เรื่องย่อสวยแสบซิ่ง

ข่าวบันเทิง Monday May 25, 2009 14:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 พ.ค.--ประชาสัมพันธ์ ช่อง7 ชื่อเดิมขาว หมวย สวย แท็กซี่ [Pretty Taxi Driver] บทประพันธ์เรียว ช่อชรอุ่ม บทโทรทัศน์ วรพันธ์ รวี สร้างโดยดาราวีดีโอ นำแสดงโดยยุ้ย-จี รนันท์ มะโนแจ่ม, อ้วน-รังสิต ศิรนานนท์, อู๋-นวพล ภูวดล, การ์ตูน-อินทิรา เกตุวรสุนทร, ส้ม-ธัญสินี พรมสุทธิ์, เจน-ชมภูนุช ปิยภาณี ฯลฯ เรื่องย่อ เปรียวปราย คือชื่อจริงของเธอ แต่เพื่อนๆที่มหาวิทยาลัยในคณะบริหารธุรกิจ เรียกชื่อเล่นเธอว่า หมวย “ขาวอย่างนี้ หุ่นอย่างนี้ หน้าตาอย่างนี้ อินเทรนนะโว้ย พวกฉันซิ ทาครีมไว้เทนนิ่งทุกวันมันยังไม่ออกฤทธิ์เลย” เพื่อนหญิงกล่าวอย่างขำๆ หมวยเป็นขาลุยมีอุดมการณ์ของการเป็นแท๊กซี่ ที่ต้องซื่อสัตย์ต่อผู้โดยสาร หมวยเก็บเงินได้คืนเจ้าของ หมวยเป็นคนดีของสังคม ช่วยคนท้องคลอดลูกขณะไปโรงพยาบาล ร่วมกับ ทนง จราจรคู่ปรับกลางสี่แยก หมวยช่วยตำรวจจับผู้ร้าย หมวยจับผู้ร้ายเอง หมวยช่วยคนโดนอันธพาลเล่นงาน หมวยเป็นแกนนำในการเรียกร้อง สิทธิ์ของแทกซี่ สรุปแล้วหมวยทำได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งหนีตำรวจเพราะฝ่าไฟแดง และตำรวจคนนั้นคือทนงนั่นเอง หมวยกำลังเรียนปริญญาตรี สาขาบริหารธุรกิจ ยามว่างเสาร์อาทิตย์เธอก็เอารถแท๊กซี่ซึ่งเป็นมรดกของพ่อแต่ยังผ่อนไม่หมด ไปขับหาเงินเพื่อช่วยแม่และตัวเอง เธอกับแม่ นางลำไย เช่าทาวน์เฮ้าส์อยู่ ชั้นล่างเป็นร้านชำเล็กๆ หารายได้ไปวันๆ มีขาประจำและขาเม้าท์ประจำหมู่บ้านหลายคน ในจำนวนนี้ก็มี ยายสมร อยู่ด้วย ยายสมรทุกเช้าจะใส่บาตร สายหน่อยจะมานั่งที่ร้านแม่ลำไยเพื่อรับแทงหวย และเดินโพยหวยให้กับนายทุนใหญ่ที่ชื่อ อภิเดช วันธรรมดาถ้าร้อนเงินเปรียวก็จะขับรถในช่วงกลางคืน ซึ่งเสี่ยงมากสำหรับเธอ เพราะเธอเป็นสาวสวยระดับนางแบบเลยทีเดียว จริงๆเป็นคนอ่อนหวาน แต่ด้วยอาชีพที่ต้องปากกัดตีนถีบ แถมยังต้องป้องกันตัวเองจากมารสังคม จึงทำให้เธอกลายเป็นคนห้าว ใครพูดจาไม่เข้าหูเป็นโดนสวนกลับทันที อาวุธป้องกันตัวของเธอก็คือสีสเปรย์ ผู้โดยสารคนใดคิดไม่ดีเธอจะเอาสีสเปรย์พ่นใส่หน้าทันที คนร้ายบางคนถูกจับได้ก็ยังเถียงว่าเปล่าทั้งๆที่มีสีสเปรย์ติดอยู่เต็มหน้า รถแท๊กซี่ของหมวย นอกจากจะมีวิทยุสื่อสารในเครือข่ายของแท๊กซี่แล้ว ก็ยังมีวิทยุสื่อสารติดต่อกับมูลนิธิฯ ที่ช่วยเหลือคนประสบภัยอีกด้วย เปรียวได้เข้าร่วมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยบ่อยมาก จนได้รับคำชมเชยและโล่ห์จากทางมูลนิธิมากมาย สิบตรีทนง เป็นตำรวจสังกัดงานจราจรประจำ สน. แห่งหนึ่ง เขาเป็นตำรวจที่เคร่งครัดในหน้าที่ กำลังเรียนกฏหมายใกล้จบที่รามฯเพื่อสอบเป็นนายร้อยตำรวจ พ่อแม่ของหมู่ทนง คือนายเส และนางมูล เป็นชาวนาแถวอยุธยา เป็นหนี้ธนาคารและเป็นหนี้นอกระบบอีกเป็นเงินนับแสน หมู่ทนงจึงต้องเร่งเรียนให้จบเพื่อจะได้เลี้ยงพ่อแม่ต่อไป แต่ ธารินี น้องสาวของทนงซึ่งกำลังอยู่ในวัยเรียนไม่เป็นเช่นนั้น ธารินี เป็นคนเก่งคอมพิวเตอร์ แต่ไม่รักดี ไม่ยอมเรียนหนังสือเอาแต่เที่ยวเตร่ และพยายามคบหาเพื่อนชายที่ฐานะดี เพื่อต่อยอดในการเที่ยวสนุกสนานของเธอกับเพื่อนหญิงและเพื่อนตุ๊ด บ่อยครั้งที่เปรียวขับแท๊กซี่ผ่านสี่แยกแล้วต้องเจอกับหมู่ทนงที่ชอบมาดัก จับด้วยร้อยยิ้มของเขา เพราะเธอชอบขับเปลี่ยนเลนตรงเส้นทึบ ยูเทิร์นตรงช่วงที่ห้าม บางครั้งก็ฝ่าไฟเหลืองที่เปรียวเถียงหมู่ทนงว่ามันเป็นเหลืองอมแดง ถูกใบสั่งโดนปรับไม่รู้กี่ครั้งจนทั้งสองเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน แต่ก็มีหลายครั้งที่เปรียวเจอกับผู้โดยสารขี้เมา บางรายเป็นมิจฉาชีพ เป็นมารสังคม จวนตัวเข้าจริงๆ เธอก็โทรเรียก หมู่ทนงให้ขี่มอร์เตอร์ไซด์มาช่วย จับกันบ่อยๆ ต่อปากต่อคำกัน ช่วยเหลือกันก็หลายครั้ง หมู่ทนงก็เริ่มหลงรักเปรียวเสียแล้ว เขาเพียรพยายามไปด้อมๆมองแถวบ้านเปรียวพบเปรียวก็อ้างว่ามาตรวจพื้นที่ เดินเข้าไปขอกาแฟกิน พูดคุยทำความรู้จักกับนางลำไย นางลำไยเห็นตำรวจท่าทางสุภาพ พูดจาอ่อนหวานก็ชอบ แต่เปรียวนั้นแสนจะหมั่นไส้ วันหนึ่งขณะขับแท๊กซี่หาผู้โดยสารอยู่ เปรียวก็ได้ยินเสียงวิทยุจากศูนย์ ให้ไปรับชายคนหนึ่งที่ขับรถเบ็นซ์สปอร์ทแต่ทว่ายางแตกอยู่ที่ถนนสายหนึ่ง เปรียวตอบรับงานนี้เพราะเธออยู่ใกล้ เมื่อไปถึงจึงได้พบกับ อภิเดช หนุ่มรูปงามที่ยืนรอยู่ข้างรถสปอร์ท เธอรับอภิเดชไปส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่เขาบอกว่าจะไปประชุมกับลูกค้าส่วน เรื่องรถที่ยางแตกเดี๋ยวลูกน้องจะมาจัดการ อภิเดชให้ค่ารถ 2,000 บาท ซึ่งเปรียวบอกว่ามากเกินไป แต่เขาก็ขยั้นขยอจะให้ หลังจากนั้นตอนที่เปรียวเอาเงินไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ จึงรู้ว่าเป็นแบ๊งค์ปลอมทั้งสองใบ สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ อภิเดชซึ่งเป็นเจ้าของร้านทอง “ โกลเด้น มายร์” อันเป็นมรดกสืบทอดจากพ่อของเขาคือนายใต้สูน อภิเดชขยายกิจการร้านทองไปทั่วกรุงเทพฯ เท่านั้นไม่พอเขาดำเนินกิจการเป็นเจ้ามือหวยเถื่อนที่มียายสมรเป็นคนเดินโพย คนหนึ่ง ทำกำไรให้อย่างมากมาย ต่อมาเขาก้าวเข้าสู่กิจการพิมพ์แบ๊งค์ดอลล่าร์ปลอมเพื่อการส่งออกตามประเทศ ด้อยพัฒนา ล่าสุดเมื่อมีความชำนาญมากขึ้นจึงเริ่มกิจการพิมพ์แบ๊งค์พันปลอมของประเทศ ไทย และเงินสกุลอื่นๆในเอเชีย เรื่องนี้นางกิมไล้ แม่ของอภิเดชรู้เรื่องทั้งหมด เธอพยายามห้ามปรามลูกชายแต่ก็ไม่เป็นผล เขาเลือกที่จะไปทางเลว แม้ฐานะจะร่ำรวยกินโต๊ะจีนหูฉลาม เป็ดปักกิ่งทุกวัน แต่กิมไล้ก็ได้แต่หน้าชื่นอกตรม นางกิมไล้อยากให้ลูกชายหยุดพฤติกรรมชั่ว จึงพยายามหาเมียให้ เป็นลูกนักการเมืองและเป็นสาวไฮโซชื่อ สาวิกา อภิเดชก็ตามใจแม่ยอมสนิทสนมด้วยทั้งๆที่ไม่ชอบ แต่เขาก็หวังว่า อิทธิพลของนักการเมืองอาจช่วยเขาได้ในยามมีปัญหา อภิเดชปฎิบัต ิตัวแบบไฮโซทั่วไป ทุกภัตตาคาร ทุกผับ ต้อนรับเขาอย่างราชาในฐานะขาใหญ่ บ๋อย หรือกับตันที่แสดงอาการไม่ดีลูกน้องอภิเดชจะเรียกไปคุยหลังร้านและตบสั่งสอน คู่ขา และคู่ควงของอภิเดชที่ใครๆเห็นประจำคือ อรอนงค์ สาวร่อนเร่จากร้อยเอ็ด มาเป็นเด็กเสริฟในกรุงเทพฯ แต่รูปร่างดีหน้าตาดีจึงไต่เต้าขึ้นเป็น โคโยตี้ เป็นดาราประจำผับ ด้วยฤทธิ์เสน่ห์และการปรนเปรอทำให้อภิเดชรับเลี้ยงเธอไว้แบบเมียเก็บ และผู้หญิงอีกคนหนึ่งของอภิเดชก็คือ ธารินี น้องสาวของทนงนั่นเอง ธารินีรู้จักกับทนงในผับแห่งหนึ่ง และของานทำภายหลังจากตกเป็นของอภิเดชแล้ว เขาก็ให้ธารินีไปช่วยดูแลกิจการพิมพ์แบ๊งค์ปลอมของเขา ทนงก็สงสัยน้องสาวตัวเองอยู่เหมือนกัน ว่าระยะหลังมีเงินใช้จ่ายมากมาย แต่ธารินีก็บอกว่าเธอขายเครื่องสำอางค์แบบขายตรง ซึ่งจริงๆแล้วอภิเดชไม่ได้รักทั้ง สาวิกา อรอนงค์ และธารินี เพราะคนที่เขารักคือคนขับแท๊กซี่ที่ชื่อว่าเปรียว อภิเดชจะไม่ค่อยใช้รถ ส่วนตัวในระยะหลัง เขาจะเรียกแท๊กซี่ของเปรียวมาบริการ ถ่วงเวลาให้คอยในคอฟฟี้ช๊อบบ้าง แล้วก็ให้เงินที่เขายืนยันว่าไม่ปลอมแน่นอน เพราะเมื่อเที่ยวก่อนไปได้แบ๊งค์ปลอมมาแต่ไม่รู้ นานเข้าก็ชวนเปรียวกินข้าว ยื่นข้อเสนอว่าจะไถ่จำนองรถแท๊กซี่ของเปรียว เขาก็นัดวันไปทำจริงๆ ทำให้เปรียวกลายเป็นหนี้บุญคุณเขาไปอีก ต่อมาก็ชวนเปรียวไปกินข้าว แวะมาเยี่ยมที่บ้านพบกับแม่ลำไยเพื่อทำความคุ้นเคย นางลำไยก็ต้อนรับอย่างดีแต่ก็บอกกับเปรียวว่า ชอบคนที่เป็นตำรวจมากกว่า ซึ่งหมายถึงทนง เรื่องที่อภิเดชไปติดใจเปรียวนั้น อรอนงค์รู้เรื่องดี จึงส่งนักเลงไปคอยคุกคาม พยายามทำร้ายข่มขืนเปรียว แต่ทนงก็มาช่วยไว้ได้ หมู่ ทนงสอบได้ปริญญาตรีนิติศาสตร์ สอบได้เป็นตำรวจยศร้อยตรี หลังจากการฝึกภาคสนามของกรมตำรวจ ทนงก็อาสาเข้าทำงานในหน่วยสืบสวนสอบสวนของนครบาล เพราะเขาเป็นคนชอบเสี่ยงชอบผจญภัย งานสืบสวนสอบสวนในหลายคดีของเขาไปได้ดี และงานที่เขาได้รับมอบหมายเป็นพิเศษก็คือการสืบสวนกรณีของอภิเดชในฐานะผู้ ต้องสงสัยในกิจการอันผิดกฏหมายหลายคดี ทนงมีบัดดี้คู่ใจคือ จ่าสมศรี เป็นผู้ชายแต่พ่อแม่ตั้งชื่อไว้เป็นผู้หญิง ลุยงานปราบปรามมาเยอะ ขี้เล่นยิ้มหัวแม้ในยามวิกฤติ ทนงยังคงติดต่อกับเปรียวอย่างสม่ำเสมอ ส่วนใหญ่จะเป็นการเรียกรถมาใช้บริการ ระยะหลังเปรียวเห็นทนงเปลี่ยนไป คือแต่งตัวเซอร์ๆ นุ่งยีนขาด ใส่เสื้อยืดคลุมทับด้วยแจ๊คเก็ตแบบตำรวจนอกเครื่องแบบทั่วไป จึงสอบถามแต่ทนงไม่อยากให้เปรียวรู้ว่าเขาเป็นตำรวจและอีกอย่างหนึ่งก็ต้อง การจะลองใจ จึงโกหกเปรียวว่าเขาได้ลาออกจากราชการตำรวจแล้ว ปัจจุบันมีอาชีพค้ายาเสพติด เพื่อเร่งหาเงินและคงรวยในไม่ช้า และจะได้เอาเงินไปสู่ขอผู้หญิงผิวขาว หมวย สวย เซ็กที่เขารัก พอรู้เช่นนั้นเปรียวไล่ทนงลงจากรถทันที เพราะเธอไม่ต้องการให้พวกนักค้ายาเสพติดมาใช้บริการของเธอ เปรียวตัดสิน ใจไปแจ้งความที่ สน.ซึ่งทนงเคยเป็นตำรวจทำงานอยู่ สารวัตรใหญ่ พ.ต.ท. กมล ซึ่งรู้จัก ร.ต.ต.ทนงเป็นอย่างดี ว่าเป็นสายสืบของนครบาล และต้องเข้ามาขอความร่วมมือบ่อยๆ จึงได้แต่หัวเราะ หึ..หึ.. และบอกว่าการแจ้งความเลื่อนลอยแบบนี้ทำไม่ได้ ให้เปรียวไปหาหลักฐานมาก่อนจึงจะรับแจ้งความ เปรียวหงุดหงิดมาก เพราะเธอไม่ต้องการให้มารสังคมอย่างทนงลอยหน้าลอยตาได้อีกต่อไป ทุกครั้งที่ทนงเรียกใช้แท๊กซี่ เธอจะรีบไปรับทันทีเพื่อจะสืบให้ได้ว่า เขาค้ายาเสพติดอย่างไร และไปส่งให้ใครบ้าง ต่อมาเปรียวทำตัวเป็นมิตรกับทนง ออกตระเวณไปตามที่ต่างๆ แอบเฝ้าสังเกตดูพิรุธ ส่วนทนงก็ค่อยๆถามเรื่องราวเกี่ยวกับ อภิเดช เพราะเขารู้ดีว่าอภิเดชก็มาติดพันเธอและโทรเข้ามาหาเพื่อเรียกใช้บริการรถ บ่อยๆ จนทนงรู้ได้ว่าอภิเดชไปที่ไหนบ้าง และเริ่มออกสืบสวนพร้อมกับจ่าสมศรี ทางฝ่ายอภิเดชก็รู้ทันในเรื่องนี้ ว่า ทนงกำลังเล่นงานเขาอยู่ เขาจึงส่งอรอนงค์เมียเก็บของเขา ให้มาตีสนิทกับทนง โดยเริ่มแรกจากการไปแจ้งความว่าถูกวิ่งราวเสียแหวนเพชรมูลค่านับล้านที่ไว้ ในกระเป๋าถือ ต่อจากนั้นก็สร้างความสนิทสนม และติดต่อกับทนงเรื่อยมา จุดประสงค์ก็คืออยากรู้ความเคลื่อนไหวของทนง แต่ก็ไม่ได้เบาะแสอะไรมากนัก จึงวางแผนวางยาทนงและพาเข้าโรงแรม วันต่อมาก็เข้าแจ้งกับกองปราบว่า ทนงข่มขืนเธอ เรื่องนี้ทำให้ทนงถูกพักงานชั่วคราวจนกว่าการสอบสวนจะเสร็จเรียบร้อย แต่ทนงรู้ว่าตัวเองไม่ผิด จึงฝ่าฝืนออกทำงานต่อ เปรียวเริ่มเข้าใจทนงว่าเขาไม่ได้เป็นคนค้ายาอย่างที่เธอคิด จึงให้ความร่วมมือกับทนงในการจับกุม บักเคน กับ นางวอน สองพี่น้องขายไก่ย่างไม้ละห้าบาทเป็นแหล่งชุมุนมของแท๊กซี่ มอร์เตอร์ไซด์ ชาวบ้านทั้งรากหญ้าและคนชั้นกลางไม่เว้นแม่แต่พวกขับรถหรูและน้องหมาข้างถนน แวะเวียนซื้อไก่รอกินไก่และข้าวเหนียวของสองพี่น้อง เปรียวคือหนึ่งในนั้น ทนงก็เช่นกัน เพราะที่นั่นคือแหล่งข่าวชั้นดีของทั้งสอง และแหล่งนินทากาเลอีกแห่งหนึ่งของคนย่านนั้น วอนกับเคนจะรู้เห็นหมดผิดบ้างถูกบ้างต่อเติมบ้าง แต่ก็มีมูลความจริงเป็นพื้นฐาน ร.ต.ต.ทนง เปรียว และจ่าสมศรีเป็นทีมเดียวกัน สามารถเข้าจับแหล่งหวยเถื่อนได้ก่อน พร้อมคนเดินโพยหลายคนรวมทั้งยายสมรด้วย ต่อมาก็ทะลายแหล่งพิมพ์แบ๊งค์ปลอมได้ที่ร้านเกมส์แห่งหนึ่งซึ่งชั้นบนเป็น โรงพิมพ์ พร้อมหลักฐานมากมาย แต่...เขาก็ต้องจับ ธารินี น้องสาวของเขาด้วยเพราะอยู่ในโรงพิมพ์แบ๊งค์ขณะเข้าจับ ทนงเจ็บช้ำใจมาก คดีข่มขืนอรอนงค์ยังสอบสวนอยู่ นี่ก็เกิดมีคดีใหม่ที่น้องสาวตัวเองมีส่วนร่วมในการพิมพ์ธนบัตรปลอม น้องก็ยังเป็นน้อง ธารินี ระหว่างถูกควบคุมตัวอภิเดชไม่เคยเหลียวแล แต่ส่งลูกน้องมาข่มขู่ทุกวันว่าถ้าเผยความจริงเมื่อไหร่ ตายเมื่อนั้น เธอจึงตัดสินใจเผยความจริงทั้งหมดว่าอภิเดชเป็นตัวการใหญ่ ทนงเริ่มออกล่าอภิเดช เพราะรู้ว่าเขากำลังจะเดินทางออกนอกประเทศ ดักจับได้กลางทางเกิดการยิงต่อสู้กัน อภิเดชถูกยิงเสียชีวิต อรอนงค์รู้ข่าวก็มาดูศพ ร้องไห้ร้องห่ม เธอรับโทษสถานเบาในข้อหาแจ้งความเท็จ เชิงชาย นักข่าวอาชญากรรม เรียนคณะเดียวกันกับเปรียว เป็นพวกเรียนเป็นงานอดิเรกทำงานเป็นหลัก จึงเป็นนักศึกษาโค่ง โดนรีไทร์ไปแล้วก็หวนกลับมาเรียนใหม่ เป็นพวกกวนโอ๊ยเป็นคู่ปรับของทนง แอบชอบเปรียว ภายหลังสนิทกับเปรียว เปรียวหมั่นไส้ทนงจึงมักแอบให้ข่าวสำคัญกับเชิงชายแทนที่จะให้ทนง ทำให้ทนงไม่ชอบหน้าเชิงชาย เชิงชายก็ไม่ชอบหน้าทนง ซึ่งต่อมาได้เป็น ร.ต.ท.หรือหมวดทนง และได้แต่งงานกับเปรียวในที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ