กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--สมาคมสถาปนิกสยามฯ
สมาคมสถาปนิกสยามฯ ย้ำรัฐผลักดันการจ้างงาน ต้องควบคู่กับการเสริมมาตรฐานควบคุมความปลอดภัย หวั่นเกิดเหตุการณ์รุนแรงกว่านั่งร้านถล่มย่านแคราย
สมาคมสถาปนิกสยามฯ ตอกย้ำภาครัฐ หากเร่งเพิ่มให้มีการจ้างงาน ต้องเสริมมาตรฐานการควบคุมความปลอดภัยในระบบการก่อสร้างควบคู่ไปด้วย หวั่นเกิดเหตุการณ์รุนแรงยิ่งกว่านั่งร้านถล่มย่านแคราย และจะก่อให้เกิดการสูญเสียภาพลักษณ์ในแวดวงการก่อสร้างระดับนานาประเทศ พร้อมกันนี้สมาคมฯ เตรียมดึงมือจากหลายฝ่ายผลักดันองค์ความรู้แก่แรงงาน เจ้าของอาคาร และผู้เกี่ยวข้องอย่างทั่วถึงอีกด้วย
นายทวีจิตร จันทรสาขา นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่าจากเหตุการณ์นั่งร้านก่อสร้างอาคารโรงภาพยนตร์ ดิ เอสพลาดนาด ย่านแคราย พังถล่มลงมาจนมีผู้เสียชีวิตนั้น ในฐานะที่สมาคมฯ ถือเป็นส่วนหนึ่งของแวดวงการก่อสร้าง ที่ผลักดันการสร้างมาตรฐานคุณภาพงานสถาปัตยกรรมต่างๆ มาโดยตลอด จึงมีแนวคิดในการช่วยเหลือ และเสาะแสวงหาแนวคิด การป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่ให้เกิดการณ์ซ้ำรอย พร้อมผลักดันให้ทุกฝ่ายใส่ใจถึงคุณภาพการให้ความรู้ความสามารถมาตรฐานแรงงานไทยอย่างครอบคลุมและทั่วถึง
ปัจจุบันแรงงานไทยถูกลดคุณภาพจากสายตานานาประเทศเพิ่มมากขึ้น เนื่องมาจากเหตุการณ์ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ถึงมาตรฐานความปลอดภัย ฝีมือของแรงงาน และการควบคุมดูแลการก่อสร้างที่ไม่สามารถวัดผล และตรวจสอบได้อย่างจริงจัง สมาคมจึงอยากผลักดันให้ภาครัฐ ออกมามีบทบาททางด้านการเสริมมาตรฐานการควบคุมความปลอดภัยการก่อสร้างให้มากขึ้น หยุดการผลักดันให้เกิดแต่เพียงการจ้างงานเท่านั้น เพราะนอกจากจะนำพาพวกเขาเหล่านี้มาพบความสูญเสียแล้ว ยังก่อให้เกิดการสูญเสียความน่าเชื่อถือ และภาพลักษณ์ที่ดีต่อสายตานานประเทศอีกด้วย
การควบคุมระบบการออกแบบก่อสร้างอาคารนั้นมีมายาวนาน และเกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตรงข้ามกับการควบคุมดูแลความรู้ความสามารถของบุคลากรผู้ควบคุมงาน ผู้ปฏิบัติงาน หรือแรงงานก่อสร้าง ที่ถูกละเลยการพัฒนามาตรฐาน และพัฒนาระบบแรงงานองค์ความรู้อย่างทั่วถึง ให้สามารถวัดผลและตรวจสอบได้ ทัดเทียมกับนานาประเทศ ซึ่งหากมีการรุกขึ้นร่วมมือกันมาเอาจริงเอาจังเรื่องดังกล่าว ไม่เพียงแต่จะเป็นการส่งเสริมให้กลุ่มผู้ควบคุมการก่อสร้างอาคาร วิศวกร เจ้าหน้าที่ หรือเจ้าของอาคารที่ทำดี ได้มีกำลังใจในการสร้างสรรค์โครงการก่อสร้างที่ดี และรักษามาตรฐานของงานที่ดีสืบต่อไปแล้ว สมาคมฯ เชื่อว่าแรงงานของไทย ก็จะได้รับการรู้จัก มีความน่าเชื่อถือ และเป็นที่ยอมรับจากมาตรฐานระดับชาติในอนาคต
นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังพร้อมที่จะเปิดโอกาสอธิบายถึงรายละเอียดและแนวคิดการผลักดันนโยบายการสร้างมาตรฐาน และแนวทางแก้ไขปัญหาด้านแรงงาน เพื่อป้องกันมิให้ปัญหารุกราม และเพื่อเป็นการพัฒนาประเทศที่ดี