กรุงเทพฯ--28 พ.ค.--บีโอไอ
รัฐมนตรีชาญชัย นำคณะกระทรวงอุตฯ และบีโอไอ โรดโชว์ประเทศอินเดีย เตรียมพบปะผู้ประกอบการอินเดีย กว่า 20 บริษัท ใน 2 เมืองใหญ่ด้านอุตสาหกรรม ทั้งมุมไบ และนิวเดลี เล็งดึงผู้ผลิตปุ๋ย-รถแทรกเตอร์สำหรับภาคเกษตร ขยายฐานการผลิตมาไทย ชูศักยภาพเป็นศูนย์กลางขยายฐานส่งออกในภูมิภาค ด้านเลขาธิการบีโอไอ เผยเตรียมแผนโรดโชว์อินเดียเพิ่มหวังผลักดันการลงทุนร่วมกันในอนาคต
นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 2-7 มิถุนายน 2552 กระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และสถาบันยานยนต์ จะเดินทางไปชักจูงการลงทุน (โรดโชว์) ณ ประเทศอินเดีย เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และสร้างความรู้ความเข้าใจแก่นักธุรกิจในการตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
โดยกิจกรรมการเดินทางครั้งนี้ จะได้พบปะกับ ผู้ประกอบการของไทยที่ได้เข้าไปลงทุนในอินเดีย และหารือร่วมกับผู้ประกอบการรายใหญ่ของอินเดีย ใน 2 เมือง ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญของอินเดีย ได้แก่ มุมไบ และนิวเดลี ประกอบด้วยกลุ่มนักธุรกิจในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนฯ อุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร อุตสาหกรรมผลิตปุ๋ยและเคมีภัณฑ์ รวมกว่า 20 บริษัท เช่น บริษัท Deepak ผู้ผลิตปุ๋ยและเคมีภัณฑ์รายใหญ่ระดับโลกของอินเดีย กลุ่มบริษัท เบอร์ลา ซึ่งเป็นผู้ผลิตสิ่งทอ และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังจะเยี่ยมชมโรงงานของ บริษัท ทาทา มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์เล็กรุ่นนาโนที่มีชื่อเสียงในประเทศอินเดีย และที่ผ่านมาได้เข้ามาลงทุนผลิตรถปิกอัพในประเทศไทยแล้ว และเตรียมลงทุนในโครงการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล (อีโคคาร์)
รวมถึงเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถแทรกเตอร์ขนาดเล็ก ของบริษัทอินเดียรายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถแทรกเตอร์ที่ใช้ในการเกษตร รายใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของอินเดีย ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะขยายตลาดการส่งออกรถแทรกเตอร์ขนาดเล็กมายังภูมิภาคอาเซียน ซึ่งนับเป็นโอกาสของไทยที่จะให้ข้อมูล และกระตุ้นให้บริษัทตัดสินใจเลือกที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยในอนาคต
“ประเทศอินเดียเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ และยังคงขยายตัวเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับเป็นประเทศที่มีศักยภาพ และเป็นเป้าหมายสำคัญที่จะชักจูงให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยการโรดโชว์ครั้งนี้มั่นใจว่าจะสร้างความรู้และความเข้าใจ เป็นโอกาสชี้แจงถึงนโยบาย และแนวทางการส่งเสริมการลงทุนของไทยที่พร้อมรองรับการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งให้ข้อมูลที่นักธุรกิจจะใช้ในการพิจารณาตัดสินใจเลือกไทยเป็นประเทศแรก ๆ ในการเข้ามาลงทุน หรือย้ายฐานการผลิต” นายชาญชัย กล่าว
นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการ บีโอไอ กล่าวว่า อินเดีย เป็นประเทศที่มีศักยภาพในการเป็นผู้ผลิตสินค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ ซอฟต์แวร์ เคมีภัณฑ์ อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร สิ่งทอ เป็นต้น เนื่องจากมีความพร้อมจากทั้งด้านแรงงาน และเทคโนโลยี โดยเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศตลาดใหม่ที่บีโอไอให้ความสำคัญ และจะเร่งผลักดันให้เกิดการลงทุนระหว่างไทยและอินเดียมากขึ้น
โดยคณะโรดโชว์ครั้งนี้ จะเน้นรูปแบบของการชักจูงให้นักธุรกิจอินเดียเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และเตรียมแนวทางส่งเสริมให้นักลงทุนของไทยเข้าไปลงทุนในประเทศอินเดียในอนาคต โดยภายในปี 2552 นี้ บีโอไอยังจะจัดคณะชักจูงการลงทุนออกไปยังประเทศอินเดียอย่างน้อยอีก 3 ครั้ง ซึ่งจะรวมถึงการนำนักธุรกิจไทยออกไปดูลู่ทางการลงทุนในประเทศอินเดียด้วย เพื่อกระตุ้นให้ผู้ผลิตไทยเห็นถึงโอกาสในการเข้าไปลงทุนเพื่อลดต้นทุนการผลิต และขยายตลาดสินค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นประเทศที่มีขนาดตลาดใหญ่เนื่องจากจำนวนประชากรที่มีมาก
ทั้งนี้ ในปี 2551 ที่ผ่านมา บีโอไอได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนแก่นักธุรกิจจากประเทศอินเดีย รวมทั้งสิ้น 21 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 9,592 ล้านบาท ครอบคลุมในกิจการซอฟต์แวร์ เครื่องประดับ อุตสาหกรรมเหล็กแผ่นรีดร้อน และอุตสาหกรรมยานยนต์ สำหรับในช่วง 4 เดือนแรก ปี 2552 (มกราคม-เมษายน) อนุมัติส่งเสริมการลงทุนแล้ว 3 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 151 ล้านบาท ในกลุ่มเคมีภัณฑ์ อุตสาหกรรมการเกษตร และอุตสาหกรรมบริการ เป็นต้น
สำหรับผู้ประกอบการอินเดียรายใหญ่ที่เข้ามาลงทุนในไทยแล้ว เช่น บริษัทอินโดรามา โพลิเมอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ทาทา มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอ็น ที เอส สตีล กรุ๊ป จำกัด และบริษัท อัลวา อลูมิเนียม จำกัด เป็นต้น