กรุงเทพฯ--6 พ.ค.--ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย
ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อยก้าวรุกธุรกิจครั้งใหญ่ ชูแนวคิด ฝากสะดวก ถอนง่าย ได้ดอกเบี้ยถูกใจ จับมือพันธมิตร “ไปรษณีย์ไทย” ขยายเครือข่ายส่งบริการ สู่ลูกค้าทั่วไทยอย่างทั่วถึง เติมเต็มและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าผ่านเครือข่ายไปรษณีย์ไทยที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วไทยกว่า 1,200 สาขา
เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2552 ณ ห้องประชุมชั้น 3 อาคารไทยประกันชีวิต ถนนรัชดาภิเษก บมจ.ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย บริษัทในกลุ่มไทยประกันชีวิต ได้จัดพิธีลงนามความร่วมมือกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ในความร่วมมือสนับสนุนธุรกิจขยายเครือข่ายส่งบริการถึงลูกค้าทั่วประเทศไทย โดยมี นายมงคล ลีลาธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามกับ นางสาวศรีประภา ยิ้มสมิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
นายมงคล ลีลาธรรม ได้กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย แม้เป็นธนาคารใหม่ที่เปิดดำเนินการเพียง 2 ปี แต่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าในวงกว้างภายในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ธนาคารที่มีความโดดเด่นแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ทางการเงินทั่วไปและเป็นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้ารายย่อยอย่างแท้จริง และเพื่อเป็นการเติมเต็มและอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อยจึงได้จับมือกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ในความร่วมมือเป็นพันธมิตรเพื่อขยายเครือข่ายส่งบริการถึงลูกค้าทั่วไทยอันเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด ฝากสะดวก ถอนง่าย ได้ดอกเบี้ยถูกใจ
เปรียบเสมือนธนาคารมีสาขาย่อยๆ เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากทั่วประเทศ เพราะลูกค้าสามารถจะใช้บริการผลิตภัณฑ์ของธนาคารผ่านเครือข่ายของไปรษณีย์ไทย โดยสามารถฝากเงินผ่านที่ทำการไปรษณีย์ไทยที่มีอยู่กว่า 1,200 แห่งทั่วประเทศโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ฝากได้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อรายการและไม่เกิน 100,000 บาทต่อวัน ต่อบัญชี และยังสามารถถอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มในเครือข่าย ATM Pool จำนวนกว่า 33,400 เครื่องทั่วประเทศ ฟรีถึง 5 ครั้งต่อเดือน นอกเหนือจากนั้นธนาคารยังอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า ในการชำระค่างวดสินเชื่อธนาคารผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสอีกกว่า 6,730 แห่งทั่วประเทศที่ธนาคารให้บริการตั้งแต่ปี 2551 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ของธนาคารที่มีความแตกต่างที่โดดเด่นประกอบด้วย 1. สินเชื่อบุคคลที่มีทองคำเป็นหลักประกันที่ธนาคารให้บริการเป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย โดยสินเชื่อบุคคลที่มีทองคำเป็นหลักประกันสำหรับลูกค้ารายย่อย มี 2 ประเภทคือ สินเชื่อทองแลกเงิน และ สินเชื่อทองทันใจ นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อเพื่อธุรกิจที่มีทองคำเป็นหลักประกัน และสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการร้านทองโดยทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสินเชื่อที่ใช้ทองคำเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อนำเงินสดไปใช้เสริมสภาพคล่อง 2.สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ลดต้นลดดอก เป็นอีกผลิตภัณฑ์ของธนาคารที่มีความแตกต่างจากสินเชื่อรถยนต์โดยทั่วไป เพราะธนาคารคิดดอกเบี้ยแบบ “ลดต้น-ลดดอก” สร้างโอกาสให้ลูกค้ารายย่อยมีทางเลือกในการผ่อนชำระ มีมาก ผ่อนมาก เงินต้นลดผ่อนหมดไว ประหยัดดอกเบี้ยให้ลูกค้าได้เป็นอย่างมาก 3.บริการเงินฝากออมทรัพย์เพิ่มค่าทันใจ เป็นอีกบริการทางการเงินที่มีความแตกต่าง เพราะฝากเงินปุ๊บ...รับดอกเบี้ยปั๊บ โดยมีวงเงินให้เลือกฝาก 3 วงเงินด้วยกันคือ ฝาก 100,000 บาท 300,000 บาท และ 500,000 บาท ดอกเบี้ย 1.6% รับดอกเบี้ยทันทีเมื่อเปิดบัญชี ล่าสุดนี้ ธนาคารยังได้เพิ่มบริการใหม่ๆ อาทิ บัญชีกระแสรายวันเพิ่มค่ามีดอกเบี้ย เงินฝากออมทรัพย์ปลอดภาษีดอกเบี้ยสูงสุดถึง 4% และเงินฝากประจำดอกเบี้ยก้าวหน้า 18 เดือนและ 24 เดือนที่ดอกเบี้ยปรับเพิ่มทุก 3 เดือนโดยเริ่มต้นที่ 1.25% และสูงสุดถึง 4%”
นายมงคล ยังกล่าวถึงความร่วมมือกับพันธมิตรในครั้งนี้ว่า “เพื่อให้ลูกค้าผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกเพิ่มขึ้นจากช่องทางการให้บริการที่หลากหลายมากขึ้น เสริมกับความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าตามสโลแกนของธนาคารที่ว่า สะดวก แตกต่าง เข้าถึงง่าย”
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน)
วรอนงค์ อัจฉรารุจิ
โทร. 0-2697-5454 ต่อ 1307
e-mail: woraanong.u@tcrbank.com