กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--ปตท.
หลังจากที่ได้พยายามรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศคงเดิมไว้ระยะหนึ่ง
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจรอบโลก ได้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีความผันผวนอยู่ในระดับสูงเช่นกัน ซึ่ง ปตท. ได้ชะลอการปรับราคาน้ำมันในประเทศไว้ระดับหนึ่ง ล่าสุดในวันนี้ (3 มี.ค.49) ราคาน้ำมันดิบดูไบขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 58.55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้น 1.75 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) น้ำมันสำเร็จรูปในตลาดสิงคโปร์ น้ำมันเบนซิน95 ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 67.95 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้น 1.64 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) ส่วนน้ำมันดีเซล มีการปรับตัวสูงขึ้นมาก อยู่ที่ระดับ 71.12 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้นถึง 3.94 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล)ในขณะที่ก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดได้มีการปรับตัวสูงขึ้นอยู่ก่อนแล้วถึงกว่า 3 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้ต้นทุนเนื้อน้ำมันโดยรวมได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ปตท. จึงมีความจำเป็นต้องพิจารณาปรับราคาน้ำมันขายปลีกเบนซินเพิ่มขึ้น 30 สตางค์/ลิตร และน้ำมันขายปลีกดีเซลเพิ่มขึ้น 40 สตางค์/ลิตร ทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (4 มี.ค.49) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ทำให้ราคาน้ำมันในเขต กทม. และปริมณฑลเป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ลิตร
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 95 26.74
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ 95 พลัส 25.24
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 25.94
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ ยูโร ทรี 25.09
น้ำมันพีทีทีไบโอดีเซล / น้ำมันดีเซล-ปาล์มบริสุทธิ์ 24.59
ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น มาจากความกังวลเกี่ยวกับการจัดหาปริมาณน้ำมันในไนจีเรีย อิหร่าน และประเทศผู้ผลิตน้ำมันในกลุ่มโอเปค อยู่ในภาวะชะลอตัว เนื่องจากข่าวกองกำลังปลดปล่อยใน Niger Delta ของไนจีเรีย ขู่จะโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันสำคัญต่อไป ซึ่งผลจากการโจมตีที่ผ่านมาทำให้กำลังผลิตน้ำมันดิบของประเทศลดลงประมาณ 20% หรือประมาณ 455,000 บาร์เรล/วัน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นอีกโดย ในวันที่ 6 มี.ค.ศกนี้ IAEA จะรายงานผลการดำเนินงานในอิหร่านต่อสหประชาชาติ ซึ่งอาจมีการคว่ำบาตรอิหร่าน ทำให้มีผลกระทบต่อปริมาณน้ำมันที่ส่งออกจากอิหร่าน และข่าวกลุ่มก่อการร้าย Al Qaeda ขู่โจมตีแหล่งผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางต่อไป
จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้นส่งผลต่อราคาน้ำมันสำเร็จรูปทุกชนิดได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามทันทีเช่นกัน ประกอบกับ IES ประกาศปริมาณสำรองน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลในสิงคโปร์ ปรับลดลง 558,000 บาร์เรล และ 286,000 บาร์เรล อยู่ที่ระดับประมาณ 9 ล้านบาร์เรล และ 7.27 ล้านบาร์เรล ตามลำดับ (สิ้นสุดวันที่ 1 มี.ค.49) ประกอบกับโรงกลั่นหลายแห่งเริ่มเข้าสู่ช่วงการปิดซ่อมบำรุงด้วย จึงทำให้ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปในภูมิภาคลดลง
ปตท. ขอยืนยันว่า พร้อมที่จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด โดยจะปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกให้แก่ผู้บริโภคทันทีที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลง และจะพยายามรักษาระดับราคาขายปลีกไว้ในระดับราคาเดิมให้นานที่สุดเท่าที่ ปตท. จะรับภาระแทนได้ ในกรณีที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นเฉกเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ขอให้ทุกท่านช่วยกันประหยัดอย่างจริงจังก็จะสามารถช่วยกันได้อีกทาง นายชัยวัฒน์ กล่าวในตอนท้าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ส่วนประชาสัมพันธ์ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน ปตท.
โทรศัพท์ 0 2537 2537, 2538--จบ--