กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--ก.พลังงาน
ก.พลังงาน รุกนโยบายสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ยัน ไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพในการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการร่วมกับ ทบวงพลังงานโลก (IEA) เพื่อเตรียมความพร้อมบริหารจัดการภาวะวิกฤตด้านพลังงาน ระหว่าง 18 -19 พ.ค. นี้ ชี้ไทยได้ประโยชน์สูงสุด ในการจัดทำแผนรองรับกรณีฉุกเฉินแหล่งพลังงานขาดแคลน
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 18 — 19 พฤษภาคม 2552 นี้ กระทรวงพลังงาน ได้รับเกียรติจากทบวงพลังงานโลก (IEA) ในการจัด สัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การบริหารจัดการภาวะวิกฤตด้านพลังงาน” (Thailand — IEA Joint Emergency Response Exercise) โดยจะเป็นการระดมความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานจากหลากหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น สวีเดน อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา รวมทั้งยังได้รับเกียรติจาก นายดิสเดีย ฮูเซ็น ผู้บริหารสูงสุดด้านความมั่นคงตลาดน้ำมัน จาก IEA เพื่อร่วมกันหาแนวทางจัดทำแผนปฏิบัติการ และเป็นเตรียมความพร้อมให้แก่ประเทศไทย หากเกิดภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานขาดแคลน
ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมรับฟังการสัมมนาครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านความมั่นคงพลังงานทั้งจากภาครัฐ และเอกชน กลุ่มผู้ประกอบการด้านพลังงาน อาทิ กลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน กลุ่มโรงไฟฟ้า และผู้ผลิตพลังงานภาคเอกชน จะได้นำองค์ความรู้ที่ได้รับจากผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานเหล่านี้ และผู้แทนจาก IEA เพื่อนำไปเตรียมความพร้อมรับมือหากเกิดวิกฤตด้านแหล่งพลังงาน ขาดแคลนในระดับประเทศซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะปัจจุบันประเทศไทยยังจำเป็นต้องพึ่งพาแหล่งพลังงานจากนอกประเทศ โดยเฉพาะน้ำมันที่ประเทศไทยต้องนำเข้าถึงร้อยละ 90
นอกจากนี้ การจัดสัมมนาระหว่างกระทรวงพลังงาน ร่วมกับ IEA ดังกล่าว ถือเป็นครั้งแรกที่ IEA ได้จัดให้แก่ประเทศที่อยู่นอกกลุ่มสมาชิก โดยประเทศไทยไม่ได้มีสถานะเป็นสมาชิกของ IEA แต่เนื่องจากบทบาทที่ประเทศไทย มีการกำหนดนโยบายสร้างความมั่นคงพลังงานมาอย่างโดดเด่นต่อเวทีโลก รวมทั้งยังเป็นที่ยอมรับของประเทศสมาชิก IEA จึงได้ผลักดันให้เกิดการจัดสัมมนาครั้งนี้ขึ้น
นายแพทย์วรรณรัตน์ กล่าวว่า การจัดสัมมนา ฯ ร่วมกับ IEA ครั้งนี้ จะเป็นการจุดประกาย การจัดทำแผนเพื่อรองรับการเกิดวิกฤตด้านพลังงานในหลาย ๆ เหตุการณ์ ซึ่งในวันสุดท้ายของการสัมมนา (วันที่ 19 พ.ค.) จะมีการตั้งสมมุติฐานซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น การขาดแคลนแหล่งพลังงานที่สำคัญ ๆ ทั้งน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ จากทั่วโลก โดยกระทรวงพลังงาน เชื่อมั่นว่าจะเป็นการเตรียมความพร้อมที่สำคัญล่วงหน้าในการแก้ไขปัญหา รวมทั้งสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการขาดแคลนพลังงาน หากเกิดวิกฤตขึ้นจริงในอนาคตต่อไป