บลจ. ทิสโก้ ส่ง FIF ขายสองกองรวด ลงทุนในทองคำ — พันธบัตรออสเตรเลีย

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 12, 2009 15:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--ทิสโก้ บลจ. ทิสโก้ ออกกอง FIF พร้อมกัน 2 กองทุน “ทิสโก้ โกลด์ ฟันด์” กองอีทีเอฟลงทุนในทองคำแท่ง รับจังหวะราคาทองคำย่อตัว จุดเด่นสภาพคล่องสูง ซื้อขายได้ทุกวันทำการ และ “ทิสโก้ พันธบัตรออสเตรเลีย สเปเชี่ยล ฟันด์” ลงทุนในพันธบัตรออสเตรเลีย พร้อมเงื่อนไขพิเศษเลิกกองทุนได้ทันทีหากสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายที่ 10% ประเดิมไอพีโอพร้อมกันทั้ง 2 กอง วันที่ 18-25 พ.ค. นี้ ลงทุนขั้นต่ำ 20,000 บาท นายพิชา รัตนธรรม หัวหน้าธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่าในเดือนนี้บริษัทจะทำการเสนอขายกองทุนต่างประเทศ (FIF) ใหม่พร้อมกัน 2 กองทุน โดยแต่ละกองทุนมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกการลงทุนที่หลายหลาย และสามารถกระจายเงินลงทุนได้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่รับได้ในแต่ละราย กองทุนแรก ได้แก่ “กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ ฟันด์” (TISCO Gold Fund) เป็นกองทุนที่ลงทุนในกองทุนหลักคือ SPDR Gold Trust กองทุนอีทีเอฟ (ETF) ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและมีนโยบายมุ่งเน้นลงทุนในทองคำแท่ง เพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคำ ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวบริหารจัดการโดย World Gold Trust Services, LLC ที่ถือหุ้นโดย World Gold Council (WGC) ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ลงทุนขั้นต่ำ 20,000 บาท “จุดเด่นของกองทุนคือมีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อและขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับนักลงทุนและช่วยให้สามารถทำกำไรจากการปรับตัวขึ้นและลงของราคาทองคำในระยะสั้นได้ โดยหลังการเปิดจองซื้อครั้งแรกผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป ซึ่งสาเหตุที่เปิดขายกองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ ฟันด์ ในช่วงนี้ เนื่องจากเรามองว่าเป็นจังหวะที่ดีสำหรับการเข้าลงทุนในช่วงที่ราคาทองคำย่อตัวลงมา หลังจากที่ผ่านมาสถานการณ์ราคาทองคำค่อนข้างผันผวน และมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทั้งนี้แนะนำนักลงทุนอย่ามองว่าราคาถูกหรือแพง แต่ควรลงทุนหากมองว่าราคามีโอกาสปรับขึ้นได้อีกในอนาคต ซึ่งการลงทุนในทองคำจะช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนนอกเหนือไปจากการลงทุนในตราสารหนี้ และตราสารทุน รวมถึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยลดผลกระทบด้านต้นทุนในภาวะเงินเฟ้อได้” และอีกกองทุนที่จะเปิดเสนอขาย ได้แก่ “กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรออสเตรเลีย สเปเชี่ยล ฟันด์” (TISCO Special Australia Bond Fund) เป็นกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีเครดิตเรตติ้งหรืออันดับความน่าเชื่อถือสูงที่สุด คือ AAA โดยมีมูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท ลงทุนขั้นต่ำ 20,000 บาท อายุโครงการประมาณ 1 ปี 3 เดือน ทั้งนี้มีเงื่อนไขพิเศษคือ สามารถเลิกกองทุนและรับเงินต้นคืนพร้อมผลตอบแทนได้ก่อนครบอายุโครงการ หากหน่วยลงทุน (NAV) มีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 11 บาท หรือเพิ่มขึ้น 10% ณ วันทำการใดภายในระยะเวลาลงทุน ซึ่งจะช่วยผู้ถือหน่วยได้เพิ่มผลประโยชน์มากขึ้นและไม่ต้องติดตามการลงทุนด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามเนื่องจากกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในรูปสกุลเงินดอลล่าร์ออสเตรเลีย ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนจึงมีผลกระทบต่อผลตอบแทนจากการลงทุนด้วย “จุดเด่นของกองทุนนี้คือ ปกติกองตราสารหนี้ทั่วไปที่ผู้ลงทุนต้องถือจนครบอายุโครงการจึงจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน แต่สำหรับกองทุนนี้เราเพิ่มเงื่อนไขเข้ามาเพื่อช่วยให้นักลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนตามเป้าหมายเร็วขึ้น โดยกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรออสเตรเลีย สเปเชี่ยล ฟันด์ จะเปิดโอกาสให้กองทุนได้กำไรจากการปรับราคาทรัพย์สินที่ลงทุนให้สะท้อนถึงราคาทรัพย์สินในปัจจุบันที่มีการซื้อขายอยู่ในตลาด หรือที่เรียกว่า Mark to Market ด้วย” นายพิชา กล่าว ทั้งนี้ บลจ. ทิสโก้ จะทำการเสนอขาย (IPO) กองทุนทั้ง 2 กองพร้อมกันตั้งแต่วันที่ 18-25 พ.ค. 52 นี้ ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือที่ TISCO Contact Center โทร 02 633 6000 กด 4 หรือ www.tiscoasset.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ