กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--บลจ.ไทยพาณิชย์
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ บริษัทฯ ได้เปิดขายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศพร้อมกัน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้นและเงินฝากสกุลเงินออสเตรเลีย (SCBAUD)มูลค่ากองทุน 5,000 ล้านบาท เสนอขายตั้งแต่ 18 - 25 พ.ค.2552 ลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท นอกจากนี้ ยังจะเปิดขายกองทุนเพื่อลงทุนในประเทศเกาหลีใต้อีก 2 กองทุน ระหว่าง 19 - 25 พ.ค. 2552 ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ฟอร์เรนโนท 1Y15 (SCBFRN1Y15)อายุประมาณ 1 ปี ขนาดกองทุน 3,500 ล้านบาท และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ฟอร์เรน โนท 9M1 (SCBFRN9M1) อายุประมาณ 9 เดือน ขนาดกองทุน 1,500 ล้านบาท จองซื้อขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท
นางโชติกากล่าวว่า จุดเด่นของกองทุน SCBAUD อยู่ที่นักลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอในรูปเงินออสเตรเลียดอลลาร์ และยังมีสภาพคล่องสูงเนื่องจากสามารถซื้อขายสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ จึงเหมาะกับผู้ต้องการกระจายความเสี่ยงไปยังต่างประเทศและต้องการความมั่นคงในเงินต้นสกุลออสเตรเลียดอลลาร์ ตลอดจนผู้ที่มีภาระค่าใช้จ่ายเงินสกุลดังกล่าวในอนาคต โดยกองทุนจะมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นชั้นดีสกุลเงินออสเตรเลียดอลลาร์ เช่น T-Bill, ECP, Money Market Fund ในสัดส่วน 55-60% ส่วนที่เหลือประมาณ 40-45% จะลงทุนในเงินฝากระยะสั้นสกุลเงินออสเตรเลียดอลลาร์ทั้งในและต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ ที่ได้รับการค้ำประกันเงินฝากจากรัฐบาล และได้รับการจัดอันดับจากสถาบันจัดอันดับชั้นนำทั้งมูดดี้ส์ เอสแอนด์พี และ ฟิทซ์ เรตติ้ง ว่ามีความน่าเชื่อถือสูงกว่าประเทศไทย โดยบริษัทฯไม่ได้ทำการป้องกันความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน
“ปัจจุบันสภาวะเศรษฐกิจของออสเตรเลียมีสัญญาณที่ดีขึ้น เนื่องจากความมั่นใจของผู้บริโภคและนักธุรกิจกำลังฟื้นตัว ขณะที่ค่าเงินออสเตรเลียดอลลาร์ เริ่มมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรและเงินเยนตั้งแต่ต้นปี 2552 โดยอัตราดอกเบี้ยของประเทศออสเตรเลียอยู่ที่ประมาณ 3% ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ” นางโชติกา กล่าว
สำหรับกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ฟอร์เรนโนท 1Y15 และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ฟอร์เรน โนท 9M1 จะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรธนาคารแห่งชาติเกาหลีใต้เท่านั้น ซึ่งถือเป็นตราสารหนี้ที่มีคุณภาพและให้ผลตอบแทนดีกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก และยังได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือสูงกว่าประเทศไทยเช่นกัน โดยบริษัทฯได้ทำการซื้อขายสัญญาล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวนทั้ง 2 กองทุน และจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติเพียงครั้งเดียวเมื่อครบอายุกองทุน
“ขณะนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ฟื้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า เกาหลีใต้พ้นจุดต่ำสุดมาแล้ว เนื่องจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว ขณะที่ภาคส่งออกได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และค่าเงินวอนมีแนวโน้มแข็งค่ามากขึ้น ประกอบกับเงินสำรองระหว่างประเทศตัวที่เพิ่มขึ้น” นางโชติกากล่าวในที่สุด
สำหรับ ผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา หรือ บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด โทร.02-626-2222