กรุงเทพฯ--6 พ.ค.--โซนี่มิวสิค
ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ถูกผลกระทบจนบางบริษัทฯ ถึงขั้นปิดตัวลง บริษัท โซนี มิวสิค เอ็นเตอร์เทนเมนต์ โอเปอร์เรติ้งประเทศไทย จำกัด ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ระดับอินเตอร์ ฯ กลับสวนกระแส รุกตลาดเพลงทั้งไทย และต่างประเทศ พร้อมกับแตกไลน์ธุรกิจด้าน Non Music ขยายงานสู่ตลาดเอ็นเตอร์เทนเมนต์อื่น ๆ เพื่อให้หลากหลาย ครอบคลุม และต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น
“ พีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซนี่มิวสิค ฯ ได้เปิดเผยว่า “จากผลประกอบการในปีที่ผ่านมา ตลาดเพลงของโซนี มิวสิค ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้แม้จะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจเช่นเดียวกับทุก ๆ บริษัทก็ตาม ในปีนี้เรามองตลาดในเชิงรุกมากยิ่งขึ้นทั้งด้านของตลาดเพลง ก็มีการสรรหาศิลปิน และบุคลากรด้านเพลงมาร่วมงานเพิ่มขึ้น อาทิ แดน วรเวช, วง 2 pm. ซึ่งเป็นศิลปินจากประเทศเกาหลี หรือ คุณชมพู สุทธิพงษ์ วัฒนจัง และคุณโป โปษยนุกูล ผู้บริหาร และProducer ผู้คร่ำหวอดในวงการ
นอกจากนี้ก็ยังมีงานด้านอื่นๆ ที่วางแผนไว้แล้วคือทางด้านของ Non Music วัตถุประสงค์คือเราต้องการขยายตลาดบันเทิง ที่มีความหลากหลาย สู่ประชาชนในทุกกลุ่มทุกวัย การขยายช่องทางทางธุรกิจ รวมถึงการเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเข้าไปในท้องตลาด จะช่วยให้ธุรกิจเราไม่นิ่ง และมั่นใจว่าในปีนี้ก็จะเป็นปีที่โซนี มิวสิคจะเติบโตขึ้นอีกแน่นอนครับ”
สำหรับในส่วนของ Non Music “ วโรภาส นิมิบุตร ” Sale Director บริษัท โซนี มิวสิคฯ ผู้รับผิดชอบดำเนินการ เปิดเผยว่า “ ในตลาดของเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ทั้งเพลง และสินค้าที่ไม่ใช่เพลง (Non Music) ก็คือตลาดเดียวกัน ถ้ามองถึงตัวผลิตภัณฑ์ ซึ่งก็คือ แผ่นซีดี วีซีดี หรือ ดีวีดี ก็ถูกจำหน่ายอยู่ในร้านเดียวกันอยู่แล้ว ถือเป็นเรื่องเดียวกันที่โซนี สามารถขยายงานไปทางด้านนี้เลยและคงจะมีการจับมือกับหลาย ๆ บริษัท ในการผลิตผลงานด้านนี้
สำหรับการร่วมงานกับคุณป๋อง กพล ทองพลับ และทีมงานบริษัท เดอะช็อค 13 หลังจากที่พูดคุยกันเรามีโครงการต่าง ๆ มากมาย เริ่มต้นในโครงการ เรียลลิตี้ โชว์ โดยใช้ชื่อ Project ว่า “666 Reality Shock” หรือชื่อไทยว่า “อาถรรพ์ 666” ซึ่งเป็นรูปแบบของผู้กล้าท้าสถานที่อาถรรพ์ โดยทางทีมงาน เดอะช็อค 13 เป็นผู้ดำเนินการผลิต เริ่มตั้งแต่การโฆษณาประชาสัมพันธ์ การรับสมัคร การคัดเลือกผู้เข้าแข่งขัน และสถานที่ รวมถึงกติกาการแข่งขันต่าง ๆ ส่วน โซนีมิวสิคฯ จะเป็นฝ่ายสนับสนุนด้านการตลาด และการจัดจำหน่าย
ซึ่งนอกจากโครงการ “อาถรรพ์ 666” แล้วก็ยังมีโครงการในอนาคตร่วมกันอีก อาทิ “เรื่องเล่าจาก เดอะช็อค เอฟ.เอ็ม.” และอาจจะมีโครงการภาพยนตร์ในอนาคตอันใกล้นี้อีกด้วยครับ ”