กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--เอเซียฟิล์มพลัส
บริษัท เอเซียฟิล์มพลัส จำกัด ค่ายหนังใหม่ ร่วมกับการท่องเที่ยวมาเลเซียประจำกรุงเทพ จัดงานพบปะสื่อมวลชน metting เล็กๆ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับโปรเจคการสร้างภาพยนตร์เรื่อง an intimate Life ภาพยนตร์ไทย-มาเลเซีย ซึ่งใช้สถานที่ถ่ายทำ 5 เมืองแหล่งท่องเที่ยวในประเทศมาเลเซีย ได้แก่ กัวลาลัมเปอร์ ปีนัง มะละกา คาเมร่อน ไฮแลนด์ และเกาะลังกาวี โดยขณะนี้ภาพยนตร์ an intimate Life อยู่ระหว่างการเตรียมการ และจะเปิดกล้องคาดว่าจะเป็นในวันที่ 1 มิถุนายน นี้
นายธนกร บุญรัตน์ ประธานกรรมการบริษัท เอเซียฟิล์มพลัส จำกัด ได้กล่าวถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้สถานที่ถ่ายทำในประเทศมาเลเซีย เพราะมาเลเซียเป็นประเทศที่มีความน่าสนใจในแง่ของชีวิต ความเป็นอยู่ ซึ่งคล้ายกับคนไทยมาก นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจหลายแห่ง โดยส่วนตัวก็เป็น Artist และเคยไปแสดงงานศิลปะที่มาเลเซีย มีเพื่อนฝูงมากมายในมาเลเซีย ทำให้ใกล้ชิดและมองเห็นชีวิตของคนมาเลเซียเป็นอย่างดี
"ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแบบ Drama ผสมกับแบบ Love Story เป็นโปรเจคหนังข้ามชาติไทย-มาเลเซีย เรื่องแรก ได้ผู้กำกับฝีมือดีอย่างดุลยสิทธิ์ นิยมกุล และตากล้อง คุณสุทธิพงษ์ กองทอง ตากล้องจากสะบายดีหลวงพะบาง มาร่วมโปรเจค ได้นักแสดงนำในเรื่องนี้ คือ ชาคริต แย้มนาม"
"ภาพยนตร์เรื่องนี้จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนไทยและคนมาเลเซียที่มีมาก่อน ให้เกิดความแน่นแฟ้นขึ้น เป็นเรื่องราวของชีวิต ครอบครัวของไทย-มาเลเซีย วัฒนธรรมที่ดีต่างๆ จะถูกถ่ายทอดผ่านทางตัวละคร อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศมาเลเซียโดยเฉพาะ 5 เมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก"
คุณอิสกันดา เมียร์ซา โมฮัมหมัด ยูโซป ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวมาเลเซีย สำนักงานกรุงเทพ กล่าวเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ว่า "ขอขอบคุณเอเซียฟิล์มพลัส ที่ได้ผลิตภาพยนตร์ไทยเรื่อง an intimate Life และเข้าไปถ่ายทำในประเทศมาเลเซีย และคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะช่วยส่งเสริมให้การท่องเที่ยว
มาเลเซีย โดยเฉพาะ 5 สถานที่ที่เป็นที่รู้จัก แต่ละเมืองก็มีความโดดเด่นที่ไม่เหมือนกันเป็นโอกาสอันดีที่ทางคนไทยจะได้เห็นแต่เมืองมีอะไรที่เป็นเอกลักษณ์ "
"หวังเป็นอย่างยิ่งว่า หลังจากภาพยนตร์ที่ได้ออกฉายไปแล้ว จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยไปเที่ยวมากขึ้นกว่าเดิม และเนื่องด้วยประเทศมาเลเซียมีวัฒนธรรมหลายเชื้อชาติ ก็ในภาพยนตร์ก็จะเป็นโอกาสที่ผู้ชมจะได้มองเห็นความสามัคคีของคนหลายเชื้อชาติ ต่างเชื้อชาติต่างวัฒนธรรม แต่ก็สามารถจะอยู่ด้วยกันได้" ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวมาเลเซีย กล่าวเสริม
นอกจากนี้ นายทรงธรรม โชติพิมพ์ กรรมการบริหารบริษัทเอเซียฟิล์มพลัส จำกัด กล่าวทิ้งท้ายถึงภาพของเอเซียฟิล์มพลัสว่า "เอเซียฟิล์มพลัส ถือเป็นค่ายหนังใหม่ ที่มีแนวคิดมีเป้าหมาย ตลอดจนการส่งเสริมอุตสาหกรรมหนังไทยสู่ตลาดต่างประเทศ และเราหวังว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะสามารถตอบโจทย์หรือตรงกับเป้าหมายของเรา ทั้งนี้สำหรับเอเซียฟิล์มพลัส มีเป้าหมายจะผลิตภาพยนตร์ไทยประมาณปีละ 2 เรื่องด้วยกัน"