กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--กทม.
สภากทม.ศึกษาสร้างเตาเผาขยะต้นแบบภูเก็ต สามารถกำจัดขยะได้ 300 ตันต่อวัน และนำไปใช้ผลิตก๊าซหรือไฟฟ้าเพื่อประหยัดพลังงาน ธรรมชาติ พร้อมเล็งอ่อนนุช หนองแขม ท่าแร้ง สร้างเตาเผาขยะกำจัดขยะตั้งงบ 900 ล้านต่อแห่ง เตรียมสรุปเสนอสภาอนุมัติก.ค.นี้
นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตจอมทอง ในฐานะประคณะกรรมการวิสามัญ ศึกษาความเป็นไปได้ และผลกระทบ จากการกำจัดขยะมูลฝอยโดยวิธีการเผา กล่าวถึงความคืบหน้าการศึกษาก่อสร้างเตาเผาขยะในพื้นที่กทม.ว่า คณะกรรมการฯได้เดินทางไปดูต้นแบบเตาเผาขยะที่จังหวัดภูเก็ตซึ่งมีระบบการกำจัดขยะโดยใช้เตาเผาขยะมาเป็นระยะเวลา 8 ปีแล้ว ซึ่งในการก่อสร้างเตาเผาขยะใช้งบประมาณ จำนวน 877 ล้านบาท และสามารถเผาขยะได้ถึงวันละ 300 ตัน จากการศึกษาต้นแบบดังกล่าว พบทั้งข้อดี-ข้อเสียซึ่งน่าจะนำมาปรับใช้กับกทม.ได้ เบื้องต้นคณะกรรมการฯมีความเห็นว่า จะยึดต้นแบบการก่อสร้างเตาเผาขยะของจังหวัดภูเก็ตมาใช้ในการก่อสร้างเตาเผาขยะในพื้นที่กทม. ซึ่งจะศึกษาจุดเด่น-จุดด้อยอย่างละเอียดเพื่อนำประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ของกทม.มากที่สุด โดยขยะแห้งจะใช้เตาเผาขยะตามต้นแบบ แต่ในส่วนของขยะเปียกจะผ่านกระบวนการทำให้เป็นขยะแห้ง ก่อนนำเข้าสู่ระบบการเผาหรือนำไปใช้ประโยชน์ผลิตก๊าซหรือไฟฟ้าต่อไป อย่างไรก็ดีคณะกรรมการฯก็ยังได้ประสานขอรูปแบบและราคาของการทำเตาเผาขยะในต่างประเทศด้วยว่ามีประเทศใดที่มีวิธีการกำจัดขยะได้เป็นอย่างดี เพื่อที่จะหาวิธีการที่เหมาะกับที่สุด ซึ่งปัจจุบันกทม. มีปริมาณขยะถึง 10,000 ตัน/วัน แต่ยังคงใช้วิธีฝังกลบและยังไม่มีการดำเนินการสร้างเตาเผาขยะอย่างเป็นรูปธรรม ในส่วนการหาพื้นที่เหมาะสมในการก่อสร้างเตาเผาขยะคณะกรรมการฯมีความเห็นว่าจะใช้สถานที่ 3 แห่ง ได้แก่ หนองแขม อ่อนนุช สายไหม (ท่าแร้ง) ซึ่งเป็นพื้นที่ทิ้งขยะเดิมของกทม.ซึ่งจะลดต้นทุนในการจัดซื้อที่ดิน โดยรายละเอียดนั้นคาดว่าจะสร้างเตาเผาขยะขนาด 300 ตัน/วัน งบประมาณ จำนวน 900 ล้านบาทต่อ 1 แห่ง คาดจะสามารถสรุปผลการศึกษาและรูปแบบนำเสนอที่ประชุมสภาสมัยหน้าในเดือนกรกฎาคม 2552 หากผ่านความเห็นชอบแล้วสามารถดำเนินการก่อสร้างได้ทันที ตามกระบวนการจัดจ้างโดยจะประชาสัมพันธ์บริษัทรับเหมาก่อสร้างเพื่อทำการประมูลการก่อสร้างต่อไป