กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--ประชาสัมพันธ์ ช่อง3
บทประพันธ์ :วัตตรา
บทโทรทัศน์ :ปัทมาพร เคนผาพงษ์
กำกับการแสดง :ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ดำเนินงานสร้าง :บริษัท ละครไท จำกัด
นำแสดงโดย :สุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว, ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ, พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, จินตหรา สุขพัฒน์, วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย, อัมราภัสร์ จุลกะเศียน
เรื่องย่อ
ชีวิตนางโชว์ของอารักษ์ (อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) ต้องจบลงด้วยวัยเพียง 35 อาจจะเร็ว ไปสักหน่อย แต่เพราะคลื่นลูกหลัง ที่มาแรงกว่า ทำให้เขารับไม่ได้ที่ จะต้องกลายไปเป็นแค่ ตัวตลกคั่นรายการ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ… เขากำลังมีลูกชาย
ตะวัน ( บี้-สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว) เป็นลูกของ อรดี (แหม่ม-จินตหรา สุขพัฒน์ ) หมอนวดซึ่งเช่าบ้านอยู่ติดกับอารักษ์ หล่อนตั้งใจจะคลอดลูก แล้วทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล เพื่อตามผัวใหม่ ชาวเยอรมันไปต่างประเทศ ด้วยความที่อารักษ์รัก และสงสารเด็กน้อย ที่ไม่มีใครต้องการ เหมือนชีวิตของตน ที่เคยระเห็จออกจากบ้าน เพราะพ่อซึ่งไม่ยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น จนประกาศตัดญาติขาดมิตร อารักษ์เลยได้มาใช้ชีวิต เป็นนางโชว์กับ ป้อ (ไก่-วรายุธ มิลินทจินดา) เพื่อนสนิทถึงพัทยา อารักษ์ได้ตัด สินใจที่จะขอตะวันมาเลี้ยงเป็นลูก ท่ามกลางเสียงคัดค้าน ของบรรดาเพื่อนชาวสีม่วงด้วยกัน โดยเฉพาะกับชัชชัย (ปัญญาพล เดชสงค์ ) แฟนหนุ่มที่กำลังคิดตีจาก ได้โอกาส เอาเรื่องเด็กน้อย มาอ้างเพื่อแยกทางกับ อารักษ์ ทำให้เขาเสียใจมาก ถึงกับคิดฆ่าตัวตาย แต่เพราะเสียง ร้องของตะวัน ทำให้เขาได้ฉุกคิด ว่าตนยังมีภาระ ที่สำคัญ ภาระยิ่งใหญ่ของคำว่า…พ่อ
อารักษ์ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนตัวเอง ทิ้งความเป็นเพศที่สาม แล้วย้ายตัวเองไปอยู่เชียงใหม่ ใช้เงินเก็บที่มีอยู่ เซ้งตึกแถวที่หน้า ตลาดสดย่านชานเมือง เปิดเป็นร้านทำผมชื่อว่า “ตะวันซาลอน” มีบรรดาแม่ค้าแม่ขาย และชาวบ้านในละแวกนั้น แห่กันมาใช้บริการแทบทุกวัน เพราะความที่เจ้าของร้านเป็นคนอัธยาศัยดี แล้ววันหนึ่งอารักษ์ก็ได้ช่วยชีวิตแก้วตา (เต๋า-สโรชา วาทิตตพันธ์ ) จากการตามล่าของพวกค้าผู้หญิง ที่หลอกซื้อหญิงสาวจากพ่อแม่จะพาไปทำงานที่มาเลย์ หล่อนหลบหนี แล้วระหกระเหินมาจนถึงหน้าร้าน ด้วยความสงสารในเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เขาจึงให้ที่ซ่อน แล้วแจ้งตำรวจให้สกัดจับพวกค้าผู้หญิง จนสามารถช่วยชีวิตหญิงสาวได้อีกหลายคน แก้วตาระลึกในบุญคุณของอารักษ์ จึงขออยู่ช่วยงานที่ร้าน และอาสาที่จะช่วยดูแลตะวันอีกแรง
ถึงแม้ว่าอารักษ์จะพยายามบอกและแสดงให้ทุกคนเห็นว่าตนเป็นผู้ชาย โดยเฉพาะกับตะวัน แต่กิริยาที่สุภาพ นิ่มนวล ก็ทำให้ทุกคนดูออกว่าเขาไม่ใช่ชายแท้ ทำให้อารักษ์ไม่สบายใจ เกรงว่าลูกชายจะมีปมด้อย จนเมื่อตะวันโตถึงวัยเข้าเรียน เขาเป็นเด็กฉลาด และหน้าตาดี จึงมีแต่คนรักใคร่ บรรดาลูกค้าที่มาทำผมก็มักจะหยอกเอิน ให้ช่วยหยิบจับ ทำนั่นทำนี่ให้ จนอารักษ์ต้องคอยสั่งห้าม สร้างความสงสัยให้กับเด็กน้อย จนต้องแอบมาบ่นให้แก้วตาฟัง หญิงสาวซึ่งใช้ชีวิตร่วมกับสองพ่อลูกมานาน รู้ดีว่าอารักษ์คิดอะไร หล่อนซึ่งแรกๆก็เคยแอบชอบชายหนุ่ม แต่พอรู้ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายเต็มร้อย ก็ได้แต่ทำใจยอมรับ และช่วยเขาปิดบังความจริงกับเด็กน้อย
วิถีชีวิตของตะวันเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเข้าโรงเรียน เขามักจะถูกเพื่อนๆล้อเรื่องพ่อเป็นกะเทยจนมีเรื่องชกต่อยกันเป็นประจำ เด็กน้อยซึ่งถูกพ่อสอนให้เป็นคนรักสันติ มักจะมาบ่นให้ผู้เป็นพ่อฟังอยู่เสมอทุกครั้งที่มีปัญหา เขาชอบนอนหนุนตัก ให้พ่อเล่านิทานให้ฟังใต้แสงจันทร์
แต่แล้วเมื่อตะวันอายุสิบขวบ ได้เรียนรู้โลกกว้างมากขึ้น จนพอจะรับรู้เห็นความผิดปกติของอารักษ์ที่ไม่เหมือนพ่อของเพื่อนๆ ถึงแม้อารักษ์จะพยายามปิดบังอย่างไร แต่ความลับก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไป เมื่อป้อนำบรรดาเพื่อนเก่าร่วมคณะนางโชว์มาเยี่ยมเยือน ภาพพ่อที่ทำตัวกรี๊ดกร๊าดสนิทสนมกับแขกแปลกหน้ากลุ่มใหญ่ ทำให้ตะวันแน่ใจในสิ่งที่เขากลัว ความจริงที่เด็กน้อยพยายามหลอกตัวเองเรื่องพ่อนั้นเป็นเรื่องจริง
ตะวันเสียใจจนถึงขั้นหนีออกจากบ้านไปขอพักกับครูชนะ (เอ็กซ์-ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์) ครูพละที่สนิทที่สุด ขณะนั้นอารักษ์และบรรดาเพื่อนๆ พยายามตามหาด้วยความเป็นห่วงถึงกับไปแจ้งความ ระหว่างที่ตะวันอยู่กับชนะนั้น ครูหนุ่มก็พยายามกล่อมจนเด็กน้อยเริ่มอ่อนลง และเข้าใจโลกมากขึ้น ยิ่งเห็นใครต่อใครวิ่งวุ่นตามหาตน โดยเฉพาะพ่อที่ถึงกับถูกรถชนก็ทำให้เด็กน้อยได้คิด และยอมที่จะกลับไปอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง อารักษ์จึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ตะวันฟังโดยไม่ปิดบัง เว้นแต่เรื่องอาชีพของแม่เด็กน้อย เพื่อให้ตะวันยังมีภาพแม่ที่แสนดีไว้ในใจ
ถึงแม้ความจริงจะเปิดเผย แต่อารักษ์ก็ยังคงทำตัวปกติ เพื่อรักษาหน้าลูกชาย เขาจัดการย้ายโรงเรียน และให้แก้วตาออกหน้า เป็นผู้ปกครองแทนตน เพื่อไม่ให้ตะวันต้องเป็นขี้ปากของใคร จนเมื่อเวลาผ่านไป ตะวันโตขึ้น และสามารถสอบ เข้ามหาวิทยาลัยในกรุงเทพได้ ชายหนุ่มต้องแยกจากครอบครัวอันเป็นที่รักมาเช่าอยู่หอพักตามลำพัง โดยที่ทั้งสองพ่อลูก ก็ยังคงติดต่อถามไถ่กันทางโทรศัพท์แทบทุกวัน
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยทำให้ตะวันได้รู้จักกับ ปลายฟ้า (แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) นักศึกษาต่างคณะ ลูกสาวคนสวยของสถาพร (ถา-สถาพร นาควิลัย) นายตำรวจใหญ่ หญิงสาวเป็นดาวของมหาวิทยาลัย เช่นเดียวกับตะวัน ที่ถูกเลือกให้เป็นเดือน ในงานกีฬาประเพณีของสถาบัน ทำให้ทั้งสองต้องทำกิจกรรมร่วมกัน ยิ่งทำให้ตะวันรู้สึกชื่นชม ในความน่ารัก และพยายามจะผูกมิตร ด้วยแต่ปลายฟ้ากลับไม่สน แต่นั่นก็ยิ่งทำให้ตะวันตกหลุมรักเธอมากขึ้นไปอีก โดยมองข้ามเกยูร (ปีใหม่-สุมนรัตน์ วัฒนาเศลารัต) เพื่อนสาวที่แอบชอบตนอยู่
ตลอดเวลาสี่ปีในรั้วมหาวิทยาลัย ตะวันได้เพียรเฝ้าติดตามความเป็นไปของปลายฟ้าด้วยความรัก จนรู้ว่าเธอชอบทำอะไรที่ไหน รวมทั้งรู้ว่าเธอมีคนรักอยู่แล้ว แต่ด้วยความรักที่บริสุทธิ์และคำแนะนำของผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นที่ปรึกษาตลอดเวลา ตะวันจึงแอบส่งดอกไม้และข้อความซึ้งๆให้เธอที่คณะทุกวัน จนหญิงสาวรู้สึกแปลกใจพยายามจะหาตัวเจ้าของดอกไม้ให้ได้ แต่ก็มีเหตุให้ต้องคลาดกันเสมอ
แล้วในที่สุดตะวันก็มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับปลายฟ้ายิ่งขึ้น เมื่อเขาตัดสินใจไปคัดเลือกตัวแสดงละครเวทีของมหาวิทยาลัย และผ่านการทดสอบได้รับบทนำคู่กับหญิงสาว ตลอดการซ้อมตะวันพยายามเอาใจปลายฟ้าจนเธอรู้สึกอึดอัด หญิงสาวพาเพื่อนๆไปเที่ยวที่บ้านรวมทั้งตะวัน ทำให้ชายหนุ่มพบว่าช่องว่างระหว่างเขากับเธอนั้นมีมากกว่าที่คิด เมื่อหญิงสาวมีฐานะต่างกับเขามาก แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เขายอมแพ้ ตะวันตัดสินใจที่จะไปทำงานเป็นเด็กรับรถให้ผับชื่อดังแห่งหนึ่ง เพียงเพื่อจะหาเงินพาหญิงสาวไปทานอาหารหรูๆสักมื้อหนึ่งพร้อมกับบอกความในใจที่เก็บไว้ตลอดสี่ปี และที่นั่นทำให้เขาได้ช่วย ภัครินทร์ (นุ่น-สินิทรา บุญยศักดิ์) ฝ่ายดูแลศิลปินของ “เลิฟลี่ เรคคอร์ด” จากโจรวิ่งราว ภัครินทร์เห็นหน่วยก้านของตะวัน จึงชวนไปลองเทสต์เสียงดู แต่ชายหนุ่มปฏิเสธ
ตะวันมีโอกาสได้พบกับครอบครัวของปลายฟ้าในวันแสดงละครเวที ชายหนุ่มรู้สึกชื่นชมในบุคลิกของสถาพร และดารณี (ไก่-สุปราณี เจริญผล) พ่อแม่ของหญิงสาว และในระหว่างการแสดงตะวันก็เผลอใจไปจูบปลายฟ้านอกบท สร้างความขัดเคืองให้หญิงสาว จนไม่ยอมพบหน้าด้วย ตะวันกลุ้มใจจึงได้แต่โทรไปปรับทุกข์กับผู้เป็นพ่อ อารักษ์จึงแนะนำให้ลูกชายไปขอโทษหญิงสาว
ในงานวันเกิดของปลายฟ้าที่ถูกจัดขึ้นที่บ้านของหญิงสาว ตะวันอาศัยเกยูรให้พาเข้างาน เขาให้ของขวัญ และออกไปร้องเพลงขอโทษตามที่อารักษ์สอนไว้จนปลายฟ้าเริ่มจะอ่อนลง ยอมรับคำขอโทษจากชายหนุ่ม พร้อมทั้งแนะนำศศิน (เอส-วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย) ชายคนรักที่เป็นลูกชายของศักดา (อาเชาว์-สุเชาว์ พงษ์วิไล) นักการเมืองใหญ่ให้ตะวันได้รู้จัก ทำให้ชายหนุ่มเสียใจ และเลี่ยงออกไปจากงาน ภัครินทร์ที่มาร่วมงานเพราะเป็นญาติผู้พี่กับปลายฟ้า นำวีดีโอภาพและเสียงของตะวันมาให้พบโชค (ป้าแจ๋ว-ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์) เจ้าของค่ายเพลงดังฟัง ตะวันจึงถูกเรียกให้เข้าไปพบ และกล่อมให้เป็นศิลปินเบอร์ใหม่ของเลิฟลี่เรคคอร์ด
ตะวันดีใจโทรไปแจ้งข่าวดีกับพ่อ แต่อารักษ์กลับเป็นห่วง กลัวว่าเมื่อตะวันดังแล้วจะลืมพ่อกะเทยคนนี้ แต่ชายหนุ่มรับปากว่าไม่มีทางเป็นเช่นนั้น เขาตั้งใจจะหาเงินมากๆ เพื่อเก็บไว้ซื้อบ้านอิงดอยให้พ่ออยู่กับเขาตอนแก่ อารักษ์ได้แต่ย้ำลูกชายให้ปิดเรื่องของตนเอาไว้ เพราะกลัวจะเสื่อมเสียชื่อเสียง
ตะวันตัดสินใจดร็อปการเรียนเอาไว้ชั่วคราว ในเทอมสุดท้าย ในขณะที่เพื่อนร่วมรุ่น รวมทั้งปลายฟ้านั้นจบการศึกษากันในหมด ชายหนุ่มถูกจับเปลี่ยนลุคใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า และเปิดตัวด้วยการถ่ายแบบ เพื่อสร้างความนิยม ก่อนที่จะผันตัวเองมาเป็นนักร้อง
ตะวันเริ่มกลายเป็นหนุ่มเนื้อหอมที่มีสาวๆมาให้ความสนใจ แต่ชายหนุ่มก็ยังคงไม่สามารถเข้าใกล้ปลายฟ้าได้มากกว่าความเป็นเพื่อน จนเมื่อเขาได้พบศศินควงสิริกานดา (มิ้ม-อัมราภัสร์ จุลกะเศียน) ดาราน้องใหม่ไปร่วมงานวันเกิดของนิตยสารบันเทิงฉบับหนึ่ง จึงพยายามที่จะหาทางเตือนปลายฟ้า แต่หญิงสาวกลับไม่เชื่อ เธอถึงขั้นไปสอบถามความจริงจากชายคนรัก แต่กลับพบว่าศศินกำลังอยู่กับสิริกานดาจริง ปลายฟ้าจึงประกาศตัดความสัมพันธ์กับศศิน ช่วงนี้เองที่ตะวันได้มีโอกาสเข้ามาแสดงความจริงใจที่มีต่อปลายฟ้า เขาเฝ้าปลอบ และเล่านิทานพระจันทร์ที่พ่อเคยเล่าให้เธอฟัง จนปลายฟ้ารู้สึกเข้มแข็ง และเปิดใจยอมรับชายหนุ่มมากขึ้น จนถึงขั้นเป็นความรักเมื่อชายหนุ่มสารภาพว่า เขาเป็นเจ้าของดอกไม้ที่ส่งให้ตลอดเวลาสี่ปี
ในที่สุดผลงานชิ้นแรกของการเป็นศิลปินของตะวันก็ออกสู่สาธารณชน เขากลายเป็นนักร้องหน้าใหม่ที่น่าจับตามอง ในขณะที่งานเพลงกำลังไปด้วยดี ความสัมพันธ์ของเขากับปลายฟ้าก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แม้จะเป็นช่วงเวลาที่คบหาเพียงไม่นาน แต่ทั้งสองก็ผูกพันและเข้าใจในกันและกันมาก แต่ก็ต้องพยายามปิดบัง คอยหลบนักข่าวตามคำแนะนำและขอร้องของภัครินทร์
แต่แล้วช่วงเวลาที่สวยงามของตะวันก็สะดุดลง เมื่อชายหนุ่มได้พบกับอรดี แม่ซึ่งทิ้งเขาไป หลังจากที่ตามสามีใหม่ไปใช้ชีวิตในเยอรมันได้ยี่สิบปี พอสามีตายอรดีก็มีเงินเก็บอยู่ก้อนใหญ่ จึงบินกลับมาเมืองไทย ตั้งใจลงทุนทำธุรกิจเอาเงินไปลงหุ้นกับวิมล (ดี้-ชนานา นุตาคม) เพื่อนเก่าร่วมอาชีพเปิดบริษัทผลิตเครื่องสำอาง แต่เกิดไปสะดุดใจกับชื่อและนามสกุลของนักร้องหน้าใหม่ที่ชื่อตะวัน จึงสืบจนรู้ว่าเป็นลูกชายตนที่ยกให้อารักษ์ไป เธอจึงมาแสดงตัวให้ตะวันได้รู้จัก เพื่อหวังว่าความดังของลูกชายจะช่วยทำให้ธุรกิจของเธอก้าวหน้า แต่ตะวันกลับปฏิเสธที่จะยอมรับ เมื่อแม่ที่ตนวาดฝันไว้ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด อรดีทั้งปากร้าย แต่งตัวจัดจ้าน ไม่ใช่นางฟ้าอย่างที่พ่อเคยบอก อีกทั้งความรักที่เขามีต่อปลายฟ้าก็เริ่มมีปัญหา เมื่อศศินย้อนกลับมาขอคืนดีกับหญิงสาวอีกครั้ง
ศศินรู้ว่าปลายฟ้ามีใจให้กับตะวัน เขาจึงแสร้งทำดี ใช้ความเป็นสุภาพบุรุษทำให้ปลายฟ้าตายใจ ในการยอมรับเขาเป็นเพื่อน แต่ชายหนุ่มกลับสร้างสถานการณ์โดยหลอกใช้เกยูร หาโอกาสให้หล่อนได้ใกล้ชิดกับนักร้องหนุ่ม และเป่าหูจนปลายฟ้ารู้สึกแคลงใจ ขณะเดียวกันศศินก็พยายามทำดีกับปลายฟ้าเพื่อให้ตะวันได้เห็น จนนักร้องหนุ่มซึ่งกำลังว้าวุ่น ขาดความยับยั้งชั่งใจต่อว่าปลายฟ้าว่ากำลังจะหวนกลับไปคบหาศศิน ทำให้หญิงสาวเสียใจ และต่อว่าชายหนุ่มไปอย่างแรง ก่อนจะหลบหน้าผู้คน หนีปัญหาไปพักผ่อนที่ภูเก็ต โดยตัดขาดการสื่อสารทุกชนิด
ตะวันเสียใจเรื่องปลายฟ้า และสับสนเรื่องอรดี จึงคิดหนีปัญหาวุ่นวายกลับไปหาพ่อ แต่ระหว่างทางเกิดประสบอุบัติเหตุรถตกเขา นักร้องหนุ่มถูกส่งมารักษาตัวที่กรุงเทพ แพทย์สามารถช่วยชีวิตเขาได้สำเร็จ แต่เพราะสมองได้รับความกระทบกระเทือน เมื่อชายหนุ่มรู้สึกตัวขึ้นมาก็พบว่าเขาสูญเสียความทรงจำไปทั้งหมด จึงเป็นโอกาสของอรดีที่อ้างหลักฐานจากทางโรงพยาบาลที่ทำคลอด และพยานบุคคลยืนยันกับหนังสือพิมพ์ จนตะวันต้องยอมรับอรดีเป็นแม่ โดยที่จิตใต้สำนึกลึกๆของเขากลับไม่มั่นใจ
ข่าวร้ายของตะวันทำให้อารักษ์รีบลงมาดูอาการลูกชาย พร้อมกับแก้วตาและครูชนะซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นคู่รักกัน แต่เขากลับพบอรดี และถูกกีดกันไม่ให้เห็นหน้าตะวัน โดยขู่ว่าความเป็นเพศที่สามของอารักษ์จะทำให้ลูกเสียชื่อเสียง อารักษ์ต้องคิดหนัก แอบเข้าไปพบลูกชาย แล้วก็พบว่าตะวันจำเขาไม่ได้ และยังแสดงท่าทางรังเกียจเมื่อเห็นหน้าเขา โดยไม่รู้เลยว่าลูกชายได้ถูกผู้เป็นแม่เป่าหูว่า อารักษ์เป็นพวกโรคจิตที่คลั่งศิลปินหนุ่มๆ หนุ่มใหญ่รู้สึกเจ็บปวด และยอมหลีกทางให้อรดีดูแลตะวัน เขาเลือกเป็นความทรงจำที่หายไป เพื่อให้ลูกชายได้มีอนาคตที่สดใส อารักษ์จึงพาแก้วตากับครูชนะกลับเชียงใหม่โดยไม่ยอมบอกความจริงให้ทั้งสองเข้าใจ
ตลอดเวลาที่ตะวันอยู่โรงพยาบาล เกยูรมาคอยดูแลชายหนุ่มด้วยความรัก หญิงสาวจึงรู้เห็นสิ่งที่อรดีพยายามจะปิดบังตะวันเรื่องอารักษ์เข้าโดยบังเอิญ อรดีกลัวว่าหญิงสาวจะเปิดเผยความจริง จึงยื่นข้อเสนอให้เธอเก็บความลับนี้ไว้ แลกกับการสนับสนุนให้เธอได้รักกับตะวัน และจัดการทำลายข้าวของที่เกี่ยวกับปลายฟ้าของตะวันจนหมดสิ้น เพื่อให้เกยูรวางใจจนยอมรับปาก
ปลายฟ้าได้รู้ข่าวของตะวัน เธอก็รีบรุดขึ้นมาเยี่ยมชายคนรัก แต่กลับพบว่าตะวันคนใหม่นี้ ไม่เหมือนคนเดิมที่รู้จัก เมื่อชายหนุ่มเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากคนสุภาพ ก็กลายเป็นคนก้าวร้าว เย่อหยิ่ง และเอาแต่ใจ นอกจากนั้นยังพบเกยูรแสดงตัวว่าเป็นคนรักของชายหนุ่มอีก ก็ยิ่งทำให้ปลายฟ้าเสียใจ ช่วงเวลานี้ศศินก็แทรกเข้ามาทำตัวเป็นที่ปรึกษาให้หญิงสาวในฐานะพี่ชายที่แสนดี
ด้วยความกลัวว่าปลายฟ้าจะหวนกลับไปหาตะวันอีก ศศินจึงคิดขัดขวางคนทั้งสอง ชายหนุ่มซึ่งกว้างขวางด้วยบารมีของผู้เป็นพ่อ รู้ว่าธุรกิจของอรดีที่ร่วมหุ้นกับเพื่อนกำลังมีปัญหา เมื่อวิมลเชิดเงินหนีไป และทิ้งหนี้สินไว้ให้อรดีรับผิดชอบ ศศินจึงทำเป็นยื่นมือเข้าช่วยเหลือ และเข้ามาเป็นหุ้นส่วนร่วมทุนทำธุรกิจด้วย โดยมีข้อเสนอให้สาวใหญ่ช่วยขัดขวางไม่ให้ตะวันได้หวนกลับมาคบหากับปลายฟ้า
ตะวันเริ่มสับสน และรู้สึกขัดตากับสิ่งรอบตัวไปหมด เขาไม่คุ้นเคยกับสิ่งที่อรดีพยายามจะยัดเยียดใส่หัวเขาเกี่ยวกับเรื่องในอดีต แต่ชายหนุ่มกลับไม่พบหลักฐานใดๆในบ้าน ที่ยืนยันว่าเขาเคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับอรดีเลยสักชิ้น อรดีพยายามสร้างภาพแม่ลูกที่รักกันให้ใครๆได้เห็น ทำให้เธอเป็นที่รู้จัก และส่งผลให้กิจการเครื่องสำอางกระเตื้องขึ้น โดยความช่วยเหลือของศศินที่เข้าไปดูแลด้านการตลาดให้อีกแรง
ปลายฟ้าซึ่งยังรักตะวัน ตั้งใจจะทำให้เขาฟื้นคืนความทรงจำได้อีกครั้ง แต่อรดีกลับปฏิเสธความหวังดี หญิงสาวจึงได้แต่ไปปรับทุกข์กับศศิน เพราะคิดว่าชายหนุ่มเข้าใจ ศศินจึงถือโอกาสขอคืนดีอีกครั้ง แต่ปลายฟ้าปฏิเสธเพราะหัวใจของเธอมอบให้ตะวันไปจนหมดสิ้น ชายหนุ่มจึงแสร้งยอมรับความจริง และเปิดทางให้หญิงสาวได้ช่วยเหลือตะวันเต็มที่ สร้างความรู้สึกที่ดีให้ปลายฟ้า แต่เขากลับไปกำชับให้อรดีทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้ปลายฟ้าได้มีโอกาสพบกับตะวันตามลำพัง
ปลายฟ้าตั้งใจจะเอารูปถ่ายของเขาและเธอมาพิสูจน์ความจริงกับตะวัน แต่กลับถูกเกยูรซึ่งอรดีให้มาช่วยดูแลตะวันขัดขวาง ชายหนุ่มเริ่มสะกิดใจนึกสงสัยในท่าทีของปลายฟ้า อรดีจึงตัดสินใจเปิดตัวเกยูรกับสื่อต่างๆว่าเป็นคู่รักของตะวัน เพื่อให้ปลายฟ้าตัดใจ ซึ่งก็ได้ผล หญิงสาวเสียใจจนคิดว่าหมดหวัง จึงได้แต่ขอร้องศศินให้ช่วย ศศินจึงจำเป็นต้องให้อรดีนัดตะวันออกมาให้ปลายฟ้า ในขณะที่เขากลับเรียกนักข่าวให้มา ทำให้นักร้องหนุ่มซึ่งกลัวเป็นข่าว เข้าใจว่าปลายฟ้าคิดจะใช้สื่อเพื่อจะจับเขา จึงพาลโกรธไม่ยอมฟังคำอธิบายใดๆจากปลายฟ้า
หลังจากกลับมาเชียงใหม่ อารักษ์ก็ยังคงติดตามข่าวคราวของตะวันโดยตลอด แก้วตาตัดสินใจแต่งงานกับครูชนะ ทั้งสองส่งการ์ดเชิญให้ตะวันมาร่วมงาน แต่กลับถูกอรดีเก็บไว้ ทำให้บรรดาคนรู้จักที่เชียงใหม่เข้าใจว่าชายหนุ่มลืมตัว อารักษ์ต้องช่วยแก้ต่าง ทั้งที่ใจก็หวังจะได้พบหน้าลูกชายอีกสักครั้ง กิจการตะวันซาลอนเริ่มมีปัญหา เมื่อมีร้านเสริมสวยที่ใหญ่กว่าและทันสมัยกว่าเข้ามาในตลาด สุขภาพที่เริ่มจะทรุดโทรม ความเคร่งเครียด และความเป็นห่วงลูกชาย ทำให้อารักษ์หน้ามืดบ่อยขึ้น เมื่อไปตรวจก็พบว่าเป็นเนื้องอกในสมอง อารักษ์จึงเลือกที่จะปิดทุกคนเพื่อความสบายใจ นอกจากปรีดาเพื่อนสนิท และประกาศขายร้าน เพื่อย้ายไปอยู่กรุงเทพ จะได้ดูความเป็นไปของลูกชาย โดยหลอกทุกคนว่าจะไปอยู่กับตะวัน
ปรีดาซึ่งกลายเป็นเจ้าของบาร์เบียร์ที่พัทยาเป็นห่วงเพื่อน จึงทิ้งงานขึ้นมาเยี่ยมอารักษ์ที่กรุงเทพพร้อมกับเจสัน ฝรั่งซึ่งทั้งสองเคยช่วยชีวิตจากโจร ตอนมาทำธุรกิจที่พัทยาใหม่ๆ เจสันกำลังจะกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้านเกิด เขามอบเงินให้อารักษ์ไว้ก้อนหนึ่ง เพื่อใช้รักษาตัว แต่อารักษ์เลือกที่จะนำเงินก้อนนั้นเก็บไว้ไปซื้อบ้านอิงดอย บ้านในฝันของสองพ่อลูก โดยให้แก้วตาช่วยดูแล และโกหกทุกคนว่าเป็นเงินที่ตะวันฝากมา
อารักษ์ไปสมัครเข้าทำงานเป็นผู้ช่วยฝ่ายดูแลเสื้อผ้าให้ศิลปินที่บริษัทเลิฟลี่เรคคอร์ด โดยอาศัยเพื่อนเก่าๆที่เคยเป็นนางโชว์ด้วยกันมาก่อนแนะนำ ทำให้เขามีโอกาสได้พบกับลูกชายอีกครั้ง แต่ตะวันก็จำหน้าเขาได้ว่าเคยพบที่โรงพยาบาล จึงไม่ค่อยถูกชะตา เพราะคิดว่าอารักษ์เป็นกะเทยที่แอบปลื้มตนตามที่แม่เคยย้ำไว้ สร้างความน้อยใจให้กับอารักษ์เป็นอย่างมาก แต่เขาก็ต้องอดทน เพียงเพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดลูกชาย
อรดีต้องการให้ตะวันถ่ายโฆษณาเครื่องสำอางสำหรับผู้ชายของบริษัทตน ศศินเห็นโอกาสที่จะทำให้ปลายฟ้าตัดใจจากตะวันได้เด็ดขาด จึงสนับสนุนให้ตะวันเลือกปลายฟ้ามาเป็นพรีเซนเตอร์ร่วม สร้างความไม่พอใจให้สิริกานดาที่ถูกคาดหมายว่าจะได้งานนี้ การถ่ายทำไม่ค่อยจะราบรื่นนัก เมื่อปลายฟ้ารู้สึกว่าตะวันเปลี่ยนไปไม่เหมือนก่อน เขาทั้งหยิ่ง และเรื่องมากจนเธอเสียความรู้สึก จึงพยายามเลี่ยงที่จะพูดคุยกับเขา แต่กลับยิ่งเป็นการท้าทายตะวัน เขาเอ่ยชวนเธอไปเที่ยวทำราวกับปลายฟ้าใจง่าย เธอจึงปฏิเสธทั้งพูดจาดูถูก จนชายหนุ่มนึกโกรธต้องการเอาชนะ อารักษ์ซึ่งต้องมาช่วยดูแลเสื้อผ้าให้อยู่ในเหตุการณ์เห็นความบาดหมางของทั้งสอง ก็ได้แต่เตือนสติลูกชาย แต่ตะวันไม่ยอมฟัง และพาลต่อว่าจนอารักษ์ต้องเลี่ยงหลบไปร้องไห้ สร้างความสงสัยให้กับปลายฟ้าในท่าทีที่เขามีต่อตะวัน
ศศินพยายามจะให้ปลายฟ้าเห็นข้อเสียของตะวันยิ่งขึ้นจะได้ตัดใจเสียที เขากล่อมจนสิริกานดายอมร่วมมือยั่วยวนตะวันจนกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่ง เพื่อให้ปลายฟ้าเข้าใจผิดตะวันมากขึ้น และก็ได้ผลเมื่อหญิงสาวซึ่งกำลังมีปัญหาครอบครัว เมื่อผู้เป็นพ่อพัวพันกับคดีทุจริตในราชการเสียใจ และยอมเปิดใจที่จะให้ศศินพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง
ข่าวเสียหายของตะวันมีมากขึ้น จนถูกพบโชค คาดโทษจะฉีกสัญญา ทำให้ตะวันยิ่งเครียดหนัก อีกทั้งปัญหาหนี้พนันก้อนใหญ่ของอรดี ที่เกิดจากการถูกศศินหลอกให้ไปเที่ยวที่บ่อนแห่งหนึ่ง ทำให้ตะวันต้องหาเงินก้อนใหญ่เพื่อมาช่วยเหลือกิจการ ศศินจึงอาศัยโอกาสนี้ยื่นมือเข้าซื้อหุ้นของอรดีทั้งหมด และครอบครองธุรกิจแต่เพียงผู้เดียว โดยยังแสร้งทำเป็นดียินยอมให้อรดีดูแลกิจการตามปกติ
ทั้งข่าวสิริกานดา และหนี้พนันของอรดี ทำให้ชื่อเสียงของตะวันเริ่มมีปัญหามากขึ้น ตะวันต้องสร้างภาพทำตัวเป็นคนใหม่ ด้วยการใกล้ชิดเกยูรให้มากขึ้น เพื่อกลบข่าวฉาวกับสิริกานดา นั่นจึงทำให้ปลายฟ้าตัดสินใจเด็ดขาดที่จะล้มเลิกความตั้งใจช่วยชายหนุ่มให้คืนความทรงจำ เธอส่งดอกไม้ที่เขาเคยให้มาตลอดสี่ปีคืน จนชายหนุ่มรู้สึกสะกิดใจ เขาเริ่มที่จะจำอะไรได้บ้างลางๆ แวะไปที่ร้านอาหารซึ่งเคยมากับปลายฟ้าเป็นประจำ ฟังเพลงที่หญิงสาวชอบ แต่ก็มักจะถูกเกยูรและอรดีขัดขวาง ดึงให้เขาเลิกคิดที่จะสนใจเรื่องในอดีตอีก ช่วงเวลานั้นเองปลายฟ้าก็ตัดสินใจรับปากแต่งงานกับศศิน เพื่อให้พ่อของเขาช่วยเหลือพ่อของตนให้หลุดพ้นข้อกล่าวหาพัวพันเรื่องทุจริต ทำให้เธอค่อยๆหายไปจากชีวิตของตะวัน
อารักษ์ซึ่งทำงานฝ่ายเสื้อผ้าก็ได้รับรู้เรื่องราวของลูกชายมาตลอดทั้งจากเพื่อนร่วมงาน และข่าวต่างๆ เขายังคงพยายามที่จะหาโอกาสคอยเตือนตะวัน เกี่ยวกับการใช้ชีวิตด้วยความเป็นห่วง จนชายหนุ่มไม่พอใจ ก็มักจะพาลระเบิดอารมณ์ใส่ แต่อารักษ์ก็ยังทนนิ่ง และพยายามอดกลั้นความน้อยใจ อย่างน้อยก็เพื่อให้ลูกชายได้มีเขาเป็นที่ระบายความอึดอัดในใจ ตะวันเองนั้นก็เริ่มรู้สึกคุ้นกับสิ่งที่อารักษ์พยายามสั่งสอน แต่ก็ยังคงคิดระแวงในความหวังดีของอารักษ์
อาการป่วยของอารักษ์เริ่มหนักขึ้นจนถึงกับเป็นลมในที่ทำงาน หมอที่ตรวจอาการอยากให้เขารีบผ่าตัด แต่อารักษ์กลับประวิงเวลาไว้ด้วยความกลัวว่าจะไม่ได้พบหน้าลูกชายอีก แต่อาการที่กำเริบมากจนเขารู้สึกท้อแท้ อารักษ์รู้ดีว่าปลายฟ้าคือผู้หญิงที่ตะวันรัก จึงไปขอร้องให้หญิงสาวช่วยปลอบใจตะวัน จนปลายฟ้าซึ่งยังตัดใจจากชายหนุ่มไม่ขาดยินยอมที่จะไปพบตะวันอีกครั้ง ชายหนุ่มคิดพิสูจน์ว่าเธอเป็นคนรักของเขาจริงหรือไม่ เขาขอให้เธอพาไปทุกๆ ที่ ซึ่งเธอและเขาเคยไปด้วยกัน ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกคุ้นและพอที่จะจำอะไรได้บ้าง แต่สุดท้ายเขากลับเลี้ยวรถพาเธอเข้าโรงแรม ปลายฟ้าผิดหวังในการกระทำของตะวัน ต่อว่าและตบหน้าเขาอย่างแรงก่อนจะหนีออกไปพบกับอารักษ์ซึ่งคอยตามติดลูกชายทุกฝีก้าวช่วยพาเธอหลบไปได้
ปลายฟ้าสอบถามความจริงว่าอารักษ์เป็นใคร แต่เขากลับบ่ายเบี่ยง จนปลายฟ้ายิ่งสงสัย แต่ก็แน่ใจว่าอารักษ์เป็นคนดี จึงไว้วางใจที่จะเล่าเรื่องราวที่บ้านให้หนุ่มใหญ่ฟังเพื่อเป็นการระบายความอัดอั้น อารักษ์จึงแนะนำ และเล่านิทานปลอบใจจนหญิงสาวรู้สึกสบายใจขึ้น นั่นก็ยิ่งทำให้เธอมั่นใจว่าอารักษ์ต้องมีความเกี่ยวข้องกับตะวันอย่างแน่นอน
ศศินไม่พอใจเมื่อรู้ว่าตะวันพยายามจะติดต่อกับปลายฟ้า เขาบังคับให้อรดีจัดการ สาวใหญ่จึงคิดจะให้ลูกชายหมั้นหมายกับเกยูร แต่ตะวันไม่ยอมเพราะชายหนุ่มเริ่มรู้ใจตัวเองว่าไม่ได้รักเกยูร จึงนัดหญิงสาวออกมาเพื่อบอกความจริง เกยูรรู้สึกอับอายและเสียใจจนถึงขั้นกรีดข้อมือฆ่าตัวตาย แต่โชคดีที่มีคนช่วยไว้ทันเวลา แต่ข่าวของเธอทำให้ชื่อเสียงความเป็นนักร้องของตะวันต้องมัวหมองอีกครั้ง
ตะวันกลุ้มใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะความสัมพันธ์สามเส้าระหว่างเขา เกยูร และปลายฟ้า อารักษ์ก็หาโอกาสให้คำแนะนำชายหนุ่มให้ทำตามหัวใจของตัวเอง ตะวันเริ่มมองอารักษ์ในมุมที่ดีขึ้น และยิ่งคุ้นกับคำสอน ท่าทางของอารักษ์ เหมือนว่าความทรงจำจะกลับคืนมา แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจมากไปกว่าเรื่องราวความรักในตอนนี้ ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะบอกรักปลายฟ้า ทั้งที่รู้ว่าเธอกำลังจะแต่งงานกับศศิน ทำให้ปลายฟ้าสับสนระหว่างหัวใจกับความถูกต้อง
อรดีกลุ้มใจที่กล่อมลูกชายไม่สำเร็จ ศศินขู่จะขายกิจการทิ้ง ทำให้อรดียิ่งเครียดหนัก ตามติดลูกชาย จนพบว่าอารักษ์นั้นอยู่ใกล้ชิดตะวันตลอดเวลา และคอยส่งเสริมให้ตะวันกลับไปรักปลายฟ้า เธอจึงกลัวว่าทุกอย่างจะเปิดเผย จึงขู่อารักษ์และคิดให้เงินปิดปาก แต่อารักษ์ไม่ยอมรับ เพราะรู้ตัวว่าตนคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน อรดีจึงเล่าความจริงให้ศศินฟัง และจ้างนักเลงไปเล่นงานจนอารักษ์ต้องเข้าโรงพยาบาล
ปลายฟ้าไปเยี่ยมอารักษ์ที่โรงพยาบาล และพบว่าเขาเป็นเนื้องอกในสมอง อารักษ์ขอร้องให้ปลายฟ้าช่วยทำให้ตะวันกลับเป็นคนอ่อนโยนเหมือนเดิม และยอมเปิดเผยความจริงทั้งหมดให้หญิงสาวฟัง แต่เขากลับขอร้องให้เธอเก็บความลับเรื่องเขาเป็นพ่อไว้ เพื่ออนาคตของลูกชาย ปลายฟ้าตรงไปหาตะวัน และขอร้องให้ตะวันไปเยี่ยมอารักษ์บ้าง ตะวันพยายามจะขอความรักจากปลายฟ้า แต่เธอปฏิเสธเพราะไม่อยากทำให้ศศินเสียใจ ตะวันจึงได้ตำหนิตัวเอง อารักษ์จึงพยายามจะหาทางปลอบ แต่ชายหนุ่มกลับพาลว่าเป็นความผิดของอารักษ์ และให้ภัครินทร์ไล่อารักษ์ออกจากงานโดยไม่ยอมฟังคำอ้อนวอนร้องขอของอารักษ์ หนุ่มใหญ่จึงต้องเก็บเสื้อผ้ากลับเชียงใหม่ด้วยความเสียใจ แต่อาการของโรคกำเริบขึ้นระหว่างเดินทางเสียก่อน
ศศินคิดหาวิธีกำจัดตะวันออกจากชีวิตปลายฟ้าได้เด็ดขาด เขาปล่อยข่าวเรื่องอารักษ์เป็นพ่อของตะวันให้หนังสือพิมพ์รู้ จนตะวันสับสนเมื่อเขากลายเป็นคนเนรคุณพ่อซึ่งเขาจำอะไรไม่ได้ ชายหนุ่มยิ่งเครียดจัดเมื่อแวะไปดูอาการอารักษ์ที่โรงพยาบาล แล้วพบกับแก้วตากับครูชนะที่รีบลงมาจากเชียงใหม่หลังจากรู้เรื่องราวทั้งหมดจากปลายฟ้าที่ติดต่อไปเพื่อหวังให้อารักษ์ได้มีญาติมาดูแล แก้วตาตรงเข้าไปตบหน้าตะวันและด่าว่าจนชายหนุ่มรู้สึกสับสนไปหมด
เกยูรเริ่มทำใจได้กับความรักจึงตัดสินใจที่จะไปเรียนต่อเมืองนอก เธอมาบอกลาตะวัน แล้วเล่าความจริงทุกอย่างให้ฟังว่าเธอไม่ใช่คนรักของเขา ตะวันเครียดหนักและสับสน เขารู้ดีว่ามีปลายฟ้าคนเดียวที่จะเป็นคนที่ให้ความจริงกับเขาได้ ตะวันบุกไปที่งานแต่งงานของศศินกับปลายฟ้าเพื่อไปชิงตัวเจ้าสาวในงานแต่งงาน ศศินโกรธจัดคิดจะตามเล่นงานตะวัน แต่กลับถูกสิริกานดาซึ่งเข้ามาในงานด้วยความโกรธแค้นที่ชายหนุ่มคิดจะเขี่ยเธอทิ้ง เธอเปิดเผยสิ่งที่ศศินทำทั้งหมดให้ทุกคนได้รู้ และยิงชายหนุ่มจนบาดเจ็บสาหัส กลายเป็นอัมพาตครึ่งล่าง ก่อนที่เธอจะยอมมอบตัว
ตะวันได้รู้ความจริงจากปลายฟ้าเรื่องที่อารักษ์เป็นพ่อของตน หญิงสาวพาชายหนุ่มไปพัทยาเพื่อสอบถามจากบรรดาเพื่อนเก่าๆ ของอารักษ์ จนชายหนุ่มยอมเชื่อว่าอารักษ์เป็นพ่อที่เลี้ยงดูตนมา ภาพความทรงจำเก่าๆที่หายไปเริ่มชัดเจนอีกครั้ง ตะวันรีบเดินทางกลับกรุงเทพเพื่อไปเยี่ยมอารักษ์ แต่ระหว่างทางด้วยความประมาทรถที่ขับก็เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ
อารักษ์รู้ข่าวลูกชายบาดเจ็บ ก็หนีออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปดูอาการลูกชาย จนรู้ว่าตะวันปลอดภัย เขาจึงคิดหนีทุกคนกลับเชียงใหม่ ตะวันรู้สึกตัว คนแรกที่เขาถามถึงนั้นก็คืออารักษ์ อรดีรู้สึกสำนึกผิดที่ตกเป็นเครื่องมือของความโลภและเห็นแก่ตัว และถูกศศินหลอกใช้ จึงสารภาพทุกอย่างให้ลูกชายฟังตามจริง ตะวันขอร้องให้ทุกคนช่วยกันตามหาพ่อของเขา แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าอารักษ์ไปไหน มีเพียงตะวันที่จำสัญญาของตนกับพ่อได้ ว่าจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านอิงดอยด้วยกัน เขาจึงเดินทางไปที่บ้านอิงดอยที่พ่อซื้อไว้ตามคำบอกเล่าของแก้วตา และพบอารักษ์กำลังนอนป่วยหนักอยู่ที่นั่น
ตะวันพาอารักษ์ไปส่งโรงพยาบาล อาการของเขาเข้าขั้นวิกฤติจนต้องผ่าตัดด่วน โอกาสรอดชีวิตมีเพียงห้าสิบเปอร์เซนต์ ตะวันได้แต่สวดมนต์ขอให้พ่อของตนหายดี แล้วในที่สุดการผ่าตัดก็เสร็จสิ้น เพียงแต่รอให้อารักษ์ฟื้นขึ้น หรือจะหลับชั่วนิรันดร์
ระหว่างนั้นชายหนุ่มต้องปลีกตัวเพื่อไปขึ้นคอนเสิร์ตสำคัญที่เตรียมการไว้ ชายหนุ่มจึงถือโอกาสนี้สารภาพความจริงทุกอย่างกับแฟนเพลงด้วยน้ำตา และประกาศก้องว่าเขาภูมิใจที่ได้เกิดมามีพ่อกะเทยอย่างอารักษ์ บทเพลงพระจันทร์สีรุ้งที่เขาแต่งให้ผู้เป็นพ่อระหว่างที่เดินทาง ถูกขับขานขึ้นสดๆท่ามกลางกำลังใจของทุกคนในที่นั้นที่ส่งไปช่วยอารักษ์ให้ได้ฟื้นคืนกลับมาอีกครั้ง
แล้วก็เหมือนมีปาฏิหาริย์ อารักษ์ซึ่งหมอลงความเห็นว่าหมดหวังนั้น กลับเริ่มมีอาการตอบสนอง และลืมตาขึ้น เมื่อลูกชายสุดที่รักเดินทางกลับมาหา แต่โชคร้ายที่เขาไม่สามารถจะจำเรื่องราวต่างๆได้อีกเลย แต่ถึงแม้ว่าอารักษ์จะเป็นอย่างไร วินาทีนี้ตะวันก็ไม่ยอมที่จะทิ้งพ่อไปอีก เขาเฝ้าคอยดูแล และอยู่กับพ่อที่บ้านอิงดอยแห่งนั้น โดยมีปลายฟ้าซึ่งได้หมั้นหมายกันไว้ แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนและช่วยดูแลอารักษ์อย่างมีความสุข