กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต
กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต โชว์วิสัยทัศน์ก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของไทยในการให้บริการด้านความคุ้มครองทางการเงินและการบริหารจัดการสินทรัพย์ เน้นการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น นำโครงสร้าง KBB มาใช้ในแบงก์แอสชัวรันส์ พร้อมพัฒนาโครงสร้างฝ่ายปฏิบัติการให้ครบวงจร สิ่งที่ชี้ชัดที่สุด คือ เบี้ยประกันรับรวมเติบโต 91 %
มร.มาร์ค เพอร์สโลว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยว่า วิสัยทัศน์
ของบริษัทฯ คือ ได้รับการยอมรับเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย ในการให้บริการด้านความคุ้มครองทางการเงินและการบริหารจัดการสินทรัพย์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ในปี 2549 นี้ บริษัทฯจึงมีทิศทางการดำเนินธุรกิจ ดังนี้
1. บริษัทฯมีแผนในการขยายเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมและการให้บริการที่ดีทั่วถึงแก่ลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์ของบริษัทฯ โดยล่าสุดคุณตวงพร เลาหบุตร พร้อมทีมงานเข้ามาร่วมงานเป็นพลังตัวแทนฝ่ายขายของบริษัทฯ ซึ่งคุณตวงพรคาดการณ์ว่าภายในปี 2549 นี้จะสามารถผลิตเบี้ยประกันรับปีแรกได้ 500 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทฯยังมีแผนในการขยายการจัดจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น
2. บริษัทฯ ได้นำโครงสร้าง Krungthai — AXA Bancassurance Blueprint (KBB) ซึ่งเป็นโครงสร้างการบริหารงานฝ่ายขายในช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านธนาคาร ประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ได้แก่ ผลตอบแทนที่ยอดเยี่ยม อาชีพที่ยิ่งใหญ่ การสนับสนุนที่แข็งแกร่ง และชีวิตที่สมบูรณ์แบบ โดยโครงสร้างใหม่นี้บริษัทฯได้นำมาใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549
3. บริษัทฯได้ปรับปรุงโครงสร้าง TAB โดยเน้นในเรื่องการสนับสนุนที่ดี กล่าวคือ บริษัทฯพร้อมจะให้การสนับสนุนที่ดีแก่ผู้บริหารและตัวแทนมากยิ่งขึ้น ในด้านการฝึกอบรม การจัดกิจกรรมที่สนับสนุนงานขาย เทคนิคและอุปกรณ์การขายที่ดี เป็นต้น
4. บริษัทฯได้ปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างฝ่ายปฏิบัติการใหม่ โดยการจัดแบ่งประเภทหน่วยงานการให้บริการอย่างชัดเจน เช่น หน่วยงานการให้บริการแก่ตัวแทน หน่วยงานการให้บริการลูกค้า เป็นต้น เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าและตัวแทนได้อย่างครบวงจรและสะดวกรวดเร็ว
5. บริษัทฯจะออกแบบประกัน Universal Life เพื่อสนองความต้องการของลูกค้าในด้านการลงทุนและความคุ้มครองชีวิต ประมาณกลางปีนี้
6. บริษัทฯได้พัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพความรู้ให้แก่ผู้บริหาร และพนักงานทุกคน ทั้งในด้านความรู้ภาษาอังกฤษ การเพิ่มทักษะความรู้ในการทำงาน การจัดกิจกรรมเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดจากงาน เป็นต้น
สำหรับในปี 2548 ที่ผ่านมา บริษัทฯมีผลการดำเนินงานที่ดีเยี่ยม ทั้งในด้านยอดขาย การพัฒนาคุณภาพธุรกิจ
และการพัฒนาบุคลากรของบริษัทฯ มีการเติบโตเป็นอย่างสูง กล่าวคือ ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯมีเบี้ยประกันรับรวม 2,756 ล้านบาท เติบโต 91 % แยกเป็น
ประเภท ปี 2547 ปี 2548 เติบโต (%)
เบี้ยประกันรับปีแรก 416.318 891.031 114
เบี้ยประกันรับปีต่อไป 795.623 1,149.739 45
เบี้ยประกันชำระครั้งเดียว 144.792 715.113 394
เบี้ยประกันรับรวม 1,444.438 2,755.833 91
หน่วย:ล้านบาท
ปัจจัยที่ส่งผลให้บริษัทฯมีการเติบโตอย่างสูง เนื่องจากในปีที่ผ่านมาบริษัทฯได้ดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาหลาย ๆ ด้าน ได้แก่
1. การนำโครงสร้าง Thailand Agency Blueprint (TAB) มาใช้ ซึ่งเป็นโครงสร้างการบริหารงานตัวแทนที่ตอบสนองการสร้างผลตอบแทนที่ดี การสนับสนุนที่ดี และอาชีพที่ดีให้แก่ผู้บริหารตัวแทนและตัวแทน ส่งผลให้บุคลากรเหล่านี้มีกำลังใจในการสร้างผลผลิตเพิ่มมากขึ้น
2. ด้านการจัดจำหน่ายผ่านธนาคาร บริษัทฯได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากบมจ.ธนาคารกรุงไทยตลอดมา โดยลูกค้าของธนาคารสามารถซื้อแบบประกันของบริษัทฯได้จากสาขาของบมจ.ธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ ปัจจุบันบริษัทฯมีที่ปรึกษาวางแผนทางการเงินประจำอยู่ในสาขาของธนาคารกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ
3. การพัฒนาและปรับปรุงแบบประกันสัญญาเพิ่มเติมใหม่ 10 แบบ ให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนคนไทยในด้านความคุ้มครองชีวิตเพิ่มมากขึ้น
4. กิจกรรมพัฒนาความรู้เพิ่มประสิทธิภาพฝ่ายขายและสรรหาฝ่ายขายคุณภาพ โดยการจัดหลักสูตรฝึกอบรมให้แก่ฝ่ายขายอย่างสม่ำเสมอ เช่น กิจกรรมสโมสรกาแฟทอง กิจกรรมวิชาการวันพุธ กิจกรรมกรุงไทยสปิริต และกิจกรรมอาชีพเพื่อชีวิต เป็นต้น
5. การพัฒนาบุคลากร ในช่วงปีที่ผ่านมาเรามีกิจกรรมในการพัฒนาจริยธรรมและสร้างสรรค์วัฒนธรรมของกรุงไทย แอกซ่าให้แก่พนักงาน ซึ่งบริษัทฯมีการประสานความเป็นสากลและท้องถิ่นไว้ด้วยกัน ทั้งนี้บริษัทฯได้เห็นความสำคัญในการลงทุนฝึกอบรมและหลักสูตรการพัฒนาสำหรับพนักงาน เนื่องจากปรัชญานี้ บริษัทฯจึงสนับสนุนให้พนักงานทุกคนได้รับการฝึกฝนและพัฒนาความรู้ความสามารถของตนเองเพิ่มมากขึ้น นอกจากสนับสนุนการเรียน LOMA แล้ว บริษัทฯยังสนับสนุนการเรียนภาษาอังกฤษ คอมพิวเตอร์ โดยขึ้นอยู่กับความต้องการของพนักงานแต่ละคน และในปี 2548 บริษัทฯได้ส่งพนักงานที่มีความรู้ความสามารถไปฝึกอบรม และเข้าคอร์สอบรมในประเทศต่าง ๆ ที่กลุ่มแอกซ่ามีสาขาดำเนินการอยู่ เช่น ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย ฮ่องกง และสิงคโปร์ มร.โรเจอร์ ดีคอน รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายตัวแทน กล่าวว่า ในปี 2549
ส่วนของช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านตัวแทน มีแผนงานที่จะขยายจำนวนตัวแทนเพิ่มมากขึ้น จากเดิมมีอยู่ 1,800 คน เพิ่มเป็น 2,500 คน โดยปัจจุบันอัตราผลผลิตของฝ่ายตัวแทนของบริษัทฯมีอัตราสูงกว่า อัตราผลผลิตเฉลี่ยของทั้งธุรกิจถึง 3 เท่า เราภูมิใจในผลผลิตของปี 2548 เป็นอย่างยิ่ง และเรามุ่งมั่นที่จะก้าวต่อไปอย่างมั่นคงในระยะยาว โครงสร้างฝ่ายตัวแทน TAB ยังเป็นโครงสร้างที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด อาชีพที่ดีที่สุด และการสนับสนุนที่ดีที่สุด ซึ่งเรายินดีที่จะต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกท่าน ที่ประสงค์จะมาร่วมงานกับบริษัทฯที่มั่นคงและแข็งแกร่งเช่นเรา
ดร.รันเดียร์ ชาร์มา รองประธานอาวุโสฝ่ายจัดจำหน่ายผ่านธนาคาร กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯได้เปิดตัวโครงสร้างการจัดจำหน่ายผ่านธนาคารแบบใหม่ โดยมีโครงการนำร่อง 14 สาขาของบมจ.ธนาคารกรุงไทย ซึ่งให้ผลที่ดีเยี่ยม และในปีนี้บริษัทฯจะนำโครงสร้างดังกล่าวมาใช้กับสาขาของบมจ.ธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการที่ไปในทิศทางเดียวกับวิสัยทัศน์ของบมจ.ธนาคารกรุงไทย ตลอดจนบริษัทในเครือของธนาคารกรุงไทยทุกแห่ง คือ การเป็นธนาคารที่ให้ความสะดวกแก่ลูกค้า (Convince Bank)
“ผมมั่นใจว่าปี 2549 จะเป็นปีที่กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต ประสบผลสำเร็จมากขึ้น เพราะเรามีผู้ถือหุ้นที่แข็งแกร่งให้การสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ และเรามีทีมงานทั้งฝ่ายขายและบริษัทที่ทุ่มเทกำลังกายกำลังใจในการร่วมกันสร้างผลงานอย่างเต็มที่ ซึ่งสุดท้ายสิ่งเหล่านี้จะสะท้อนกลับมาในรูปของการให้บริการที่ดีเยี่ยมแก่ลูกค้าและประชาชนคนไทย “ มร.มาร์ค กล่าวในตอนท้าย
ทั้งนี้กลุ่มแอกซ่าได้รับการจัดอันดับให้เป็นที่ 1 ในหมวดธุรกิจประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ในด้านรายได้และหุ้นจากนิตยสารฟอร์จูน โกลบอล 500 ฉบับประจำปี 2004 และปี 2005 และในปี 2548 กลุ่มแอกซ่ามีผลการดำเนินงานที่ดีเยี่ยม โดยมี
ผลประกอบการของธุรกิจประกันชีวิตและการออมมีเบี้ยประกันแรกเพิ่มขึ้น 11 % ในขณะที่มูลค่ารวมของธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 % เป็น 1.1 พันล้านยูโร
รายได้จากธุรกิจประกันภัยสินทรัพย์และอุบัติเหตุ เพิ่มขึ้น 3 % เป็น 18.9 พันล้านบาท และอัตราเติบโตรวมเพิ่มขึ้น 0.8 % เป็น 97.7 %
รายได้จากธุรกิจบริหารสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 14 % เป็น 3.4 พันล้านยูโร ซึ่งรายได้สุทธิจำนวน 56 พันล้านยูโร ถือว่าสูงมากเป็นสถิติ
มูลค่าหลักทรัพย์ภายใต้การบริหาร ซึ่งรวมถึงหลักทรัพย์ของกลุ่มบริษัทที่ไม่ได้บริหารโดย AXA Investment Managers และ Alliance Bernstein สูงเป็นสถิตที่ 1,064 พันล้านยูโร
รายได้หลักที่เพิ่มขึ้น 24 % เป็น 3.3 พันล้านยูโร ในขณะที่รายได้จากธุรกิจประกันชีวิตและการออม ประกันสินทรัพย์และอุบัติเหตุและการบริหารหลักทรัพย์มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 20 %
เงินปันผลที่เสนอเป็นมูลค่า 0.88 ยูโรต่อหุ้น ซึ่งถือเป็นอัตราส่วนที่สูงกว่าปีก่อน 44 % และเป็นร้อยละ 40 ของอัตราการจ่ายตามรายได้ปรับปรุง ยอดเงินปันผลในปี 2549 มีมูลค่าประมาณ 1.6 พันล้านยูโรของโครงการ ฏDilution control program และการควบรวมกิจการ ระหว่าง AXA — Finaxa ทำให้เงินทุนของบริษัทลดลง 1.2 พันล้านยูโร
ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นตามรายได้ปรับปรุงเพิ่มเป็นร้อยละ 18
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อ
ศุลีพร ยงวิทิตสถิต 0-2654-3150 ต่อ 516