กรุงเทพฯ--20 พ.ค.--กบข.
กบข. แนะสมาชิก กบข. ที่ถูกถ่ายโอนไปเป็นข้าราชการสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ( อปท.) ตาม พ.ร.บ. กระจายอำนาจฯ ยังคงสิทธิในการเป็นสมาชิก กบข. ต่อเนื่องต่อไป ส่วนสมาชิกที่ขอโอนย้ายไปสังกัดท้องถิ่นด้วยตนเอง ถือว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพ ต้องแจ้งขอรับเงินคืนจาก กบข.
นางอมฤดา สุวรรณจินดา ผู้ช่วยเลขาธิการสายสมาชิกสัมพันธ์และกิจกรรมสาธารณะ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยถึงสิทธิในการเป็นสมาชิก กบข. กรณีถ่ายโอนและกรณีโอนย้ายไปเป็นข้าราชการท้องถิ่น สำหรับสมาชิก กบข. ที่ถ่ายโอนไปเป็นข้าราชการท้องถิ่น ตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 นั้น ข้าราชการกลุ่มนี้จะยังคงเป็นสมาชิก กบข. อยู่ต่อเนื่องซึ่งเป็นไปตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2549 ดังนั้น สมาชิกจะยังคงต้องส่งเงินสะสม และยังได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากโครงการสวัสดิการของ กบข. ตามเดิม โดยส่วนราชการท้องถิ่นที่เป็นต้นสังกัดใหม่มีหน้าที่หักเงินสะสมจากเงินเดือนของสมาชิกและตั้งฎีกาเบิกเงินสมทบและเงินชดเชยนำส่งให้ กบข. อย่างไรก็ดี สมาชิกควรติดตามตรวจสอบด้วยว่าส่วนราชการต้นสังกัดเดิม และต้นสังกัดใหม่ มีการปรับฐานข้อมูลการโอนย้ายออกและโอนย้ายเข้าถูกต้องตรงกันหรือไม่ เพื่อความสมบูรณ์ของการนำส่งเงินและข้อมูลของสมาชิก
อย่างไรก็ตาม สำหรับสมาชิก กบข. ที่ขอโอนย้ายไปเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่นด้วยความสมัครใจของตนเอง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการถ่ายโอนตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 จะถือว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพการเป็นสมาชิก กบข. เนื่องจาก พรบ. กบข. มิได้กำหนดให้ข้าราชการส่วนท้องถิ่นเข้าเป็นสมาชิก กบข. ดังนั้น สมาชิกกลุ่มนี้จะต้องดำเนินการยื่นเรื่องเพื่อขอรับเงินคืนจาก กบข. และสมาชิกจะได้รับเงินในส่วนของเงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินดังกล่าวจาก กบข. โดยสามารถติดต่อได้จากหน่วยงานต้นสังกัดเดิม เพื่อกรอกแบบฟอร์มขอรับเงินคืน พร้อมเอกสารหลักฐานให้ครบถ้วนถูกต้อง เพื่อส่งมายัง กบข. ดำเนินการจ่ายเงินคืนแก่สมาชิกต่อไป
หากสมาชิกสนใจสอบถามข้อมูลใดๆ เพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก กบข. โทร.1179 กด 6 หรือที่ member@gpf.or.th