กรุงเทพฯ--6 มิ.ย.--นิโอ ทาร์เก็ต
สปาไทยมีลุ้น ... ญี่ปุ่นยอมอ่อนทีท่าการเจรจา FTA เรื่องสปา
พนักงานระดับผู้จัดการและพนักงานฝึก สามารถไปทำงานได้ ... เริ่มปลายปีนี้
ญี่ปุ่นยอมอ่อนทีท่าการเจรจา FTA เรื่องสปาไทย ในเงื่อนไขหลักบางประการเกี่ยวกับคุณสมบัติของพนักงานระดับผู้จัดการและพนักงานฝึก ซึ่งทั้งสองตำแหน่งสามารถเข้าไปทำงานได้ทันทีภายในสิ้นปีนี้ ส่วนพนักงานนวดบำบัด (Therapist) จ่อคิวรอพร้อมทำงานได้ภายระยะเวลาในไม่เกิน 2 ปี
แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานเขตการค้าเสรีไทย-ญี่ปุ่น กระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยว่า “การเจรจาเรื่องสปา ที่ประเทศไทยเสนอเรื่องไปยังประเทศญี่ปุ่นนั้น ขณะนี้ได้มีความคืบหน้าหลายประการ โดยเฉพาะเรื่องตำแหน่งของพนักงานระดับบริหาร (Spa Manager) ที่ขอเข้าไปทำงานยังประเทศญี่ปุ่นนั้น ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ทางด้านสปาทรีตเม้นต์ ขอเพียงแค่บริหารงานได้ ซึ่งถ้าหากเทียบกับในประเทศไทยแล้วส่วนใหญ่จะรับผู้จัดการที่มีประสบการณ์ทั้งสองด้าน ตำแหน่งดังกล่าวจึงสามารถเข้าไปทำงานในญี่ปุ่นได้ภายหลังจากการเจรจาเสร็จสิ้นช่วงกลางปีนี้”
“ส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านการนวดบำบัด (Spa Instructor) ก็สามารถไปทำงานในประเทศญี่ปุ่นได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากในขณะนี้ญี่ปุ่นได้ผ่อนปรนเงื่อนไขการออกใบอนุญาตประกอบอาชีพ ซึ่งไม่จำเป็นต้องออกโดยรัฐบาลญี่ปุ่น หน่วยงานของรัฐบาลไทยสามารถออกใบรับรองให้ได้ แต่ผู้ที่จะไปทำงานจะต้องมีประสบการณ์ทำงานที่เกี่ยวข้องในช่วงระยะเวลาหนึ่ง และสิ่งที่สำคัญคือจะต้องจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี “
นอกจากนี้พนักงานนวดบำบัด (Therapist) สามารถไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องผ่านข้อตกลง เอฟทีเอ เพียงแต่ต้องสอบรับใบประกาศนียบัตรของหน่วยงานญี่ปุ่นในรูปแบบของ Medical Spa เพียงอย่างเดียว
ดังนั้นข้อตกลงเรื่องสปาไทยในประเทศญี่ปุ่น จึงไม่น่าจะติดปัญหาอะไร นอกจากเรื่องของพนักงานนวดบำบัด ซึ่งทางประเทศญี่ปุ่นต้องการให้มีการออกใบประกาศนียบัตร โดยหน่วยงานของรัฐบาลไทยก็สามารถออกใบรับรองให้ได้ โดยผ่านทางกระทรวงแรงงาน หรือ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งทางประเทศไทยกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาตกลงว่ากระทรวงใดจะเป็นผู้รับผิดชอบ ตามเงื่อนไขการเจรจาญี่ปุ่นได้ยืดเวลาให้ไทยดำเนินการในการออกใบอนุญาตออกไปไม่เกิน 2 ปี
นางภัคมน อัศวภาคุณ กรรมการผู้จัดการ ซัมซาราสปา ผู้ประกอบการสปาของไทย ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “หากการเจรจา เอฟทีเอ บรรลุผล อาจจะมีนักลงทุนสนใจขยายธุรกิจเข้าไปทำกิจการสปาในประเทศญี่ปุ่น จะทำให้ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกบุคลากรด้านสปา เพิ่มขีดความสามารถและรายได้ให้กับประเทศไทยในสาขาหนึ่ง เนื่องจากวิธีการนวดของประเทศไทยเรามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป รวมถึงการให้บริการทางด้านการบำบัดรักษา ของเรามีศาสตร์การนวดมากกว่าการผ่อนคลายเพียงอย่างเดียว “
ในขณะเดียวกัน นางฉวีวรรณ คงสุข เจ้าของกิจการสปาเอเชียไทย เฮลท์ แอนด์ สปา เปิดเผยว่า “ สปาไทยสามารถแทรกเข้าไปในตลาดญี่ปุ่นภายหลังการเจรจา เอฟทีเอ ได้โดยไม่ยากนัก ที่ผ่านมาภาพรวมของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการสปาในประเทศไทยเรา ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวที่ชอบสปาแถบเอเชีย อัตราการเข้าใช้บริการ ฮ่องกงจะเป็นอันดับ 1 รองลงมาคือไต้หวัน และเกาหลี ส่วนที่เหลือจะเป็นยุโรปและออสเตรเลีย ดังนั้นถ้าหากการเจรจา เอฟทีเอ ทางด้านสปาประสบความสำเร็จ น่าจะส่งผลดีให้กับผู้ประกอบการไทยที่กำลังมองหาช่องทางการขยายตลาดไปยังประเทศญี่ปุ่น” นางฉวีวรรณกล่าวในที่สุด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
นริสา ชะมุนี , พิธิมา รัตนรังสิกุล
บริษัท นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด
โทร.0-2631-2290-5--จบ--