กรุงเทพฯ--4 พ.ค.--นิตยสาร 2 Magazine
ความฝันของคนทำหนังสือไม่ใช่เพียงแค่มียอดขายจำนวนมากๆ เพียงอย่างเดียว แต่สิ่งสำคัญคือการสร้างและพัฒนาให้หนังสือมีเอกลักษณ์ กับเสน่ห์เพื่อให้ผู้อ่านได้ทั้งสาระ และความรู้ใหม่อยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกับ “2 Magazine” นิตยสารที่มีเนื้อหาและการนำเสนอฉีกไปจากนิตยสารตลาดสำหรับผู้ชายทั่วไป ด้วยความเป็นหนังสือแนวใหม่ทำให้วันนี้ก้าวสู่ปีที่ 4 อย่างมั่นคงกับยอดขายกว่า 70,000 ฉบับใน 3 ประเทศ และด้วยฝีมือนักบริหารหนังสือไทยสไตล์อินเตอร์ “ควาน เตียว” หนุ่มไฟแรงสัญชาติสิงคโปร์จะมาเผยถึงที่มาที่ไปของ “2 Magazine”
จุดเริ่มต้น “2 Magazine”
“ควาน เตียว” จบการศึกษาด้านบริหารธุรกิจด้านการเงินและบัญชีจากมหาวิทยาลัยดีกิ้น ประเทศออสเตรเลีย โดยทำงานที่แรกในบริษัท ฮิวเลต แพคการ์ดประเทศสิงคโปร์บ้านเกิดในตำแหน่งนักวิเคราะห์การเงิน หลังจากทำงานได้ 3 ปีก็ผันตัวเองเข้าสู่วงการหนังสือโดยร่วมงานกับ “หนังสือไทเป ไทม์” ที่ประเทศไต้หวันด้านนักแปลและล่าม จนเมื่อปี 2544 เข้าร่วมงานในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดกับบริษัท โวค โมเดล เมเนจเม้นท์ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีหน้าที่ดูแลด้านการวางแผนขยายสาขาเอเจนซี่ในปักกิ่งและฮ่องกง ซึ่งเขาถือว่ามีความถนัดด้านแฟชั่นอย่างมาก
จนกระทั่งในเดือนพฤษภาคมปี 2545 ได้เข้ามาอยู่ประเทศไทย โดยทำงานที่แรกกับบริษัท โมโฟ ในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการจัดหาวัสดุเพื่อการออกแบบผลิตภัณฑ์...จนถึงปี 2548 เขาก็ผันตัวเองเข้าสู่แวดวงหนังสืออีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้เขาได้ก่อตั้งนิตยสาร ทู แม็กกาซีน ซึ่งเป็นนิตยสารแฟชั่นและไลฟ์สไตล์สำหรับผู้ชายยุคนี้ในภาคภาษาอังกฤษ โดยส่งจำหน่ายหลักใน 3 ประเทศได้แก่ ไทย สิงคโปร์ และฮ่องกง
สำหรับ “2 Magazine” 3 ฉบับแรกเราใช้การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยนำร่องให้อ่านฟรีก่อน ซึ่งในช่วง 3 เดือนแรกผลตอบรับดี และทำให้เราเห็นโอกาสที่จะสามารถสร้าง-พัฒนาหนังสือให้กับผู้อ่านได้ ถือเป็นจุดสร้างความมั่นใจประการหนึ่ง
“2 Magazine”
เป้าหมายหลักของ “ทู แม็กกาซีน” เนื้อหาในการนำเสนอเน้น เรื่องราวความเป็นประเทศไทย บุคคลที่มีแง่มุมความคิดที่แตกต่างและมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ไม่ใช่แค่คนในกระแส เพื่อให้แก่ชาวต่างประเทศที่เข้ามาทำงาน และมาท่องเที่ยวในไทยได้สัมผัส เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ เช่น สถานที่สำคัญ การท่องเที่ยว อีกทั้งเนื้อหายังประกอบด้วยเรื่องราวของแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ในการดำเนินชีวิตของสุภาพบุรุษยุคนี้ และยังมีคอลัมน์เกี่ยวกับเทรนสินค้าไฮเทคใหม่ๆ และสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันด้วย อาทิ นาฬิกา รถยนต์ โดยรวมนิตยสารจะแตกต่างจากหนังสือสำหรับผู้ชายทั่วไปที่เราเห็นส่วนมากจะเป็นแนวเซ็กซี่
“จุดเด่นของ “ทู แม็กกาซีน” ไม่ใช่แค่เป็นภาคภาษาอังกฤษ แต่มีความโดดเด่นทั้งในแง่เนื้อหาและรูปแบบของนิตยสารที่นำเสนอเนื้อหาตรงและตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตของสุภาพบุรุษยุคปัจจุบันตั้งแต่อายุ 25-48 ปี โดยเนื้อหายังมีเรื่องราวในแวดวงฮอลลีวู๊ดที่เป็นบุคคลชั้นนำ อาทิ นางแบบ นายแบบ นักร้อง ที่นิตยสารนำมาเป็นนายแบบ-นางแบบขึ้นปก แต่จะว่านายแบบเมืองไทยมีไหมที่ผ่านมา เช่น ชาคริต แย้มนาม และเล่มล่าสุดได้คว้า Gentlemen ระดับมือโปร เช่น บ๊วย พิธีกรชื่อดัง, บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ นักแสดงมากฝีมือ ,เรย์ แมคโดนัล พิธีกรและนักแสดง ,วีระพงษ์ ทวีศักดิ์ นักดนตรีแก้วระดับประเทศ เป็นต้น ซึ่งแต่ละท่านล้วนแต่มีมุมมองความคิดที่หลากหลาย ที่ผู้อ่านจะได้สาระในแง่มุมใหม่ผ่าน Gentlemen อย่างแน่นอน
ปั้นยอดขาย 70,000 เล่มพร้อมโกอินเตอร์
“2 แม็กกาซีน” ในปี 2552 ก้าวสู่ปีที่ 4 ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาความที่นำเสนอเนื้อหา และรูปแบบที่แตกต่างจากนิตยสารอื่นๆ เชื่อว่าเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งที่ทำให้เราสามารถมียอดขายรวม 70,000 ฉบับ ซึ่ง 50,000 ฉบับจำหน่ายในประเทศไทย ที่เหลือก็จะเป็นประเทศสิงคโปร์ กับฮ่องกง และในขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับสำนักพิมพ์ในประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งในแบบการซื้อลิขสิทธิ์ไปพิมพ์จำหน่ายในนาม “2 Magazine” หรืออาจจะเป็นแบบการตัวแทนจำหน่ายเช่นเดียวกับสิงคโปร์
ส่วนขณะนี้ที่เริ่มเข้าไปจำหน่าย “2 แม็กกาซีน” เพิ่มเติมอย่างเช่น ประเทศฟิลิปปินส์ มาเลเซียและเวียดนาม ซึ่งประเทศหลังอยากให้เราตีพิมพ์เป็นภาษาเวียดนามด้วย โดยหลักๆ การทำตลาดประเทศในเอเชียจะเป็นลักษณะเดียวกันคือเป็นตัวแทนจำหน่าย
ส่วนรายได้หลักของนิตยสารจะมาจากโฆษณาประมาณ 80% โดยผู้บริหาร “ควาน เตียว” ถือเป็นหัวหอกหลักในการขายโฆษณา จะพูดว่าทุกอย่างเขาสามารถได้หมดตั้งแต่ระดับการบริหาร จนถึงการถ่ายภาพโดยเล่มล่าสุดเขาก็เป็นช่างภาพด้วย
ขณะนี้ยังมีการปรับเนื้อหาบางส่วน โดยการเพิ่มหน้าเนื้อหาเกี่ยวกับผู้หญิงประมาณ 2 หน้าตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งนิตยสารมีผู้อ่านที่เป็นผู้หยิงจำนวนหนึ่งประมาณ 10% และคาดหวังว่าในปีต่อๆ ไปจะเพิ่มขึ้นราว 5% ทุกๆ ปี ในส่วนของเนื้อหาเกี่ยวกับผู้หญิงในปีนี้คาดว่าจะปรับเพิ่มราว 1-2% เพราะถึงอย่างไรนิตยสารยังคงกลุ่มเป้าหมายหลักคือ ผู้ชายอายุระหว่าง25-48 ปีเป็นหลัก แต่ด้วยปัจจัยและเนื้อหาอย่างการแนะนำผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของเล่นไฮเทค หรือกลุ่มแฟชั่นผู้หญิงก็มีความสนใจในแนวเดียวกันมากขึ้น
พร้อมกันนี้ยังเตรียมทำเว็บไซต์ “2 แม็กกาซีน” เพื่อเป็นช่องทางการสื่อสารกับสมาชิกและผู้อ่านได้อัพเดทเรื่องราว ข่าวสารที่บางครั้งในหนังสือถ่ายทอดไม่พอด้วยข้อจำกัดของหน้าหนังสือ ซึ่งผู้อ่านก็สามารถเข้ามาชมอย่างเช่น เบื้องหลังบทสัมภาษณ์ เป็นต้น