กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--ก.ไอซีที
กระทรวงไอซีทีจับมือเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง ผุดไอซีทีชุมชนเพิ่มเป็น 260 แห่งทั่วประเทศ หวังพัฒนาคน สร้างงาน วางแผนการตลาดสินค้าชุมชน และส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้มีชีวิตชีวาในช่วงเศรษฐกิจขาลง เผยหลังประชาชนคืนถิ่นเหตุถูกเลิกจ้างมีคนสมัครเข้าโครงการคึกคัก
ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน และการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ และนโยบาย “ยุทธศาสตร์แห่งการกระจายโอกาสและการร่วมสร้างสังคมความรู้เพื่อการพัฒนาชนบทอย่างยั่งยืน” ว่า กระทรวงไอซีที มีนโยบายที่จะกระจายความรู้ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ไปสู่ชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อลดช่องว่างในการเข้าถึง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยเน้นการจัดตั้งในพื้นที่ชนบทที่อยู่ห่างไกล เพื่อกระจายโอกาสให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ชาวบ้านและเด็ก เยาวชน ในท้องถิ่นนั้น ๆ ได้ใช้เป็นแหล่งสืบค้นข้อมูลความรู้ที่เป็นภูมิปัญญา ข้อมูลประกอบอาชีพ และเป็นช่องทางในการแสวงหาตลาดเพื่อจำหน่ายสินค้าชุมชน และเสริมสร้างรายได้ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ประโยชน์ในการติดต่อสื่อสารกับสถานพยาบาล สถานีอนามัย เพื่อช่วยให้บริการด้านสาธารณสุขแก่ประชาชนที่อยู่ห่างไกล
ด้วยเหตุนี้จึงได้ร่วมกับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จัดตั้งศูนย์ไอซีทีชุมชนเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 260 ศูนย์ รวมถึงจำนวนศูนย์เครือข่ายของภาคเอกชนอีก 6 ศูนย์ ทำให้สำนักส่งเสริมและพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศฯ ได้ใช้โอกาสของการมีศูนย์การเรียนรู้กระจายไปทั่วประเทศ ควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพของประชาชนในด้านไอซีทีให้สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานและการดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านนายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงไอซีที กล่าวว่า หลายจังหวัดที่มีการจัดตั้งศูนย์ไอซีทีชุมชนได้รับความสนใจอย่างมากจากประชาชน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเศรษฐกิจถดถอย หลายคนถูกเลิกจ้างต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา ซึ่งคนเหล่านี้สนใจเข้าร่วมอบรมการใช้คอมพิวเตอร์และการสร้างเว็ปไซต์ด้วยตัวเองกันอย่างคึกคัก ทั้งนี้เพื่อเป็นช่องทางในการขยายตลาดสินค้าชุมชน ตลอดจนถึงธุรกิจการท่องเที่ยวของแต่ละพื้นที่เพื่อดึงดูดให้คนมาท่องเที่ยวและซื้อสินค้า ซึ่งถือเป็นโครงการที่สามารถพัฒนาคน สร้างงาน สร้างเงิน ได้อย่างดี
สำหรับโครงการไอซีทีชุมชนนั้น เริ่มขึ้นมาตั้งแต่ปี 2550 สร้างพื้นที่เล็กๆ ในชุมชน 20 แห่ง ให้มีโอกาสการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยกระทรวงฯ ได้ส่งมอบศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชนให้แก่ชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยให้ตัวแทนหรือผู้นำชุมชนกรอกแบบสอบถาม และส่งกลับมาตามที่อยู่ในเอกสาร จากนั้นทางกระทรวงฯ จะพิจารณาจากข้อมูลที่ตอบกลับมา และลงพื้นที่สำรวจชุมชนนั้น ๆ ต่อไป ชุมชนที่ผ่านการประเมินผลจากการลงพื้นที่สำรวจความพร้อมในชุมชน จะได้รับการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชน ในปีถัดไป
สำหรับเกณฑ์ในการคัดเลือกนั้น กระทรวงจะคัดเลือกชุมชนที่มีความพร้อมใน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านสถานที่ บุคลากร งบประมาณ ด้านข้อมูลองค์ความรู้ และด้านวิสัยทัศน์การมีส่วนของชุมชน และผู้นำ โดยไอซีทีต้องการทำเป็นโครงการแม่แบบให้กับองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่น เช่น เทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด และองค์การบริหารส่วนตำบล เข้ามาช่วยจัดสรรงบประมาณเพื่อนำไปขยายผลในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เป็นการต่อยอดการลงทุนของกระทรวง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ศูนย์ยั่งยืน คือ การมีส่วนร่วมของชุมชนที่จะช่วยกันดูแล บริหารจัดการ สร้างกิจกรรมภายในศูนย์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ชุมชน