กรุงเทพฯ--22 พ.ย.--ที. เค. เอส. เทคโนโลยี
TKS คว้า 3 รางวัลรวด ในงานประกวดสิ่งพิมพ์เอเชีย 4th ASIAN PRINT AWARDS 2006 ที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ประกอบด้วยรางวัลชนะเลิศ “Best of the Best" รางวัล “Gold Award " และรางวัล “Bronze Award" ระบุถือเป็นใบเบิกทางที่ช่วยขยายธุรกิจสิ่งพิมพ์สู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ และเป็นโอกาสที่จะได้รับงานมากขึ้น มั่นใจสิ้นปีดันรายได้สิ่งพิมพ์ทะลุ 1 พันลบ.
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการ บริษัท ที. เค. เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มีการประกาศผลการประกวดสิ่งพิมพ์เอเชีย ครั้งที่ 4 ประจำปี 2549 หรือ 4th ASIAN PRINT AWARDS 2006 ซึ่งจัดขึ้นที่ เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดยในงานประกวดดังกล่าวบริษัทฯ ได้รับรางวัลถึง 3 รางวัล คือ รางวัลชนะเลิศ “Best of the Best" ประเภท Best Innovative Use of the Printing Process รางวัล “Gold Award " ประเภท Innovation in Printing และรางวัล “Bronze Award"ประเภท Annual Financial Reports ซึ่งการได้รับรางวัลชนะเลิศในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้รับรางวัลชนะเลิศบนเวทีระดับภูมิภาคเอเชีย
เขากล่าวว่า ในการส่งผลงานเข้าร่วมประกวดในงาน 4th ASIAN PRINT AWARDS 2006 ครั้งนี้ เป็นการส่งโดยสมาคมการพิมพ์ไทย โดยได้นำผลงานของบริษัทฯ ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ “Best of the Best" ทางด้านการพิมพ์ประเภท More Than One Production Process และประเภทอื่นๆ ในงานประกวดสิ่งพิมพ์แห่งชาติ ครั้งที่ 1 ของสมาคมการพิมพ์ไทย เข้าประกวดในนามของประเทศไทย และ ผลงานของTKS ก็ได้รับรางวัลทั้ง 3 ประเภทดังกล่าว
"การได้รับรางวัลของ TKS ในครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จในเวทีระดับภูมิภาค ทำให้มั่นใจได้ว่างานพิมพ์ของเราไม่ได้ด้อยกว่าประเทศใดในภูมิภาคนี้ ดังนั้น หลังจากนี้น่าจะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของบริษัทได้มากยิ่งขึ้น และถือเป็นใบเบิกทางที่จะขยายธุรกิจไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ในอนาคตทั้งในและต่างประเทศ"
นายสุพันธุ์กล่าวอีกว่า ปัจจุบันธุรกิจการพิมพ์ของบริษัทแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ การพิมพ์ทั่วไป และการพิมพ์ด้วยเทคโนโลยีระดับสูง ซึ่งประกอบด้วย งานพิมพ์ปลอดการทำเทียม และงานพิมพ์ดิจิตอล โดยหลังจากที่โรงงานแห่งใหม่ของบริษัทได้เปิดเดินเครื่องอย่างเต็มรูปแบบแล้ว บริษัทจะขยายธุรกิจการพิมพ์ในกลุ่มเทคโนโลยีระดับสูงเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีผู้ประกอบการเพียงน้อยรายทำให้การแข่งขันไม่รุนแรง โดย ทางบริษัทเน้นการพัฒนาสินค้าในรูปแบบใหม่ๆ ที่แตกต่างจากคู่แข่ง จึงทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของสินค้าดังกล่าวปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับสิ่งพิมพ์แบบเดิม
โดยคาดว่าในปี 2550 รายได้จากธุรกิจการพิมพ์ขยายตัวได้ถึง 20% แม้ว่าเศรษฐกิจในประเทศยังขยายตัวไม่ได้อย่างเต็มที่เพราะยังรับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจในประเทศเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ในระดับ 5% ขึ้นไปเชื่อว่าธุรกิจสิ่งพิมพ์ของบริษัทจะเติบโตได้ถึง 30% ในอนาคต
ทั้งนี้ ในไตรมาสสุดท้ายของปีคาดว่าบริษัทจะสามารถทำรายได้จากธุรกิจสิ่งพิมพ์อีกประมาณ 150-200 ล้านบาท จากช่วง 9 เดือนที่บริษัทมีรายได้จากธุรกิจสิ่งพิมพ์อยู่ที่ 729 ล้านบาท ทำให้คาดว่าจนถึงสิ้นปีบริษัทจะมีรายได้ประมาณ 1 พันล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 20% จากปี 2548 ที่มีรายได้ประมาณ 800 ล้านบาท