กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--บีโอไอ
บีโอไอชูงาน “ซับคอน ไทยแลนด์ 2009” สร้างโอกาสผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย คาดยอดขายกว่า 3 พันล้าน — ตั้ง “วัน สต๊อป เซอร์วิส” ช่วย SMEs ทำวิจัยและพัฒนา
บีโอไอพร้อมแล้วสำหรับการจัดงานใหญ่ “ซับคอน ไทยแลนด์ 2009” งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมชิ้นส่วนของประเทศ ชี้เป็นโอกาสทองให้ผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศหันมาสนใจงานจัดหาชิ้นส่วนมากขึ้น คาดเกิดมูลค่าซื้อขายชิ้นส่วนไทยไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท พร้อมทั้งเปิดบริการ “วัน สต๊อป เซอร์วิส” ด้านการวิจัยและพัฒนา สำหรับเอสเอ็มอีไทย
นายชิตวร วรศักดิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึง การจัดงาน “ซับคอน ไทยแลนด์ 2009” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 — 16 พฤษภาคม 2552 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมนานาชาติไบเทคบางนา ว่า บีโอไอพร้อมแล้วสำหรับการจัดงาน โดยจะมีผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศจำนวน 180 ราย มาจัดแสดงชิ้นส่วนในอุตสาหกรรมต่างๆ และมีบริษัทชั้นนำที่เป็นผู้ซื้อแจ้งลงทะเบียนเข้ามาล่วงหน้าแล้วกว่า 110 ราย จะเดินทางมาเจรจาจัดซื้อชิ้นส่วนภายในงาน ซึ่งในจำนวนนี้ มีถึง 80 รายเป็นบริษัทที่จัดซื้อจัดหาชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์ระหว่างประเทศ หรือ International Procurement Office (IPO) ซึ่งจัดหาชิ้นส่วนในประเทศไทยให้บริษัทของตนในไทยและในต่างประเทศทั่วโลก และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 20,000 ราย
ทั้งนี้ การจัดงาน “ซับคอน ไทยแลนด์ 2009” จะมีการจับคู่ทางธุรกิจภายในงานจำนวนกว่า 2,000 คู่ และคาดว่าจะเกิดมูลค่าการซื้อขายชิ้นส่วนไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท
“ แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย แต่ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ ต้องการแสวงหาชิ้นส่วนที่มีคุณภาพและราคาไม่แพง ซึ่งเป็นคุณสมบัติของชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศไทย ดังนั้น การจัดงานในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างโอกาสให้กับผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย แม้ว่าอาจจะยังไม่เกิดการซื้อขายกันในทันที แต่ก็จะทำให้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศไทย เป็นเป้าหมายของผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศ เมื่อเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว ” รองเลขาธิการ บีโอไอกล่าว
ด้านนายชนินทร์ ขาวจันทร์ ผู้อำนวยการ หน่วยพัฒนาการเชื่อมโยงอุตสาหกรรม หรือหน่วย BUILD (BOI Unit for Industrial Linkage Development) กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ มีกิจกรรมที่น่าสนใจเพิ่มเติมขึ้นมาจากการจัดงาน 2 ครั้งที่ผ่านมา คือ การริเริ่มจัด “วัน สต๊อป เซอร์วิส” สำหรับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนอุตสาหกรรม สำหรับผู้ผลิตขนาดกลางและขนาดย่อม ซึ่งหน่วย BUILD ของบีโอไอ ได้ร่วมมือกับสถาบันการศึกษา ในการให้ความช่วยเหลือแก่เอสเอ็มอีในการเริ่มต้นทำการวิจัย
“ เอสเอ็มอีไทยอาจมีปัญหาเรื่องเทคโนโลยีการผลิต หรือต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งต้องการความช่วยเหลือ เพื่อทำการวิจัยและพัฒนาการผลิต สามารถติดต่อและหารือได้ภายในงาน โดยวัน สต๊อป เซอร์วิส นี้ จะให้ความช่วยเหลือแบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำแนะนำในการวิจัยและพัฒนา การหาเงินทุน และการร่วมทำการวิจัยและพัฒนา ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยเอสเอ็มอีไทยในขั้นเริ่มต้นภายในงานได้ไม่ต่ำกว่า 10 ราย” นายชนินทร์กล่าว
นายชนินทร์กล่าวต่อไปว่า หน่วย BUILD ได้ร่วมมือกับ ผู้ประกอบการรถยนต์ สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ และ บริษัทผู้ซื้อด้านอุตสาหกรรมรายใหญ่ เช่น บริษัท บีเอ็มดับบลิว (ไทยแลนด์) และ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ จัดสัมมนา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันแก่ผู้ประกอบการไทย ที่เป็นการให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ ให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนจากไทยผลิตสินค้าได้ตามความต้องการของตลาด ก่อให้เกิดการเชื่อมโยงการผลิตร่วมกันในอนาคต เช่น การสัมมนาเรื่อง ส่งเสริมการลงทุนส่งเสริม SMEs “ลงทุนอย่างไรจึงจะได้รับการยกเว้นภาษีอากร”
การให้ความรู้แก่ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ภายใต้หัวข้อ “ฝ่าวิกฤติ สร้างโอกาส ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ด้วย ระบบ TPS (Toyota Production System) ประกอบด้วยการบรรยายพิเศษ หัวข้อ “ ผลกระทบของวิกฤติเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และ การสนับสนุนของภาครัฐบาลแก่ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย ” โดยสถาบันยานยนต์ และหัวข้อ “ ทางรอดของธุรกิจในการประยุกต์ใช้ระบบบริหารการผลิตแบบโตโยต้า ” โดยผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมจัดซื้อ บริษัท โตโยต้า เอเชียแปซิฟิก เอ็นเนอริ่ง แอนเมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย
การสัมมนาเพื่อกระตุ้นขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทยภายใต้ กลยุทธ์ เทคนิค วิธีการบริหารการจัดซื้อและห่วงโซ่การผลิต (Supply Chain) เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหาร การจัดซื้อให้กับองค์กร โดย บริษัท บีเอ็มดับบลิว (ไทยแลนด์) นอกจากนี้ยังมีการการนำเสนอนโยบายการจัดซื้อของบริษัทรายใหญ่ด้านอุตสาหกรรมรายใหญ่ในประเทศ เช่น BMW ฮิตาชิ และมิตซูบิชิ เป็นต้น