กรุงเทพฯ--4 พ.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน
ผลิตภัณฑ์อิเล็คทรอนิกกว่า 1.7 พันล้านปอนด์ถูกนำกลับมาใช้ใหม่ พร้อมตรวจสอบบริษัทที่รับดำเนินการการนำผลิตภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่และรีไซเคิลทั่วโลกเป็นผลสำเร็จ
เอชพีเปิดเผยรายงานประจำปี “Global Citizenship Report” ซึ่งประกอบไปด้วยนโยบาย โครงการ ผลการดำเนินงาน และเป้าหมายในปีงบประมาณพ.ศ. 2551
แนวทางการดำเนินงานที่ทางเอชพีให้ความสำคัญในรายงานฉบับนี้ครอบคลุมความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม จริยธรรมองค์กรและการปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับและกฎหมาย สิทธิมนุษยชนและการปฎิบัติต่อพนักงานอย่างเป็นธรรม สิทธิส่วนบุคคล และการลงทุนเพื่อสังคม ในปี พ.ศ. 2551 เอชพีได้ขยายฐานความเป็นผู้นำในการเป็นพลเมืองที่ดีของโลก ด้วยการเป็นองค์กรแรกของวงการไอทีที่มีความโปร่งใสในการจัดการระบบซัพพลายเชน (supply chain) และการดูแลสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน
รายงานผลความสำเร็จที่โดดเด่นของเอชพีตามแนวคิด Global Citizenship ในปี พ.ศ. 2551 มีดังต่อไปนี้:
เอชพีเป็นบริษัทไอทีรายแรกที่เปิดตัวนโยบายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยการควบคุมกลุ่มผู้ผลิตหลักของเอชพีให้ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันเกิดจากการผลิตสินค้า นโยบายนี้เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของเอชพีที่จะส่งเสริมให้บริษัทมีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น และสนับสนุนองค์กรอื่นๆ ให้มีความรับผิดชอบด้านระบบซัพพลายเชนมากขึ้นด้วย
เอชพีได้ผ่านมาตรฐาน SmartWay ของ U.S. Environmental Protection Agency (EPA) ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงการลดใช้พลังงานเชื้อเพลิง การปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสารพิษต่างๆ จากยานพาหนะ นอกจากนี้ เอชพียังเป็นบริษัทแรกในจำนวนประมาณ 950 บริษัทของโครงการ SmartWay Transport Partners ของ EPA ที่ได้รับอนุญาตให้ติดตราสัญลักษณ์ SmartWay ลงบนบรรจุภัณฑ์ โดยเพื่อสิทธิ์ในการได้รับตราสัญลักษณ์ดังกล่าว เอชพีต้องมีการรับรองว่าเครือข่ายการขนส่งทำการจัดส่งอุปกรณ์คอนซูมเมอร์ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และจอภาพ ภายใต้ข้อกำหนดของ SmartWay
เอชพีได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ HP Deskjet D2545 Printer ซึ่งเป็นเครื่องพิมพ์ตัวแรกของเอชพีที่ผลิตมาจากพลาสติกรีไซเคิลเกือบทั้งหมดโดยใช้ถึงร้อยละ 83 และเครื่องพิมพ์ HP Deskjet D2545 Printer ยังใช้ตลับหมึกรุ่น HP 60 ที่ถูกผลิตขึ้นมาจากยางเรซิ่นที่ถูกรีไซเคิลมา นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์โดยรวมของเครื่องพิมพ์รุ่นนี้ยังสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ใหม่ทั้งหมด เครื่องพิมพ์รุ่นนี้ได้รับการรับรองจาก ENERGY STAR และมีคุณสมบัติเด่นคือ HP Smart Web Printing ที่สามารถย่อเว็บเพจต่างๆ มารวมไว้ในหน้าเดียวกัน ซึ่งเป็นการประหยัดกระดาษในการพิมพ์
เอชพีได้ชนะการประกวดการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมที่จัดขึ้นโดย Walmart โดยการส่งผลงานการใช้ถุงที่ผลิตขึ้นด้วยวัสดุที่นำกลับมารีไซเคิลได้ใหม่ทั้งหมด เพื่อทดแทนการใช้กล่องกระดาษและพลาสติกแบบเดิมในการบรรจุเครื่องคอมพิวเตอร์ ผลงานที่ถูกออกแบบมานี้ช่วยลดการใช้บรรจุภัณฑ์แบบเดิมกว่าร้อยละ 97 ทั้งยังช่วยประหยัดเชื้อเพลิงและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ โดยสามารถเปรียบเทียบได้กับการลดการใช้รถบรรทุกไปถึง 1 ใน 4 ของการขนส่งโน้ตบุ๊คไปยังร้าน Walmart และ Sam’s Club ทั่วประเทศ
เอชพีสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันเกิดจากการใช้พลังงานลงได้ถึงร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2550 จากค่าที่แท้จริง (in absolute terms) และลดลงไปถึงร้อยละ 13 จากผลประกอบการ (normalized to revenue)(1)
มร. แกรี่ แอลเลียต รองประธานฝ่าย Global Citizenship ของเอชพีกล่าวว่า “ความมุ่งมั่นของ เอชพีตามแนวคิด Global Citizenship หรือการเป็นพลเมืองของโลกอยู่บนหลักการที่ต้องการรักษาเป้าหมายทางธุรกิจและคุณค่าขององค์กรให้สอดคล้องและผลักดันให้เกิดนวัตกรรมและการเติบโต ความเป็นผู้นำของเอชพีในด้านความโปร่งใสในการจัดการระบบซัพพลายเชน และการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน แสดงถึงความพยายามของเอชพีที่จะยกระดับมาตรฐานด้านความมีคุณธรรม ความทุ่มเท และความรับผิดชอบของบริษัท”
เป้าหมายและโครงการการนำผลิตภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่ (reuse) และ รีไซเคิล (recycle) ของเอชพี
เอชพีประกาศว่าเมื่อปี พ.ศ. 2551 ที่ผ่านมาทางบริษัทได้มีการนำฮาร์ดแวร์กลับมาใช้ใหม่ถึง 3.5 ล้านชิ้น ซึ่งมีน้ำหนักรวมถึง 75 ล้านปอนด์ (34,000 เมตริกตัน)(2) และเพิ่มปริมาณการรีไซเคิลได้ถึง 265 ล้านปอนด์ (120,000 เมตริกตัน) ทั่วโลก
ผลิตภัณฑ์อิเล็คทรอนิกและอุปกรณ์เสริมหรือ supplies ที่ได้นำกลับมาใช้ในปัจจุบันมีมากถึง 1.71 พันล้านปอนด์ (775,510 เมตริกตัน) หรือเกือบเท่าน้ำหนักรวมของสะพานโกลเด้นเกต(3) เอชพีกำลังจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะรีไซเคิลผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 2 พันล้านปอนด์ (900,000 เมตริกตัน) ก่อนสิ้นปี พ.ศ. 2553 (โครงการเริ่มในปี พ.ศ. 2530) และมีแผนที่จะนำผลิตภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่ 450 ล้านปอนด์ (200,000 เมตริกตัน) ก่อนสิ้นปี พ.ศ. 2553 (เริ่มโครงการในปี พ.ศ. 2546) โดยปัจจุบันเอชพีได้ดำเนินการรีไซเคิลไปแล้วกว่า 1,435 ล้านปอนด์ (650,000 เมตริกตัน) และได้นำผลิตภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่แล้วกว่า 275 ล้านปอนด์ (125,000 เมตริกตัน)(4)
เอชพีมีบริการนำผลิตภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่และรีไซเคิลใน 53 ประเทศทั่วโลก ในปี พ.ศ. 2551 เอชพีได้ขยายการดำเนินการติดตาม ตรวจสอบ และทบทวนการปฏิบัติการของบริษัทที่รับดำเนินการนำผลิตภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่และรีไซเคิลอย่างสม่ำเสมอ พร้อมประกาศผลสรุปการประเมินการดำเนินงานของ 13 บริษัทที่มีการนำผลิตภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่ และ 30 บริษัทที่ทำการรีไซเคิลผลิตภัณฑ์ ใน 22 ประเทศ ในรายงานการตรวจสอบตามพื้นที่ประจำปี พ.ศ. 2551 (2008 on-site audits) นอกจากนี้เอชพียังวางแผนที่จะตรวจสอบตัวแทนอีก 55 บริษัทที่มีการนำผลิตภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่และรีไซเคิลในปี พ.ศ. 2553 เพื่อที่จะส่งเสริมความโปร่งใสให้เกิดขึ้นต่อไป
ผลงานที่โดดเด่นในโครงการการนำผลิตภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่และรีไซเคิลของเอชพี ได้แก่:
ในเดือนมกราคม เอชพีเปิดตัวโครงการ U.S. buyback สำหรับลูกค้ากลุ่มคอนซูเมอร์ ด้วยโครงการ HP Consumer Buyback and Planet Partners Recycling Program ลูกค้าจะสามารถนำเครื่องคอมพิวเตอร์ จอภาพ เครื่องพิมพ์ กล้องดิจิตอล พีดีเอ และสมาร์ทโฟนของผู้ค้ารายใดก็ได้ที่ไม่ได้ใช้แล้วมาแลกเป็นเงินได้ หากสินค้าที่นำมาแลกไม่มีมูลค่า ลูกค้าจะสามารถรีไซเคิลสินค้าของเอชพีและคอมแพคได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2551 เอชพีขยายตัวแทนของโครงการ HP Planet Partners print cartridge return and recycling เพื่อเป็นการเพิ่มจำนวนตัวแทนไปยังพื้นที่ต่างๆ อันจะเป็นการเพิ่มทางเลือกในการส่งตลับหมึกพิมพ์ทั้งแบบอิงค์เจ็ทและเลเซอร์เจ็ทของเอชพีเพื่อทำการ รีไซเคิล
เอชพีประกาศผลนวัตกรรมใหม่เกี่ยวกับการใช้วัสดุรีไซเคิลซึ่งนับเป็นครั้งแรกของวงการไอที (industry-first engineering breakthrough) โดยใช้ตลับหมึกที่ได้มาจากโครงการ HP Planet Partners return and recycling program รวมถึงวัสดุอื่นๆ เช่น ขวดน้ำพลาสติก เพื่อนำมาผลิตตลับหมึกอิงค์เจ็ทใหม่ นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เป็นต้นมาเอชพีได้นำยางเรซิน(5) ที่ถูกรีไซเคิลมากกว่า 32 ล้านปอนด์ (14,500 เมตตริกตัน) มาใช้ในการผลิตตลับหมึกอิงค์เจ็ทกว่า 565 ล้านตลับ นอกจากนี้เอชพียังได้ประกาศว่าจะใช้วัสดุรีไซเคิลในการผลิตผลิตภัณฑ์อิงค์เจ็ทมากขึ้นเป็น 3 เท่าภายในปี พ.ศ. 2553
ในประเทศสหรัฐอเมริกา เอชพีเป็นหนึ่งในบริษัทแรกที่ได้รางวัล Green Recycling and Asset Disposal for the Enterprise (GRADE) ในปี พ.ศ. 2551 จากบริษัท IDC ซึ่งเป็นองค์กรจัดทำการสำรวจ
รายละเอียดทั้งหมดของรายงาน Global Citizenship Report ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 สามารถเข้าชมได้ที่ www.hp.com/go/report รูปแบบรายงานสำหรับลูกค้ากลุ่มองค์กรธุรกิจระดับใหญ่และกลุ่มภาครัฐ สามารถเข้าชมได้ที่ www.hp.com/go/customer
เอชพีและสิ่งแวดล้อม
เอชพีเป็นผู้นำทางด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ ผ่านโครงการ HP Eco Solutions Program ซึ่งครอบคลุมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ การนำผลิตภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่และการรีไซเคิล รวมถึงการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างพอเพียงเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เอชพีเป็นผู้นำและเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติให้กับอุตสาหกรรมไอทีโดยการกำหนดมาตรฐานด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมไว้อย่างสูงในด้านการปฏิบัติงานและซัพพลายเชนของบริษัท ด้วยการนำเสนอโซลูชั่นที่สามารถปฏิบัติได้จริง เพื่อทำให้ลูกค้าสามารถลดการกระทำที่มีผลต่อสิ่งแวดล้อมลงได้ง่ายยิ่งขึ้น และผ่านการสำรวจด้านโซลูชั่นที่มีความยั่งยืนถาวรซึ่งสนับสนุนด้าน low-carbon economy ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้จาก www.hp.com/ecosolutions
ข้อมูลเกี่ยวกับเอชพี
เอชพี เป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดของโลกที่นำเสนอประสบการณ์การใช้งานเทคโนโลยีที่สะดวกและง่ายดายสำหรับลูกค้าคอนซูเมอร์จนถึงองค์กรธุรกิจระดับต่างๆ ด้วยพอร์ทโฟลิโอที่ครอบคลุมด้านการพิมพ์ คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ การบริการ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานทางด้าน ไอที สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอชพี (NYSE: HPQ) สามารถเข้าชมได้ที่ http://www.hp.com/
Note to editors: More news from HP, including links to RSS feeds, is available at http://www.hp.com/hpinfo/newsroom/.