กรุงเทพฯ--30 เม.ย.--อินโดรามา โพลีเมอร์ส
อินโดรามา ผู้ผลิตโพลีเมอร์สอันดับ 2 ของโลก คาดรายได้และยอดขายทั้งปีจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง สวนกระแสเศรษฐกิจโดยเฉพาะในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายในการผลิตลดลง และความต้องการในผลิตภัณฑ์สูงขึ้น
นายอาลก โลเฮีย กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทอินโดรามา โพลีเมอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IRP เปิดเผยว่า กำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นจากโรงงานใหม่ “AlphaPET” ในประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งจะเริ่มเปิดดำเนินการในเดือนมิถุนายนและ บริษัท ทุนเท็กซ์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของอินโดรามา จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพให้ IRP ก้าวสู่ความเป็นผู้นำทางด้านการผลิต ผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์สในระดับโลก
“ตลอด 3ปีที่ผ่านมา เรามีรายได้และยอดขายที่เติบโตกว่า 50% ทุกปี และไม่มีเหตุผลเลยที่เราจะทำเช่นนั้นไม่ได้ในปีนี้ และปีต่อ ๆ ไปในอนาคต” นายอาลกกล่าวอย่างมั่นใจ
IRP คาดหมายว่า โรงงาน “AlphaPET” ซึ่งมีมูลค่ากว่า 175 ล้านเหรียญสหรัฐจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันยอดขายให้กับบริษัท ด้วยค่าใช้จ่ายในการผลิตที่ต่ำในทวีปอเมริกาเหนือ นอกจากนี้แล้วผู้ผลิตหลักบางรายยังได้หยุดทำการผลิตอันเนื่องมาจากค่าใช้จ่ายที่สูงท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน
นายอาลก กล่าวว่า ปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น 432,000 ตันต่อปี จากโรงงาน “AlphaPET” ซึ่งจะเริ่มทำการผลิตเฟสแรก 216,000 ตัน ในปลายเดือนมิถุนายน และ อีก 216,000 ตันในช่วงเดือนสิงหาคม ส่งผลให้ IRP จะมีกำลังการผลิตรวมสูงถึง 1.39 ล้านตันต่อปี
“หากผลประกอบการในไตรมาสแรกที่ผ่านมา สามารถเป็นตัวชี้วัดผลประกอบการทั้งปีได้ นี่จะเป็นปี่ที่โดดเด่นมากสำหรับเรา โดยในไตรมาสแรกเราได้ลดราคาผลิตภัณฑ์ลงเนื่องจากราคาวัตถุดิบ และปัจจัยการผลิตอื่น ๆ ลดลง และด้วยสาเหตุที่ปริมาณความต้องการเพิ่มสูงมากทำให้เราต้องใช้กำลังการผลิตเต็ม 100% ในไตรมาสแรก โดยส่วนของมาร์จิ้นก็ยังนับว่าเป็นที่น่าพอใจ” นายอาลกกล่าว
นาย ดิลิป กุมาร์ อากาวาล กรรมการบริษัทฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปริมาณความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์โพลีเมอร์สในปีนี้คาดว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในอัตราไม่ต่ำกว่าปีก่อน โดย IRP สามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกาได้กว่า 20% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าเศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงขาลง โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการที่ IRP เป็นบริษัท ฯ ที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงในตลาดอเมริกาเหนือโดยเฉพาะในด้านราคา
“เร็ว ๆ นี้ ทุกอย่างจะชัดเจนเมื่อเราประกาศผลประกอบการในไตรมาสแรกซึ่งมีการเติบโตขึ้นทั้งยอดขายและรายได้สูงขึ้นกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมรา” นายอากาวาลสรุป