กรุงเทพฯ--21 พ.ค.--กกพ.
นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า วันนี้ (21 พ.ค. 52) คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ กับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือทางวิชาการ ในการสนับสนุนการวิจัยพัฒนา เพื่อรองรับแผนยุทธศาสตร์การกำกับกิจการพลังงาน พ.ศ.2551 — 2555 ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และเพิ่มขีดความสามารถด้านการกำกับกิจการพลังงาน เสริมศักยภาพกิจการไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติของประเทศ ซึ่ง MOU จะมีผลบังคับเป็นระยะเวลา 5 ปี
โดยมีกรอบและแนวทางของความร่วมมือครั้งนี้ คือ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กับ หน่วยงานที่มีความเป็นเลิศทางวิชาการของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย สถาบันวิจัยพลังงาน ศูนย์บริการวิชาการ คณะเศรษฐศาสตร์ และคณะวิศวกรรมศาสตร์ จะร่วมมือกันในการพัฒนาศักยภาพ ประสิทธิภาพ และการวิจัยพัฒนาด้านกิจการพลังงานและสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการและการบูรณาการด้านการวิจัยพัฒนา สร้างองค์ความรู้ด้านการกำกับกิจการพลังงาน เสริมสร้างศักยภาพกิจการพลังงานของประเทศให้เป็นมาตรฐานสากล รวมทั้งแลกเปลี่ยนความรู้ ทรัพยากรและบุคลากรในการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนการผลิตบุคลากร หรือพัฒนาบุคลากรเพื่อการเพิ่มพูนความรู้ที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจร่วมกันให้มีคุณภาพ มาตรฐาน และปริมาณที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ
“ความร่วมมือระหว่างคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือทางวิชาการ เพื่อรองรับแผนยุทธศาสตร์การกำกับกิจการพลังงาน พ.ศ.2551 - 2555 ให้สามารถนำไปสู่การปฏิบัติและเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม มีประสิทธิภาพ และมีทิศทางการดำเนินงานที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งหลายเรื่องมีความสำคัญต่อสังคมและเศรษฐกิจโดยรวม อาทิ การทบทวนความเหมาะสมของแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า และแผนขยายโครงข่ายพลังงานของประเทศไทย ส่วนผสมของเชื้อเพลิงที่ใช้ผลิตไฟฟ้าหรือ Fuel Mix รวมทั้งข้อเสนอแนะแนวนโยบายด้านอัตราค่าบริการ ตลอดจนผลประโยชน์และผลกระทบที่เกิดขึ้นจากทางเลือกต่างๆทั้งต่อผู้ใช้บริการ เศรษฐกิจและสังคม อันจะนำไปสู่การกำหนดนโยบายและมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวกับความมั่นคงและเชื่อถือได้ของระบบพลังงาน” นายดิเรกกล่าว