กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--เฟรเกรนท์ พร็อพเพอร์ตี้
เฟรเกรนท์ พร็อพเพอร์ตี้ ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมโครงการ Circle เดินหน้าจัดอีเวนท์ต่อเนื่องเพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค มั่นใจกำลังซื้อในตลาดยังไม่หด เชื่อหากแอร์พอร์ตลิงค์เปิด จะช่วยเสริมศักยภาพโครงการคอนโดมิเนียมตลอดแนวเส้นทางการเดินรถได้เป็นอย่างดี
นายเจมส์ ดูอัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บ. เฟรเกรนท์ พร็อพเพอร์ตี้ จก. เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมายอดขายในตลาดคอนโดมิเนียมอาจจะดูช้าลงบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาเนื่องจากผู้บริโภคขาดความมั่นใจในสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมือง แต่ไม่ได้หมายความว่ากำลังซื้อในตลาดไม่มี ดังนั้น บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการสื่อสารตรงต่อผู้บริโภค เพื่อช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ นอกเหนือไปจากมาตรการของรัฐบาลที่จะช่วยกระตุ้นตลาดได้อีกทางหนึ่ง
“เราจะมีการออกบู๊ธและจัดอีเวนท์ตลาดทั้งปี ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราได้พบปะกับผู้บริโภคโดยตรง เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้อย่างเห็นผลมากที่สุด เห็นได้จากการร่วมออกบู๊ธในงานพร็อพเพอร์ตี้หลายงานมาตั้งแต่ต้นปี ซึ่งเราก็ได้รับผลตอบรับที่ดีมาโดยตลอด ทำให้ยอดขายโครงการ Circle เป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้” นายเจมส์กล่าว
เฟรเกรนท์ พร็อพเพอร์ตี้ จะร่วมออกบู๊ธในงาน Siam Paragon Luxury Property Showcase, ศูนย์การค้า สยามพารากอน ระหว่างวันที่ 14-22 พ.ค. โดยจะมีการนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษ รวมทั้งสิ้น 16 รายการให้กับผู้ที่จองห้องพักภายในงานได้เลือกตามความต้องการ รวมทั้ง Buy Back Option สำหรับห้อง Studio ซึ่งทางลูกค้ามีสิทธิขายคืนห้องให้กับทางโครงการก่อนถึงวันโอน พร้อมผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 10%
นายเจมส์ กล่าวว่า โครงการ Circle น่าจะปิดการขายได้ภายในสิ้นปีนี้ โดยเฉพาะเมื่อโครงการแอร์พอร์ตลิงค์ริ่มเปิดดำเนินการบางส่วนในเดือนสิงหาคมนี้ รวมทั้งโครงการ The Prime 11 ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 1,400 ล้านบาทก็สามารถสร้างยอดขายได้กว่า 90% โดยการก่อสร้างจะแล้วเสร็จพร้อมโอนในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ซึ่งเฟรเกรนท์ก็คาดว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถปิดการขายได้ในสิ้นปีนี้เช่นกัน
“ลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัท ฯ จะเป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัย และแม้บางส่วนจะเป็นการซื้อเพื่อลงทุนแต่ก็ไม่มีปัญหาเรื่องการขอสินเชื่อแต่อย่างใด โดยเฉพาะการอนุมัติสินเชื่อนั้นลูกค้าโครงการของเราไม่ได้รับการปฏิเสธสินเชื่อเลย สำหรับโครงการใหม่นั้นขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างเตรียมการซึ่งแม้การเติบโตของเศรษฐกิจจะชะลอลง แต่บริษัท ฯ ก็ไม่ได้มีการปรับแผนการดำเนินงานแต่อย่างใด เพราะเชื่อว่าตลาดคอนโดมิเนียมในเมืองยังมีความต้องการอยู่มาก เพราะการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน” นายเจมส์ กล่าวสรุป