กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--โกลว์ พลังงาน
บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) แจ้งผลประกอบการสำหรับไตรมาส 1 ปี 2552 โดยมีรายได้รวม 7,900 ล้านบาท กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายภาษีเงินได้และค่าเสื่อม (“EBITDA”) จำนวน 1,504 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ (“Normalized Net Profit” หรือ “NNP”) จำนวน 598 ล้านบาท
กำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้จำนวน 598 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.44 จากไตรมาส 4 ปี 2551 และคิดเป็นการลดลงร้อยละ 37.42 จากไตรมาส 1 ปี 2551 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของกลุ่มบริษัทได้แก่ ความพร้อมจ่าย (Availability) ของโรงไฟฟ้าในกลุ่มบริษัท และ การลดลงของยอดขายของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม
ในช่วงเดือน ม.ค. ถึง ก.พ. 2552 หน่วยผลิตไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ IPP กำลังการผลิต 356 เมกะวัตต์ มีการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ตามแผนงาน ในขณะที่โรงไฟฟ้าถ่านหินกำลังการผลิต 150 เมกกะวัตต์ (“CFB#1”) มีการหยุดดำเนินการนอกแผนงาน การหยุดดำเนินการนอกแผนงานของ CFB#1 เกิดขึ้นตั้งแต่เดือน พ.ย. 2551 และกลับมาเริ่มดำเนินการผลิตได้อีกครั้งเมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทได้มีการทำประกันภัยสำหรับการหยุดดำเนินการนอกแผนงานดังกล่าว ซึ่งบริษัทได้ยื่นคำร้องเพื่อขอรับเงินชดเชยจากรายได้ที่สูญเสียไปจากการหยุดดำเนินการจากบริษัทประกันเป็นจำนวนมากกว่า 250 ล้านบาท และเงินจำนวนนี้ยังมิได้มีการรับรู้อยู่ในผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัท
ยอดขายของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 4 ปี 2551 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุด อย่างไรก็ตามยอดขายของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมยังคงต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2551 ประมาณร้อยละ 20 ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) 15 สตางค์ต่อหน่วยในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา (แม้ราคาก๊าซธรรมชาติมีการปรับตัวลดลงในช่วงเวลาเดียวกันก็ตาม) ช่วยทำให้อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินการ (Operating Margin) ปรับตัวดีขึ้นและช่วยลดผลกระทบจากการลดลงของยอดขายกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมได้
โกลว์ประสบความสำเร็จในการจัดหาเงินทุนสำหรับปี 2552 เสร็จสิ้นแล้ว โดยได้มีการลงนามในสัญญาเงินกู้ 3 ฉบับ กับธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารทหารไทย รวมเป็นจำนวนเงิน 6,000 ล้านบาท ซึ่งเงินกู้ดังกล่าวสามารถรองรับการลงทุนตามแผนได้จนถึงประมาณเดือน มี.ค. 2553 เงินกู้ดังกล่าวมีอายุประมาณ 4.5 ปี โดยมีต้นทุนทางการเงินรวมต่ำกว่า 4.9% ต่อปี คงที่ตลอดอายุเงินกู้ โกลว์ยังคงมีแผนที่จะจัดหาเงินทุนอีกจำนวน 9,000 ล้านบาทในปี 2553 และ 7,000 ล้านบาทในปี 2554 เพื่อใช้ลงทุนตามแผนการลงทุนที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้เมื่อแผนการลงทุนเสร็จสิ้นจะทำให้กำลังการผลิตรวมของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 67 จาก 1,966 เมกกะวัตต์เทียบเท่าในปัจจุบัน เป็น 3,275 เมกกะวัตต์เทียบเท่าในปี 2554
นายเอซ่า เฮสคาเน่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทโกลว์กล่าวว่า “เรามีความพึงพอใจในผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2552 นี้ โดยเมื่อพิจารณาถึงเงินชดเชยรายได้ที่สูญเสียไปจากการหยุดดำเนินการนอกแผนของ CFB#1 ที่คาดว่าจะได้รับแล้ว ความสามารถในการทำกำไรของกลุ่มบริษัทได้ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้านี้อย่างมีนัยสำคัญ และที่สำคัญคือแนวโน้มของบริษัทในอนาคตก็ดีขึ้นอย่างมาก กล่าวคือ โรงไฟฟ้าทั้งหมดของกลุ่มบริษัทกลับมาดำเนินการตามปกติ ยอดขายลูกค้าอุตสาหกรรมปัจจุบันเริ่มมีเสถียรภาพ และในช่วงครึ่งหลังของปี 2552 ยอดขายจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าใหม่ของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมจะทยอยเข้ามา ประกอบกับอัตราส่วนกำไรของยอดขายลูกค้าอุตสาหกรรมก็มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากการคาดการณ์ว่าอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) จะยังคงอัตราเดิมอย่างน้อยจนกระทั่งเดือนสิงหาคม ในขณะที่ต้นทุนหลักในการดำเนินการอันได้แก่ ต้นทุนค่าก๊าซ และถ่านหิน มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ท้ายสุดนี้เมื่อโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกำลังการผลิต 115 เมกกะวัตต์แห่งใหม่ของเราเริ่มดำเนินการตามแผนงานในช่วงปลายปีนี้ จะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของกลุ่มบริษัทโกลว์อย่างมากในปี 2553”
นายสุทธิวงศ์ คงสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการเงินกลุ่มบริษัทโกลว์กล่าวเพิ่มเติมว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับความสำเร็จในการจัดหาเงินทุนสำหรับปี 2552 นี้ เราสามารถจัดหาเงินทุนที่ต้องการสำหรับปี 2552 รวม 9,000 ล้านบาท ด้วยต้นทุนทางการเงินรวมคงที่ตลอดอายุเงินกู้ที่ต่ำกว่าการจัดหาเงินทุนในปีก่อนหน้านี้ แม้ว่าสภาพคล่องจะมีความตึงตัวมากขึ้นก็ตาม เรามีความเชื่อมั่นว่าปัจจัยพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและวินัยทางการเงินของเรา ซึ่งสะท้อนผ่านการคงอันดับความน่าเชื่อถือทางเครดิตของทริสที่ระดับ A และ ‘Stable Outlook’ จะช่วยให้เราสามารถจัดหาเงินทุนที่ต้องการสำหรับปี 2553-2554 ได้ด้วยต้นทุนทางการเงินและเงื่อนไขที่ดีเช่นเดียวกับที่เราได้รับในปัจจุบัน”
เกี่ยวกับโกลว์ พลังงาน
บริษัท โกลว์ พลังงาน เป็นบริษัทหนึ่งในกลุ่มโกลว์ ซึ่งประกอบธุรกิจด้านพลังงานรายใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศ โดยมีกำลังผลิตไฟฟ้าทั้งสิ้น 1,708 เมกะวัตต์ และมีกำลังผลิตไอน้ำทั้งสิ้น 967 ตันต่อชั่วโมง
กลุ่มบริษัทโกลว์ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายใต้สัญญาการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) และผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) รวมทั้งผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และน้ำเพื่อการอุตสาหกรรม ให้กับบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมมาบตาพุดและนิคมใกล้เคียง
GDF SUEZ Energy International เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท และเป็นสายงานธุรกิจหนึ่งของกลุ่ม GDF SUEZ ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมและบริการด้านพลังงานระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ GDF SUEZ หรือ GDF SUEZ Energy International ได้ที่ เวบไซต์ของบริษัท www.gdfsuezenergyint.com และ www.suezenergyint.com สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มบริษัทโกลว์ ที่เวบไซต์ www.glow.co.th
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อ
นาย ณัฐพรรษ ตันบุญเอก
บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน)
โทร. 02-670-1500
Email : natthapatt@glow.co.th