบชาเขียว และจะทดลองใช้เฉดสีต่างๆ ที่หลากหลาย ตั้งแต่เขียวเหลือง ไปจนถึงเขียวฟ้า
ฟ้า
สีฟ้า เป็นสีที่ทุกคนชื่นชอบ และเป็นสีที่มีความลึกของระดับสีมากที่สุด สามารถแบ่งออกกว้าง ๆ เป็น ฟ้าเขียว และฟ้าออกม่วง เฉดใดๆ ของสีฟ้า จากฟ้าอ่อน ไปถึงฟ้าเข้ม เป็นสีที่สวยงามที่เป็นที่ชื่นชอบ นักออกแบบ จะต้องทดลองออกแบบโดยใช้สีฟ้าในโทนต่างๆ ที่มีความหลากหลายออกไป
ม่วง
สีม่วงประกายวาว คู่กับสีแดงเข้ม กำลังได้รับความสนใจเช่นกัน ในระยะเวลาที่ผ่านมา สีม่วง เป็นสีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ผู้บริโภคเองก็เริ่มที่จะคุ้นเคยกับสีม่วงมากขึ้นไปด้วย นักออกแบบ จึงกล้าที่จะค้นหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อพัฒนาโทนสีม่วงที่ “เซ็กซี่” มากขึ้น โดยทดลองผสมสีม่วงเข้ากับสีเหลือบ (interference colors or traveling colors) ซึ่งเป็นสีที่ให้คุณลักษณะของการหักเหของเฉดสี
สีดำ
สีดำจะยังคงเป็นที่นิยมต่อไป แต่นักออกแบบ จะต้องลองผสมสีใหม่ๆ ที่ฉีกแนวเดิมๆ ออกไปบ้าง การออกแบบโทนสีดำใหม่ๆ จะทำให้สีดำไม่ ดูขึงขังสำหรับสายตามากเกินไปนัก
สีเงิน
แม้ว่า สีเงินได้ขึ้นมาถึงจุดสูงสุดของความนิยมแล้ว แต่ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญในการออกแบบรถยนต์อยู่ นักออกแบบ จะใช้เทคนิคพิเศษต่างๆ เช่น การใช้สีเงินเข้ม หรือการเจือสีอื่นๆ เข้าไปในสีเงิน นอกจากนี้ นักออกแบบ จะยังคงเดินหน้าพัฒนาสีเงินที่มีผิวสัมผัสแบบใหม่ๆ เช่นสีเงินเมทัลลิคพลิ้วไหว หรือ สีเงินแบบด้าน
สีขาว
ในประเทศญี่ปุ่น สีขาวเป็นสีที่มีความสำคัญเป็นอันดับสองรองจากสีเงิน เพราะเป็นสีที่ใช้ได้ทุกโอกาส เป็นที่ชื่นชอบของทุกๆ คน สีขาวสื่อความหมายถึงความบริสุทธ์ ความนิยมในสีขาว จะคงมีอยู่ต่อไป อย่างไรก็ตาม นักออกแบบ จะค้นคิดสีขาวแบบใหม่ๆ ที่อาจเป็นการเจือสีอื่นๆ ไว้อย่างบางเบา หรือเป็นการทำให้สีขาวมีความขาวมากกว่าสีขาวที่เคยมีมาในอดีตก็เป็นได้
แนวโน้มสีรถยนต์ในอเมริกาเหนือ
สีพาสเทลเข้มข้น ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น สดใสด้วยหลากสีสัน เป็นโทนสีระดับกลางที่จะมาแรงในอนาคตอันใกล้นี้ สีเขียว สีเหลืองผสมฟ้า จะเป็นสีที่โดดเด่นของวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยจะพัฒนาไปสู่เฉดและโทนใหม่ๆ มากกว่าเดิม ซึ่งในขณะนี้ สีกลุ่มนี้ เป็นเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นในแนวการตกแต่งบ้านแบบหรูหรา รวมถึงในวงการรถยนต์ ทั้งยังใช้เป็นสีเบรคสำหรับสีแรงๆ อีกด้วย
ส่วนสีส้ม กำลังพัฒนาสู่โทนสีทองแดงมากขึ้น ในขณะที่น้ำตาลเข้ม แบบพื้นไม้และเฟอร์นิเจอร์ จะยังคงเป็นสีที่มีอิทธิพลในการออกแบบที่เน้นความใกล้ชิดกับธรรมชาติต่อไป
ในการออกแบบสไตล์สปอร์ต สีฟ้าของท้องน้ำ และเขียวแกมฟ้า ไปจนถึงสีขียวเทอร์ควอยซ์ จะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ฟ้าแบบหรูหรามีระดับ มีแนวโน้มไปใช้โทนแดงเข้มแทน รถยนต์ราคาแพงและหรูหรา จะตกต่างภายในด้วยสีดำ ตัดกับแดงสด ส่วนสีแดงส้มเปลวเพลิง จะเป็นที่นิยมในการออกแบบรถสปอร์ต
สีดำและขาวเฉดต่างๆ ที่เพิ่มประกายวาวและสีเหลือบ หรือ traveling color เป็นการจับสีคู่ตรงข้ามให้มาอยู่ด้วยกัน เช่นในกรณีของคู่ตรงข้ามคลาสสิค อย่างดำ-ขาว นอกจากนี้ สีเงิน สีแห่งความเป็นไฮเทค ยังคงเป็นที่นิยมต่อไป ส่วนโทนสีเงินมาตรฐาน จะปรับปรุงพัฒนาใหม่ ให้เพิ่มคุณสมบัติความพลิ้วไหวและเฉดสีใหม่ ที่เพิ่มความเจิดจ้าสดใสให้กับสีเงินแบบเดิมๆ
บีเอเอสเอฟ ผู้นำระดับโลกแห่งวงการสีรถยนต์
บีเอเอสเอฟ โค้ตติ้งส์ เอจี เป็นบริษัทในเครือของกลุ่มผลิตภัณฑ์สีของกลุ่มบริษัทบีเอเอสเอฟ มียอดจำหน่ายทั่วโลกในปี พ.ศ. 2548 มีมูลค่าประมาณ 2.2 พันล้านยูโร บีเอเอสเอฟ โค้ตติ้งส์ เอจี พัฒนา ผลิต และจัดจำหน่ายสีรถยนต์ OEM คุณภาพสูง รวมทั้งสีเคลือบรถยนต์ และสีอุตสาหกรรม สีเพื่อการตกแต่ง และสินค้าที่เกี่ยวข้อง
บีเอเอสเอฟ มีนโยบายการผลิตสีที่มีความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีสูตรน้ำ ซึ่งมีทั้งแบบผง และสูตรเข้มข้น รวมทั้งการใช้ระบบแสงในการอบสีให้แห้ง อีกด้วย ในประเทศบราซิล บีเอเอสเอฟ ประสบความสำเร็จในฐานะผู้นำตลาดประเภทสีเพื่อการตกแต่ง บีเอเอสเอฟ เป็นบริษัทชั้นแนวหน้าของโลกในวงการอุตสาหกรรมสี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และเอเชีย/แปซิฟิก เช่น ในออสเตรเลีย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ เว็ปไซต์ของบริษัท คือ www.basf-coatings.com

แท็ก petrol  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ