กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
TMB ธนาคารไทยชั้นนำที่ให้บริการทางการเงินระดับโลก ประกาศความสำเร็จยอดจองหุ้นกู้ด้อยสิทธิ TMB IT-ONE เต็ม 4,000 ล้านบาท ตามเป้าหมาย โดยมียอดจองแน่นนับตั้งแต่วันแรกที่เสนอขาย ตอกย้ำความน่าสนใจของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน ที่นับเป็นเงินกองทุนของธนาคาร ซึ่งมีอัตราผลตอบแทน 7%
จากผลการทดสอบความต้องการของนักลงทุนก่อนการเปิดจองซื้อที่มีมาก ธนาคารจึงได้เพิ่มจำนวนหุ้นกู้ที่จะเสนอขายในเบื้องต้นจาก 2,000 ล้านบาท เป็น 4,000 ล้านบาท โดยความสำเร็จของ TMB IT-ONE มาจากการออกแบบผลิตภัณฑ์ทางการเงินคุณภาพที่เหมาะสม สามารถตอบโจทย์ความต้องการในการเป็นทางเลือกสำหรับการออมในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และให้อัตราผลตอบแทนสูง ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ของการออกจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการจัดหาเงินทุนระยะยาวไว้รองรับการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้า ขานรับแผนขยายธุรกิจของธนาคาร นอกจากนี้ ยังเป็นการเสริมสร้างฐานเงินทุนของธนาคารให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
“เรารู้สึกยินดีที่นักลงทุนขานรับหุ้นกู้นี้ด้วยความมั่นใจใน TMB โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในปัจจุบัน” นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TMB กล่าว พร้อมเสริมว่า นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในกลยุทธ์ของ TMB ที่มุ่งสร้างความเติบโตโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ตลอดจนการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่เปี่ยมคุณภาพและมีความหลากหลาย ภายใต้มาตรฐานการให้บริการที่สะดวกและรวดเร็ว”
ปัจจุบัน TMB ได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนองค์กรตามแผนงานที่วางไว้ โดยยึดลูกค้าเป็นสำคัญ ซึ่งในระยะที่ 1 ประกอบด้วย การปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ การยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานทุกด้านของสาขาต่างๆ เพื่อสร้างความเป็นเลิศทางด้านบริการ การพัฒนากระบวนการทำงาน การบริหารทรัพยากรบุคคล และการบริหารความเสี่ยง ผนวกกับกลยุทธ์มุ่งขยายการเติบโตทางด้านเงินฝากและการสร้างความเป็นเลิศทางด้านบริการ เพื่อขับเคลื่อนให้ TMB ก้าวขึ้นเป็นธนาคารไทยชั้นนำที่ให้บริการทางการเงินระดับเลิศของโลกได้ตรงตามวิสัยทัศน์
สำหรับไตรมาส 1/2552 TMB มีผลประกอบการที่ดีขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญ โดยสามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 436 ล้านบาท จากที่ประสบผลขาดทุน 4,000 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2551 และเพื่อเสริมสร้างงบดุลให้แข็งแกร่ง ธนาคารจึงได้มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการตั้งสำรองตามมาตรฐานการรายงานสากล (International Financial Reporting Standards: IFRS) เพื่อรับรู้ผลกระทบที่เกิดจากการขายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) และ สินทรัพย์รอการขาย (NPA) จำนวน 2,900 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2552 โดยคาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้
นอกจากนี้ ธนาคารได้รับรู้มูลค่าการลงทุนจากเงินลงทุนในหุ้นที่ลดลงจำนวน 900 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการลงทุนด้วยความระมัดระวัง รวมถึงได้มีการตั้งสำรองระดับสภาพคล่องทางการเงินในไตรมาสนี้ไว้ค่อนข้างสูง โดยการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้จำนวนมาก ไปลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงและมีความเสี่ยงต่ำ ควบคู่กับการปรับปรุงสัดส่วนเงินฝาก ซึ่งจะเห็นได้จากสัดส่วนเงินฝากในบัญชีกระแสรายวันและออมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น 47% ส่งผลให้ธนาคารสามารถบริหารต้นทุนทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และจะเป็นการเพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียมในอนาคตได้อีกด้วย
ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2500 ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ และประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ตามที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลัง โดยความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้แก่ ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ วาณิชธนกิจและธุรกิจอื่นๆ เช่น การเป็นตัวแทนจำหน่ายประกัน
ธนาคารมุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าประเภทต่างๆ ผ่านเครือข่ายสาขารวมทั้งสิ้น 474 สาขา สำนักงานแลกเปลี่ยนเงิน 106 แห่ง เครื่องเอทีเอ็มจำนวน 2,014 เครื่อง รวมทั้งให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่างๆ
ธนาคารทหารไทย เป็นธนาคารที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีสินทรัพย์รวม 601,379ล้านบาท (ณ วันที่ 31 มี.ค. 52) นับเป็นธนาคารที่มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิเป็นอันดับหกในระบบธนาคารพาณิชย์ของไทย
สำนักสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร
โทร. 02 299 1953 / 02 242 3253 / 02 242 3260
Barakorn Petchnoi
Media Manager
Aziam Burson-Marsteller (ABM)
Bangkok, Thailand
Tel: +66 (0) 2252 9871 ext. 123
Fax: +66 (0) 2254 8353