กรุงเทพฯ--8 ก.พ.--ธสน.
นายสถาพร ชินะจิตร กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 4 ของปี 2548 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 201 ล้านบาท เทียบกับกำไรสุทธิ 150 ล้านบาทในไตรมาส 4 ปี 2547 โดยมีสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญและขาดทุนจากการปรับโครงสร้างหนี้ 248 ล้านบาท ต่ำกว่า 339 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกับปีก่อนหน้านี้ ทำให้ผลการดำเนินงานปี 2548 (ก่อนตรวจสอบ) ธสน. มีกำไรสุทธิจำนวน 457 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 477 ล้านบาท ในปี 2547 โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยตามการขยายกิจกรรมสนับสนุนการส่งออกและการเปิดสาขาเพิ่ม 2 แห่ง และการสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 1,075 ล้านบาทที่ยังสูงกว่าในปีก่อนหน้าเล็กน้อย สำหรับยอดเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับ ณ สิ้นปี 2548 มีจำนวน 60,327 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.0 จาก ณ สิ้นปี 2547 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการขยายตัวในช่วงครึ่งปีหลังโดยเฉพาะไตรมาส 4 ที่ยอดเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับเติบโตขึ้นร้อยละ 4.7 ในขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ณ สิ้นปี 2548 เท่ากับ 6,420 ล้านบาทหรือร้อยละ 10.6 ของยอดเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับร้อยละ 9.9 ณ สิ้นปี 2547
ปี 2548 ถือเป็นปีแห่งการสร้างและพัฒนาบุคลากรด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ทั้งการสนับสนุนให้เกิดผู้ส่งออกรายใหม่และการพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพผู้ส่งออกขนาดกลางและขนาดย่อมและนักธุรกิจไทยให้มีความเข้มแข็งและใช้โอกาสและลู่ทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ โดย ธสน. ได้จัดอบรมและสัมมนาเพื่อให้ความรู้และความเข้าใจแก่ผู้ส่งออก นักธุรกิจไทย และผู้ที่สนใจเกี่ยวกับการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศรวมกว่า 5,800 คน นอกจากนั้น ธสน. ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำ 6 สถาบัน เพื่อสนับสนุนการสร้างบุคลากรของไทยให้เป็นมืออาชีพในการประกอบธุรกิจส่งออกและการลงทุนในต่างประเทศในระยะยาว
กรรมการผู้จัดการกล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลประกอบการและความพยายามอย่างต่อเนื่องของ ธสน. ในการพัฒนาและสร้างมาตรฐานการดำเนินงานที่ดีเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางทำให้ ธสน. ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในประเทศไทยที่ระดับ AA+(tha) และยังได้รับรางวัล Superbrands ของการเป็นสุดยอดแบรนด์สถาบันการเงินภาครัฐของไทยในปี 2548
นอกจากนี้ กรรมการผู้จัดการ ธสน. กล่าวถึงนโยบายการดำเนินงานของ ธสน. ในปี 2549 ว่า ธสน. ยังคงมุ่งมั่นในการส่งเสริมและสนับสนุนภาคการส่งออกและการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยภารกิจที่สำคัญประกอบด้วย การผลักดันให้เกิดตราสารหนี้แห่งเอเชีย (Asian Bond) การสนับสนุนโครงการทำฟาร์มสัญญา (Contract Farming) และการย้ายฐานการผลิตอุตสาหกรรมไปยังประเทศเพื่อนบ้าน การสร้างและสนับสนุนบริษัทการค้าระหว่างประเทศ (Trading Company) การส่งเสริมและสนับสนุนผู้ส่งออกขนาดกลางและขนาดย่อมให้เกิดและเติบโตเป็นผู้ส่งออกที่มีความแข็งแกร่งในอนาคต รวมถึงสนับสนุนการขยายการส่งออกไปยังตลาดใหม่และประเทศ FTA อีกทั้ง ธสน. จะเน้นบทบาทในการพัฒนาบริการที่แตกต่างจากสถาบันการเงินอื่น ซึ่งเป็นบริการที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยสามารถสร้างและขยายธุรกรรมการส่งออกไปยังต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ธสน. มีความมุ่งหวังที่จะทำงานร่วมกับผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยในการพัฒนาศักยภาพธุรกิจให้เป็นสากล มีประสิทธิภาพ สามารถสร้างความเข้มแข็งให้แก่สินค้าและบริการของไทยให้สามารถโดดเด่นและแข่งขันได้ในระยะยาว เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่มีคุณค่าในภูมิภาคนี้
เกี่ยวกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการคลัง จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2536 ซึ่งกำหนดขอบเขตอำนาจให้ธนาคารสามารถทำธุรกิจทุกประเภทที่ธนาคารพาณิชย์ทำได้ ยกเว้นเพียงการรับฝากเงินจากประชาชนทั่วไป โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้บริการทางการเงินเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทยและนักลงทุนไทยในต่างประเทศ และสนับสนุนการได้มาซึ่งเงินตราต่างประเทศของไทยหรือประหยัดเงินตราต่างประเทศ
ต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักบริหาร
โทร. 0 2271 3700, 0 2278 0047, 0 2617 2111 ต่อ 1140—6--จบ--