กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--ก.พลังงาน
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานการสัมมนาโครงการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในอาคารโดยการติดฉลาก และมอบฉลากอาคารอนุรักษ์พลังงาน โดยมีบ้านและอาคารที่ก่อสร้างแล้วเสร็จผ่านการประเมินและได้รับการติดฉลากจำนวน 19 แบบ คิดเป็นบ้านและอาคารจำนวน 500 หน่วย สามารถประหยัดพลังงานรวมปีละ 16 ล้านหน่วย/ปี คิดเป็นเงิน 48 ล้านบาท/ปี
นายแพทย์วรรณรัตน์กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นการมุ่งหวังที่จะให้อาคารที่ได้รับการติดฉลาก เป็นกลไกการตลาดในระยะยาวที่จะมีส่วนในการอนุรักษ์พลังงาน อย่างยั่งยืน ซึ่งในปีนี้ มีผู้ที่ผ่านการประเมินและได้รับฉลากอาคารอนุรักษ์พลังงาน ถึง 19 แบบ โดยศูนย์การค้าเซ็นทรัลสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานจากการออกแบบอาคารใหม่ ทั้งสาขาแจ้งวัฒนะและสาขาพัทยา รวมกันถึง 34.35 ล้านบาท/ปี ซึ่งในขณะที่อาคารค้าสากลซีเมนต์ไทยและอาคารสำนักงานใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย เป็นรายแรกที่ได้รับฉลากทองด้านอาคารสำนักงาน ซึ่งเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ ยังมีผู้ที่ได้รับฉลากอีกหลายแห่งด้วยกัน ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย สาขากระทุ่มแบน และสาขาแก่งคอย ,บ้านแมกโนเลีย Type SUSANA , ทาวน์โฮม FANTASIA แบบ C , บ้านปทุมดีไซน์ (แบบ PS595 ,PS599, PS603) ,บ้านเลขที่ 84(บ.อีโค่เฮาส์ จำกัด),อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำหรับโครงการศุภาลัย วิลล์ ได้รับฉลากถึง 5 แบบ คือ แบบบ้านศุภพัฒน์(ใหม่), แบบบ้านศุภนุช พิเศษ,แบบบ้านศุภวรรณา,แบบบ้านศุภิวัฒน์ และแบบบ้านศุภดรัล(ใหม่) ซึ่งบ้านทั้ง 5 แบบ ได้มีการนำไปก่อสร้างขยายผลอีก 495 หลัง ด้วยกัน
“ต้องขอยกย่องเจ้าของอาคารต่างๆที่เข้าร่วมโครงการ โดยเฉพาะอาคารเก่า ซึ่งการดำเนินการแก้ไขปรับปรุงนั้น ทำได้ยากและมีข้อจำกัดมากกว่าอาคารใหม่ที่สามารถแก้ไขได้ตั้งแต่ขณะขั้นตอนการออกแบบ อย่างไรก็ตามอาคารทุกหลังที่ได้เข้าร่วมโครงการ จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้ถึง 15% ขึ้นไป และยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกอาคารอีกด้วย” นายแพทย์วรรณรัตน์กล่าว
นายพานิช พงศ์พิโรดม อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า ฉลากอาคารจะเป็นเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์แสดงถึงคุณภาพของอาคารและบ้าน ซึ่งจะเป็นแรงจูงใจให้ผู้บริโภคยอมรับและตันสินใจซึ้อบ้านหรืออาคารได้ง่ายขึ้น ดังนั้น พพ. จะมีการติดตามและประเมินผลการดำเนินการที่ผ่านมาเพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในอาคารโดยการติดฉลากให้มีความเข้มข้นขึ้นในปี 2553 ซึ่งคาดว่าจะสามารถประหยัดพลังงานได้นับ 1,000 ล้านบาทต่อปี