กรุงเทพฯ--7 พ.ค.--ปตท.
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ตลาดขายปลีกหน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้น จากดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้เริ่มกลับมาอีกครั้ง ส่งผลให้ราคาน้ำมันตลาดโลกทุกชนิดปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในวันที่ 7 พ.ค.52 น้ำมันดิบดูไบขึ้นมาอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 52 ที่ 54.17 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ก็ได้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกันโดยปรับตัวสูงขึ้นจากช่วงสัปดาห์ก่อนประมาณ 6-7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล กล่าวคือ น้ำมันสำเร็จรูปเบนซิน95 อยู่ที่ 63.79 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 61.39 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งจากต้นทุนน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้นนี้ ส่งผลให้ค่าการตลาดโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับต่ำมากประมาณ 90 สตางค์/ลิตร ปตท. จึงจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและกลุ่มดีเซลขึ้น 60 สตางค์/ลิตร ยกเว้นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 โดยการปรับราคาครั้งนี้ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในกรุงเทพฯและปริมณฑลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (8 พ.ค.52) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป เป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ ลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 (พีทีที E 85 พลัส) 18.02
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 (พีทีที E 20 พลัส) 24.04
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95) 26.34
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91) 25.54
น้ำมันเบนซิน 91 (พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91) 30.14
น้ำมันไบโอดีเซล (พีทีที B5 พลัส) 20.39
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (พีทีที เดลต้า เอ็กซ์) 23.39
นายวิทยา กล่าวต่อไปว่า ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นต่อเนื่องจากข่าวการฟื้นตัวที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจ โดย ABC News รายงานผลสำารวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับสูงขึ้นเกินคาด โดยดัชนี Consumer Comfort Index สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 3 พ.ค. 52 เพิ่มสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน ประกอบกับ นาย Ben Bernanke ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ระบุว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯมีสัญญาณเริ่มฟื้นตัว และภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ จะกระเตื้องขึ้นภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ นาย Khalid al-Falih CEO ของบริษัท Saudi Aramco ให้สัมภาษณ์ว่าบริษัทมีแผนคงปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่ระดับ 7.95 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นปริมาณการผลิตเดือน เม.ย. 52 และต่ำกว่า OPEC Target ที่ได้รับ 8.05 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น
โทรศัพท์ 0 2537 2538 ฝ่ายสื่อสารองค์กร ปตท.
โทรสาร 0 2537 2538