TEAM ทำรายได้ Q1/52 ตามคาด แต่ต้องตั้งสำรองสินค้าลูกค้ารายหนึ่งในแคนาดา

ข่าวเศรษฐกิจ Monday May 18, 2009 10:19 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--ออนไลน์ แอสเซ็ท TEAM ทำกำไรขั้นต้นไตรมาสแรก/2552 35 ลบ. หรือ 10%ซึ่งได้รวมการตั้งสำรองและการปรับรายการขายสำหรับลูกค้ารายหนึ่งในแคนนาดา เป็นจำนวนเงิน 19 ลบ.ทั้งนี้หากไม่รวมผลกระทบจากรายการนี้ TEAM จะมีกำไรขั้นต้น 54 ลบ. หรือ 15.6% เปรียบเทียบกับ 56 ลบ. หรือ 18% ในปีก่อน"ริช ฟิทเจอรัล" ระบุหลังจากนี้ดูแลหนี้-สินเชื่ออย่างใกล้ชิด พร้อมเดินหน้าเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างไปจากเดิม ล่าสุดโชว์ออเดอร์ในมือแล้ว 992 ลบ. จากปีก่อนที่ทำได้ 868 ลบ. ทำให้มั่นใจปีนี้รายได้โตสวนเศรษฐกิจที่ชะลอตัวได้สำเร็จ นายริช ฟิทเจอรัล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีมพรีซิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TEAM เปิดเผยถึงผลประกอบประจำไตรมาสแรกของปี 2552 งวดสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2552 ว่าบริษัทมียอดรายได้รวม 344 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากรายได้รวมของไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้าร้อยละ 12.7 โดยยอดรายได้ที่เพิ่มในไตรมาสนี้ เป็นการเพิ่มจากตลาดยุโรปเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 54 ของยอดขายในไตรมาส 1/2552 เปรียบเทียบกับร้อยละ 40 ของยอดขายในไตรมาส 1/2551 ของปีก่อนและชดเชยกับสัดส่วนที่ลดลงของตลาดในภูมิภาคอเมริกากับเอเชีย นอกจากนั้นด้วยกลยุทธในการเจาะตลาดใหม่ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯสามารถส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้ารายใหม่ได้ในไตรมาสนี้ ส่งผลให้ผลประกอบการในไตรมาส1/2552 บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้น 54 ล้านบาทหรือร้อยละ 15.6 เปรียบเทียบกับ 56 ล้านบาทหรือร้อยละ 18 ของไตรมาสเดียวกันในปีก่อน(1/2551) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในไตรมาสนี้ บริษัทฯ ได้บันทึกรายการตั้งสำรองเผื่อตามหลักของความระมัดระวัง สำหรับสินค้าคงเหลือและการปรับรายการขายสำหรับลูกค้ารายหนึ่งในแคนาดา จากที่ลูกค้าประสบปัญหาทางการเงินและไม่สามารถจ่ายชำระค่าสินค้าได้เป็นจำนวนเงินรวม 19 ล้านบาทจึงส่งผลต่อกำไรขั้นต้นของบริษัทฯในไตรมาสแรกของปีนี้ให้อยู่ที่ระดับ 35 ล้านบาทหรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 10 ของรายได้จากการขาย สะท้อนให้บริษัทฯมีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ 3 ล้านบาทหรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 0.9 ของรายได้จากการขาย ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับผลประกอบการของไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิ 10 ล้านบาทหรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ร้อยละ 3.4 ของรายได้จากการขาย เนื่องมาจากผลกระทบจากปัญหาลูกค้าดังกล่าวข้างต้น และหากไม่คำนึงถึงรายการปรับปรุงเฉพาะดังกล่าวกำไรสุทธิในไตรมาสนี้จะเป็น 22 ล้านบาทหรือ ร้อยละ 6.4 นายริช กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน บริษัทฯยังคงมุ่งมั่นในการบุกเจาะหาตลาดอย่างเช่น ตลาดสินค้าเฉพาะทาง(Niche market) ซึ่งอาจไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาวะเศรษฐกิจมหภาคและการยกระดับฐานการผลิตของบริษัทให้ไปสู่ระดับมาตรฐานโลก และด้วยภาวะความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นของกลุ่มลูกค้าต่างประเทศได้ บริษัทจึงได้มีการเน้นมาตรการควบคุมการให้สินเชื่อแก่ลูกค้า การติดตามการชำระเงินทั้งลูกค้าปัจจุบันและลูกค้ารายใหม่อย่างใกล้ชิด นอกเหนือการปรับปรุงประสิทธิภาพทั้งการผลิตและควบคุมค่าใช้จ่าย โดยพยายามปรับให้สอดคล้องกับสภาวะของธุรกิจและรองรับการเติบโตของธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางการเติบโตของธุรกิจนี้ แต่สำหรับ ทีมพรีซิชั่น ที่ผ่านมาได้มีการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่แท้จริงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มั่นใจว่าในปีนี้บริษัทฯ จะยังคงผลักดันรายได้ให้เติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาได้ “ในปีที่ผ่านมา “ทีมพรีซิชั่น” มีการกำหนดวิสัยทัศน์ มุ่งเป็นผู้ประกอบการให้บริการผลิตและประกอบสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ระดับมาตรฐานสากลที่ลูกค้าเลือกใช้บริการเป็นอันดับแรก และได้ปรับกลยุทธ์รวมทั้งทิศทางการขยายธุรกิจ หลายส่วนเพื่อปูทางให้ธุรกิจเติบโตอย่างโดดเด่นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งสำนักงานในต่างประเทศ คือ สิงคโปร์ และเดนมาร์ก เพื่อแสวงหาแหล่งวัตถุดิบที่มีราคาถูกจากทั่วโลกมีผลต่อการลดต้นทุนการผลิต การเสริมทีมบริหารให้มีความแข็งแกร่งขึ้น ด้วยการดึงมืออาชีพมาร่วมในทีมบริหาร รวมทั้งการตั้งทีมการตลาด และทีมขายในต่างประเทศนอกจากนั้น ยังได้ขยายฐานลูกค้าเข้าสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพื่อปรับสัดส่วนรายได้ลดการพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่ลง จากเดิมที่รายได้จากกลุ่มลูกค้ารายใหญ่สูงถึง 80% ของรายได้ ก็ปรับลงมาเหลือ 70% และคาดว่าจะลดลงอีกในปีนี้ เพราะมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอีก" นายริชกล่าวอีกว่า สำหรับส่วนของโรงงานการผลิตนอกจากจะขยายพื้นที่เพื่อให้รองรับงานของลูกค้าได้เพิ่มขึ้นแล้ว ยังได้มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเพื่อให้สามารถผลิตสินค้าใหม่ลงตลาดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อลูกค้าโดยตรง ในขณะเดียวกันยังนำเทคโนโลยีเรื่องการบริหารคลังสินค้าเข้ามาใช้ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งบริการที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า นอกจากนั้น ยังนำทั้งโรงงานการผลิต และส่วนการผลิตสินค้าต่างๆ เข้าสู่มาตรฐานระดับโลกด้วย เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ และการปรับปรุงการให้บริการทั้งหมด พบว่าได้รับการตอบรับในทิศทางที่ดีจากลูกค้า และเชื่อว่าผลจากการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจดังกล่าวจะเห็นได้อย่างชัดเจน จากผลประกอบการที่มีทิศทางดีขึ้น ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่คลี่คลาย สำหรับแผนงานในปีนี้ TEAM จะมุ่งสานต่อการขยายฐานลูกค้าให้ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะตลาดกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ที่เป็นสินค้านวัตกรรมใหม่ (Innovative electronic) เนื่องจากผู้ประกอบการในกลุ่มนี้ต้องมีการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง ตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งนอกจากจะขยายฐานลูกค้าแล้ว ยังสอดคล้องกับนโยบายลดความเสี่ยงจากพึ่งพากลุ่มลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งตามนโยบายใหม่ของบริษัทฯด้วย ส่วนการขยายตลาดใหม่ในปีนี้วางแผนจะเปิดตลาดสู่ประเทศอินเดียเป็นครั้งแรก เนื่องจากพบว่าตลาดยังมีศักยภาพการเติบโตสูง และจากการมุ่งมั่นทำงานของทั้งผู้บริหารและพนักงานในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2552 TEAM มีคำสั่งซื้อที่ส่งมาจากลูกค้ามากถึง 992 ล้านบาท ซึ่งสูงขึ้นชัดเจนเมื่อเทียบกับปีก่อนที่ทำได้เพียง 868 ล้านบาท จึงทำให้มั่นใจว่าในปีนี้จะสามารถผลักดันรายได้ให้เติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 1,456 ล้านบาทได้สำเร็จ โดยอัตราการเติบโตคาดว่าจะสูงกว่าการเติบโตของตลาดรวมที่คาดว่าจะขยายตัวในอัตราประมาณ 7-8% ได้อย่างแน่นอน แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะยังไม่ฟื้นตัวก็ตาม ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : คุณวสรา โชติธรรมรัตน์ ส่วนนักลงทุนสัมพันธ์ 02-5772350 ต่อ 106

แท็ก แคนนาดา  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ