กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--ปตท.
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ตลาดขายปลีกหน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุด (วันที่ 13 พ.ค.52) ราคาน้ำมันดิบดูไบขึ้นมาอยู่ที่ 57.45 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้น 3.28 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) น้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์เบนซิน 95 อยู่ที่ 66.51 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้น 2.72 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 64.59 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้น 3.20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) ส่งผลให้ค่าการตลาดเฉลี่ยเหลือเพียง 0.97 บาท/ลิตร ปตท. จึงจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและกลุ่มดีเซลขึ้น 60 สตางค์/ลิตร ยกเว้นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 โดยการปรับราคาครั้งนี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในกรุงเทพฯ และปริมณฑลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.52) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป เป็นดังนี้
น้ำมัน หน่วย : บาท/ ลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 (พีทีที E 85 พลัส) 18.02
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 (พีทีที E 20 พลัส) 24.64
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95) 26.94
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91) 26.14
น้ำมันเบนซิน 91 (พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91) 30.74
น้ำมันไบโอดีเซล (พีทีที B5 พลัส) 20.99
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (พีทีที เดลต้า เอ็กซ์) 23.99
การปรับขึ้นราคาขายปลีกครั้งนี้ เป็นผลจากการที่ต้นทุนราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับสูงขึ้น จากปัจจัยความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจที่สะท้อนผ่านตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้ และรวมถึงดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจ เช่น อัตราว่างงานรายเดือนของสหรัฐฯ ที่ลดลง และผลการทดสอบศักยภาพระบบธนาคารในสหรัฐฯ อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ในขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศจีน ทำให้นักวิเคราะห์ประเมินว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศจีน ปี 2552 จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8.7% อยู่ที่ 10.2 ล้านคัน นอกจากนี้ International Energy Agency ปรับลดคาดการณ์ Non OPEC Supply ลงอีก 500,000 บาร์เรล/วัน (ลดลงทั้งสิ้น 1.7 ล้านบาร์เรล/วัน) ปัจจัยดังกล่าวล้วนส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันได้ นายวิทยา กล่าวในตอนท้าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายสื่อสารองค์กร ปตท.
โทรศัพท์ 0 2537 2538
โทรสาร 0 2537 2538