กรุงเทพฯ--19 พ.ค.--กทม.
ในหลวงทรงห่วงน้ำท่วมพื้นที่กรุงเทพตะวันตก เนื่องจากมีแก้มลิงเพียงแห่งเดียว ส่วนฝั่งตะวันออกสามารถจัดการได้ ส่วนกทม.รุดเข้าหารือองคมนตรีและเลขาธิการ กปร.แลกเปลี่ยนข้อมูลของแต่ละหน่วยงานให้เข้าใจร่วมกัน พร้อมประสานบริหารน้ำลุ่มเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิด หลังพบฝนตกมากกว่าค่าเฉลี่ย 30 ปี ในช่วง ม.ค.-ปัจจุบัน
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการเข้าหารือกับองคมนตรีและเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำในปี 52 ว่า มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลของแต่ละหน่วยงานให้เข้าใจร่วมกัน ทั้งในส่วนของ กทม. กรมชลประทาน และหน่วยงานอื่น โดย กทม.ได้รายงานการดำเนินโครงการแก้มลิงพระราชดำริให้ทราบ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริว่า การจัดการน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากมีแก้มลิง 2 แห่ง คือ บึงมะขามเทศ และบึงสะแกงามสามเดือน สามารถรองรับน้ำจากน้ำฝนและน้ำเหนือได้เพียงพอ แต่ที่น่าห่วงคือพื้นที่ฝั่งตะวันตกที่มีบึงเพียงแห่งเดียวคือ คลองสนามชัย-มหาชัย อีกทั้งภูมิประเทศของคลองในพื้นที่ตะวันออกยังมีคลองขวางการไหลของน้ำจากบนลงล่าง ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำลงทะเลได้อย่างสะดวก
นอกจากนั้นพบว่า ปริมาณฝนปีนี้มากกว่าค่าเฉลี่ย 30 ปี ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยตั้งแต่เดือน ม.ค.-18 พ.ค.52 ปริมาณน้ำฝนเป็น 2 เท่าของปริมาณค่าเฉลี่ย 30 ปี อีกทั้งยังมากกว่าครึ่งหนึ่งของค่าเฉลี่ยปริมาณฝนปี 51 ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาฝนที่ตกหนักทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ แต่ กทม.ได้เข้าแก้ไขโดยเร็ง พร้อมสั่งการสำนักการระบายน้ำให้ดูแลการลอกท่อ ลอกคูคลองเปิดทางน้ำไหล ทั้งนี้จากการรายงานการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาจะมีฝนตกหนักในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย.52
ผู้ว่าฯ กทม. กล่างอีกว่า กทม.จะร่วมมือและประสานข้อมูลกับจังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร และกรมชลประทานอย่างใกล้ชิด เพื่อการบริหารจัดการลุ่มน้ำเจ้าพระยาอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งจะเร่งหาพื้นที่จัดทำแก้มลิงเพื่อรองรับน้ำเพิ่มขึ้นให้เพียงพอด้วย